บนโลกใบนี้ ระยะห่างระหว่างมนุษย์กับบาปแห่งความชั่วนั้นห่างไกลกันเท่าไหร่กันแน่?
เส้นหมี่ไม่เคยคิดถึงปัญหาเรื่องนี้เลยนี้
ในช่วงหลายปีท่านผ่านมา เธอผ่านเรื่องราวมาก็มากมาย ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้จนถึงการถูกบีบบังคับให้ต้องเติบโตในชั่วข้ามคืน ไปจนถึงจากความกระตือรือร้นอย่างเปี่ยมล้นจนถึงการถูกบีบบังคับจนพังพินาศไปกับตา เธอเองก็ผ่านช่วงอุปสรรคของชีวิต ประสบกับลมฝนพายุมานับไม่ถ้วน
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่เคยคิดถึงประโยคนี้เลย
จนกระทั่งตอนนี้ เธอเห็นชายหนุ่มคนนี้ล้มลงต่อหน้าของเธอ
“มันคือโซเดียมไซยาไนด์ เขา....ทำไมมีสิ่งนี้อยู่ในปาก?”
เส้นหมี่คุกเข่าลงบนพื้นและประคองชายหนุ่มคนนี้ที่ยังมีเลือดสีดำพุ่งออกมาจากในปากไม่หยุด สายตาจ้องมองไปยังผู้ชายคนที่เดินเข้ามาอย่างไม่ละสายตา แม้แต่น้ำเสียงก็สั่นระรัว
แสนรักไม่พูดอะไร
แต่ สายตาของเขาจ้องมองไปที่ชายหนุ่มคนนี้ และมีบางอย่างที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ลึกๆ
ราวกับว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า น่าสะพรึงกลัวที่สุด
ดราก้อน แชนท์ของตระกูลหิรัญชา ปกติคนที่เข้าไปได้ ล้วนเป็นแต่บุคคลที่ตายไปแล้ว พวกเขาไม่ได้ถูกบีบบังคับ แต่เป็นเพราะได้รับพระคุณจากตระกูลหิรัญชาเป็นอย่างมาก ฉะนั้น หลังจากที่พวกเขาสามารถออกมาปฏิบัติหน้าที่แล้ว ในมือของทุกคนก็จะถือยาปลิดชีพอยู่คนละหนึ่งเม็ด
และยาปลิดชีพนี้ ก็คือทำมาจากโซเดียมไซยาไนด์ จุดประสงค์คือตอนที่เจออันตรายที่สุด ก็ยังคงเก็บรักษาความลับของตระกูลหิรัญชาไว้ได้
กาวินเองก็มี
แต่ แสนรักไม่เข้าใจว่า เขาทนมาได้นานขนาดนี้แล้ว ทำไมหลังจากที่เจอเขาแล้ว? จึงได้กัดสิ่งนี้ที่ซ่อนอยู่ในปากได้
แสนรักค่อยๆ นั่งยองลงมาต่อหน้าของลูกน้องเก่าคนนี้
“นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย ฉัน...ไม่เคยโทษนายเลย”
เขาเข้าใจว่า ชายหนุ่มคนนี้รู้สึกผิดโทษตัวเองที่ตอนนั้นปกป้องเขาได้ไม่ดีพอ จึงได้ฆ่าตัวตายหลังจากที่เจอเขาแล้ว
แต่ ชายหนุ่มที่เลือดออกเต็มปากกลับส่ายหน้า
เขาอ้าปากเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ในลำคอที่ว่างเปล่านั้น ไม่มีเสียงใดๆดังออกมาเลย ดังนั้นในตอนท้าย เขาค่อยๆยกมือตัวเองขึ้นมาอย่างช้าๆ ใช้นิ้วก้อยเพียงนิ้วเดียวที่เขายังสามารถขยับได้ เขียนคำสองสามคำลงในฝ่ามือของแสนรักทีละตัวๆ
แสนรักก้มศีรษะดู
เส้นหมี่เองก็จ้องมองไปดูด้วย
แต่เธอดูไม่เข้าใจ ดูเหมือนว่าตัวอักษรที่ชายหนุ่มคนนี้เขียนนั้นไม่ใช่คำทั่วไป แต่เป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่เธอดูแล้วไม่เข้าใจ
สิ่งเดียวที่เธอดูออกก็คือ ผู้ชายตรงหน้าคนนี้ สีหน้าบนใบหน้าอันหล่อเหลานั้นยิ่งดูก็ยิ่งประหลาดใจ จนถึงตอนสุดท้าย ก็เริ่มที่จะดูบูดเบี้ยวบ้างเล็กน้อยไปตามขีดตัวอักษรที่ชายหนุ่มคนนี้เขียน!
จากนั้น จนกระทั่งกาวินเขียนเสร็จ เขายังนั่งยองอยู่ตรงนั้นโดยไม่ขยับ
เส้นหมี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือ คิดดูว่าจะช่วยชีวิตชายหนุ่มคนนี้ให้รอดหรือไม่?
แต่ เมื่อเธอจับชีพจรของเขา กลับพบว่าเกือบจะจับชีพจรไม่ได้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก