เหวลึกมืดมาก กู้ชูหน่วนจุดตะบันไฟ ใช้แสงสว่างของตะบันไฟเดินไปด้านหน้าตลอดทาง
ข้างหูในทุกๆที่ล้วนได้ยินเสียงคำรามของสัตว์อสูร
และอีกหลายตัวก็ยังเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่นางไม่เคยเห็นมาก่อนอีกด้วย แต่ไม่รู้ทำไม สัตว์อสูรเหล่านี้ถึงไม่ได้โจมตีนาง
ตอนที่เห็นนางจากระยะไกล ทีแรกก็อยากจะฉีกนาง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะในตัวของนางมีเลือดของเผ่าหยกไหลเวียนอยู่หรือไม่ สัตว์อสูรเพียงแค่ดม แล้วก็รวมกลุ่มกันเดินจากไป
ตลอดทางที่ผ่าน มีซากศพอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีบางศพถูกทิ้งไว้ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว มีบางศพถูกทิ้งไว้ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมา เห็นแล้วน่าสยดสยอง
และไม่รู้ว่าในห้องขังนี้มีคนตายไปมากน้อยเพียงใดแล้วกันแน่
ในที่สุดนางก็ได้เห็นเวินเส้าหยีตรงสุดเส้นทาง
สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก นั่นเป็นสถานการณ์เช่นไร
สัตว์อสูรไม่กี่ตัวกำลังฉีดกัดเวินเส้าหยีอย่างต่อเนื่อง กัดจนเลือดสดบนร่างกายของเขาไหลริน
บนตัวของเขามีเลือดเนื้อหลายที่ที่ถูกกัดออกมาเป็นชิ้นๆ ดูแล้วทำให้คนโกรธจนตาแทบจนถลน
กู้ชูหน่วนโกรธจัด ทันทีที่ชัดกระบี่ออกมาก็เปลี่ยนเป็นดาบบุปผาสองสามดอก กวาดไปทางสัตว์อสูรเหล่านั้น
ทีแรกสัตว์อสูรคิดอยากจะสู้กลับ แต่เมื่อเห็นนางก็ถอยไปทีละตัว สุดท้ายก็วิ่งหนีไปอย่างบ้าคลั่ง
“เวินเส้าหยี.....เจ้าฟื้นสิ....”
ไม่รู้ว่าเจ็บปวดเกินไปหรือไม่ หรือว่าเสียเลือดมากเกินไป เวินเส้าหยีจึงหมดสติไปแล้ว
มืออันสั่นเทาของกู้ชูหน่วนช่วยเขาห้ามเลือดไว้
นางไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง นางจะทำร้ายเวินเส้าหยีจนน่าอนาถได้เพียงนี้
ผู้อาวุโสหกเพิ่งจะจัดการค่ายกลสังหารเสร็จสิ้น วิ่งหอบเข้ามาไม่หยุด พูดพล่ามตลอดทาง
“ข้าเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว แทบจะเอาชีวิตแก่ๆนี่พ่วงเข้าไปด้วย ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนจัดตั้งค่ายกลสังหารเหล่านั้น ช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว หากว่าข้าไม่เคยเรียนรู้เคล็ดวิชาการฝึกฝนค่ายกลมาบ้าง วันนี้เจ้าก็ไม่ได้เห็นข้าแล้ว เอ๊ะ......ทำไมเจ้าหมานั่นถึงได้บาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ คงไม่ได้ถูกสัตว์อสูรกินไปแล้วหรอกนะ”
“ท่านไม่ได้บอกว่าใต้เหวลึกอนันต์นี้เป็นห้องศิลาคุมขังเป็นห้องๆ และไม่ได้มีอันตรายอะไรหรอกหรือ?”
ทำไมถึงได้มีสัตว์อสูรมากมายขนาดนี้มาฉีกกัดเขาได้?
หากว่านางมาช้าไปอีกหน่อย เวินเส้าหยีก็ถูกกลืนกินเข้าท้องไปโดยตรงแล้วใช่หรือไม่?
ผู้อาวุโสหกรู้สึกน้อยใจเป็นที่สุด
“ใช่แล้ว แม้ว่าเหวลึกอนันต์จะน่ากลัว แต่การคุมขังคน ทุกคนที่ถูกคุมขังล้วนถูกขังเพียงลำพังในห้องศิลา ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้เป็นข้อยกเว้น”
“......”
จิตใจของกู้ชูหน่วนกำลังมีเลือดออก
พันบาดแผลของเวินเส้าหยีได้แล้ว แต่ชิ้นเลือดเนื้อมากมายบนร่างหายของเขาที่ถูกกัดออกมา เขาจะต้องเจ็บปวดมากเพียงใด และจะต้องใช้เวลานานเพียงใดจึงจะสามารถงอกออกมาใหม่ได้
ถึงกระทั่ง....
เลือดเนื้อเหล่านั้นอาจจะไม่สามารถงอกกลับออกมาได้อีกแล้ว.....
ฉีกเสื้อที่เป็นเลือดของเขาออก นางเริ่มดูกระดูกสะบักของเวินเส้าหยี
กระดูกสะบักของเขาผู้อาวุโสหกออมมือแล้ว ไม่ได้ดึงหักทั้งหมด เหลือโอกาสเล็กน้อยให้สามารถต่อกระดูกและฝึกซ้อมวิทยายุทธได้ใหม่อีกครั้ง
แต่ว่า……
ด้วยการฉีกกัดของสัตว์อสูร กระดูกสะบักของเขาก็ถูกกระชากหักไปโดยสมบูรณ์แล้ว
เวินเส้าหยี......
กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ผู้หนึ่งไปจริงๆแล้ว
กระดูกสะบักหักจนหมดสิ้น ทั้งชีวิตนี้ของเขาไม่มีความเป็นไปได้ใดที่จะสามารถฟื้นฟูวิทยายุทธได้อีกแล้ว......
สีหน้าของผู้อาวุโสหกไม่น่าดูขึ้นมาในพริบตา
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? เห็นได้ชัดว่าข้าออมมือแล้ว.....อาหน่วน ข้าไม่รู้จริงๆว่าเบื้องล่างของเหวลึกอนันต์จะมีสัตว์อสูรมากมายขนาดนี้ หากข้ารู้ ตีให้ตายข้าก็ไม่แนะนำให้เจ้าเอาเจ้าหมานี่มาขังที่นี่”
“เหวลึกอนันต์ไม่มีสัตว์อสูรจริงๆ มีเพียง......ชั้นล่างสุดเท่านั้น”
และชั้นล่างสุด ก็มีไว้คุมขังคนของเผ่าเทียนเฟิ่นโดยเฉพาะ
ผู้อาวุโสหกมองดูโครงกระดูกที่อยู่ทั่วทุกหนแห่ง
โครงกระดูกเหล่านี้บางโครงยังมีเสื้อผ้าที่สามารถเห็นได้ชัดเจน เสื้อผ้าบนร่างศพทุกศพล้วนเป็นแบบของเผ่าเทียนเฟิ่น
และท่าทางการตายของพวกเขา ส่วนใหญ่ก็เพราะถูกฉีกกัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายมือแขนขาและร่างกายก็ถูกกระชากขาดและตายทั้งเป็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
อ่านๆ ไปแล้วก็รู้สึก ประสาท เว่อวัง คิดว่าอ่านจะซ่อนความอะไรไว้ แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่เจอเลย ลำไยมาก...
บางทีก็เบื่ออีนางเอกนี่ กำเริบเสิบสานกวนตีนได้สุดยอด ไล่ออกจากแคว้นก็ได้แล้ว...
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...