สุดท้ายยังเป็นขันทีขานเสียงดังทีหนึ่ง ถึงดึงสติของทุกคนกลับมาได้
“พระชายาหาน ยิงเข้ากลางเป้าทั้งสิบดอก”
เงียบ
ยังคงเป็นความเงียบงัน
พักหนึ่ง องค์หญิงตังตังถึงตะโกนขึ้น “เจ้าโกง!”
กู้ชูหน่วนแบมือทั้งสองออก ถูกปรักปรำเล็กน้อย “องค์หญิงตังตัง ทรงเริ่มเล่นแง่อีกแล้วนะเพคะ หม่อมฉันโกงที่ไหน ทรงลองว่ามาสิ หม่อมฉันขอให้คนช่วยหม่อมฉันยิงหรือ? หรือว่าขอให้ใครเก็บลูกธนูปักที่ใจกลางเป้า?”
องค์หญิงตังตังสะอึก
คนจำนวนไม่น้อยต่างตำหนิองค์หญิงตังตัง
ก่อนหน้านี้นางประลองกับกู้ชูหน่วนหลายครั้ง แต่ก็แพ้ให้กับกู้ชูหน่วน ทุกครั้งก็เล่นแง่ใส่ความว่าคนอื่นโกง
โกงหรือไม่ ทุกคนเห็นอย่างชัดเจน
หลิวเยว่กับอวี่ฮุยเอ่ยอย่างเลื่อมใส “ลูกพี่ เรานึกว่าท่านชำนาญบุ๋นมาตลอด คิดไม่ถึงว่าการยิงธนูท่านก็เก่งกาจขนาดนี้ เมื่อไรท่านจะสอนพวกเราได้ เราก็อยากยิงสิบเข้าสิบเหมือนกัน ไม่ ยิงร้อยเข้าร้อย!”
“วางใจ เวลาเยอะแยะ เอาไว้พรุ่งนี้มีเวลา ข้าค่อยสอนพวกเจ้า” กู้ชูหน่วนกะพริบตา
องค์หญิงตังตังตะคอกด้วยโทสะ “ยังมีอีกรอบ ได้ใจอะไร ในเมื่อเป็นการแข่งยิงธนู ข้าย่อมไม่กลับคำไปแข่งอย่างอื่น รอบที่สามยังเป็นการยิงธนู”
“ได้สิเพคะ จะแข่งอย่างไร?”
“ข้าจะเพิ่มวงล้อไฟสิบอัน วงล้อไฟที่ลุกไหม้ เจ้าขี่ม้า ข้ามวงล้อไฟทั้งสิบทั้งคนทั้งม้า แล้วยิ่งธนูคราวละสิบดอก สิบดอกต้องเข้าใจกลางเป้า”
“ฉะนั้น หม่อมฉันยิงคราวละสิบดอก ครั้งเดียวก็พอ?”
“ผิด ครั้งละสิบดอก ข้าต้องการให้เจ้ายิงสิบครั้ง หนึ่งร้อยดอก และทุกครั้งก็ต้องข้ามวงล้อไฟสิบวงทั้งคนทั้งม้า”
ครั้นวาจานี้ออกมา คนในที่นี้จำนวนไม่น้อยต่างเดือดดาล
การนี้องค์หญิงตังตังทำเกินไปแล้ว!
แม้นเป็นเย่จิ่งหานเทพสงครามก็ยากจะทำได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอิสตรี
หลิวเยว่กับอวี่ฮุยเดือดเป็นคนแรก “องค์หญิง! นี่จะกลั่นแกล้งกันเกินไปแล้วกระมังพ่ะย่ะค่ะ ใครก็รู้ว่าม้ากลัวไฟ วงล้อไฟมากมายเช่นนั้น ม้าจะกล้าข้ามไปได้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ?”
“นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ แล้วยังทรงต้องการให้นางยิงครั้งละสิบดอก นางเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ อย่าว่าแต่สิบดอก ถึงจะครั้งละสามดอก นางก็ไม่แน่ว่าจะดึงคันศรได้ เช่นนี้เป็นการรังแกคนชัดๆ!”
“หากนางทำไม่ได้ ก็ยอมแพ้ได้นี่ ข้ามิได้บังคับนาง”
“องค์หญิง...!”
หลิวเยว่กับอวี่ฮุยโมโหจนอยากเอาชีวิตเข้าแลกกับนาง
กู้ชูหน่วนส่งสายตาทีหนึ่ง ไม่ให้พวกเขาทำตามอำเภอใจ ส่วนตนเองก็เอ่ยอย่างสดชื่น “ในเมื่อองค์หญิงนึกสนุกเช่นนี้ หม่อมฉันก็จะเล่นเป็นเพื่อนองค์หญิงสักหน่อย เฮ้อ ถ้าแพ้ ก็หวังว่าองค์หญิงจะออมมือไว้ไมตรีหน่อยนะเพคะ”
ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์
“ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือ? ทั้งที่รู้ว่าต้องแพ้แน่ นางยังไปให้ขายหน้า ยอมแพ้เสียยังจะดีกว่า จะไม่ได้ขายหน้าต่อหน้าผู้คน”
“บางทีนางยังนึกว่าตัวเองยังชนะได้อีกกระมัง?”
“พูดเป็นเล่น! ยากขนาดนั้น นางจะทำได้อย่างไร? หากนางทำได้ ข้าจะบั่นคอเป็นบอลให้พวกเจ้าเตะเลยเอา!”
“จะกล่าวเช่นนั้นก็ไม่ได้ มีกี่ครั้งที่ทุกคนนึกว่าพระชายาหานทำไม่ได้ แต่นางก็ทำได้หมด ครั้งนี้ บางทีนางอาจจะสร้างความอัศจรรย์อีกครั้งก็เป็นได้”
“เช่นนั้นเจ้าเชื่อว่างนางทำได้หรือ?”
“เออ...ตอนนี้ยังไม่เชื่อ”
“ก็นั่นอย่างไร”
ฮ่องเต้เย่ขมวดคิ้ว ใบหน้าอ่อนเยาว์ปรากฏความทนไม่ได้เสี้ยวหนึ่ง “มิเช่นนั้นก็ช่างเถอะ วันนี้เป็นพิธีบรรลุนิติภาวะขององค์หญิงตังตัง ดาบธนูอะไร มีอะไรน่าสนุก ยังมิสู้ดูการขับร้องฟ้อนรำ”
“เสด็จพี่ ทรงเป็นเชษฐาของผู้ใดเพคะ? ก่อนหน้านี้ตอนที่ขนิษฐาของพระองค์ถูกนางรังแกน่าอนาถ เหตุใดไม่เห็นพระองค์มาช่วยบ้าง หม่อมฉันไม่สนใจ ถึงอย่างไรก็เป็นพิธีบรรลุนิติภาวะของหม่อมฉัน หม่อมฉันอยากดูการขี่ม้ายิงธนูเพคะ”
ฮ่องเต้เย่ถูกอุดจนสะอึกทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...