“คุณพูดว่าอะไรนะคะ”
เหมือนกับสายฟ้าฟาดลงมาในวันที่ฟ้าใส เส้นหมี่ที่ยืนตัวที่นั่นไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน หลังจากได้ฟังคำพูดนี้ จึงอึ้งไปทันที!
เขาจะไล่เธอออก?
ไม่ เธอไม่สามารถไปได้ ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก พวกเด็กๆก็มาแล้ว เธอจะไปได้อย่างไร?
เส้นหมี่ร้อนรนขึ้นมาแล้ว:“ไม่ใช่นะคะ คุณท่าน คุณฟังฉันอธิบายก่อน อาการป่วยของคุณแสนรักไม่ใช่ธรรมดาทั่วไป เขารีบร้อนไม่ได้ เขา......”
“ให้เวลาคุณตั้งสี่เดือนแล้ว ตอนนี้คุณยังพูดคำพูดแบบนี้กับผมงั้นเหรอ หมอคิตตี้ถ้าไม่เห็นแก่คุณไพบูลย์อาจารย์ของคุณ ผมให้คุณไปตั้งนานแล้ว!”
ประโยคสุดท้ายนี้ ตาแก่คนนี้ไม่เกรงใจอย่างมาก
ทันใดใบหน้าของเส้นหมี่ซีดขาวขึ้นมาแล้ว!
เธอไม่รู้ว่าควรจะโต้แย้งไปยังไงดี?
แน่นอนว่าชายหนุ่มนั้นดีขึ้นมา เขากำลังฟื้นตัว แต่ว่าสิ่งเหล่านี้ เธอไม่สามารถบอกเขาได้ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้จักศัตรูอย่างแน่แท้ ใครจะไปรู้ว่าเธอบอกเขาไปแล้ว ผลที่ตามหลังมาจะเป็นอย่างไร?
เป็นไปได้ว่า เขายอมรับอย่างเต็มใจ
เป็นไปได้ว่า เพราะว่าแสนรักมีสติเป็นปกติขึ้นมา อาจจะดึงดูดความแค้นของไชยันต์ขึ้นมามากกว่าเดิม เพราะว่า โศกนาฏกรรมทั้งหมดนี้ ต่างมาจากพ่อของเขาขุนนายเป็นคนเริ่ม
เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เขายอมรับไม่ได้ แล้วไม่อยากให้เขาสติดีขึ้นมาล่ะ?
ใครจะไปรู้ เธอเส้นหมี่ยิ่งไม่กล้าเอามาเดิมพัน!
“ไม่ คุณท่าน คุณฟังฉันอธิบายก่อน เรื่องเรื่องนี้ ต่อให้เป็นศาสตราจารย์ไพบูลย์มาเอง ก็เป็นเหมือนกันกับฉัน อาการป่วยของคุณแสนรักนี้ ไม่สามารถรีบร้อนได้”
“ดังนั้น แม้แต่เขาผมก็ไม่เรียกมาแล้ว”
“อะไรนะคะ”
สีหน้าของเส้นหมี่เปลี่ยนไปอย่างมาก!
แม้แต่......ไพบูลย์ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว
“เอาล่ะ คุณทำงานอยู่ที่นี่อย่างเหน็ดเหนื่อยมาสี่เดือน ผมก็ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยอะไร เงินเดือนที่ควรจะให้คุณ ก็จะไม่ขาดแม้แต่บาทเดียว คุณไปเก็บของเถอะ ภายในหนึ่งชั่วโมง พาลูกของคุณออกไปจากที่นี่ซะ”
ประโยคสุดท้ายของไชยันต์สั่งคำขาดออกมา หลังจากนั้นวางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแรง เขายืนขึ้นแล้วเดินออกไป
เส้นหมี่มองไปอย่างอึ้งทึ่ง!
เธอยืนอยู่ด้านหลังมองดูตาแก่คนนี้เดินจากไป ร่างกายกระสับกระส่าย เหมือนกับถูกน้ำเย็นราดลงมาหนึ่งกะละมัง ทั้งร่างเย็นวาบขึ้นมา
ทำไมถึงได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน?
เมื่อคืน ไม่ใช่ว่าเขารับปากเธอว่าให้พาแสนรักไปซื้อเสื้อผ้าหรอกเหรอ?
ใช่ แสนรัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยัยหมอวายร้ายที่รัก