ไป๋หลี่สงจับตัวคนหมู่บ้านหลินกว่าร้อยชีวิต แต่ไม่ได้พากลับไปที่ตระกูลไป๋หลี่
แต่ไปที่ภูเขาหมาป่าหิมะ
เขาพาพวกชาวบ้านไปยังส่วนที่ลึกสุดของภูเขาหมาป่าหิมะ
ส่วนตนเองกลับยืนมองทุกอย่างอยู่บนเขาลูกหนึ่งนอกภูเขาหมาป่าหิมะ
กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองดู
มองเพียงแวบเดียวก็สามารถมองรู้ว่า ภูเขาหมาป่าหิมะถูกวางไปด้วยค่ายกล นอกจากทำลายค่ายกล ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่สามารถออกไปได้
บนภูเขาสูง ไป๋หลี่สงที่เมื่อกี้ยังหยิ่งทะนงและครอบงำ ตอนนี้กลายเป็นขันทีน้อยเหมือนอย่างสุนัขตัวหนึ่ง ปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกายคุณชายสวมชุดผ้าแพรสูงศักดิ์ ใบหน้ายิ้มแย้ม ประจบประแจงอย่างไม่รู้สึกละอาย
คุณชายสวมชุดผ้าแพรไป๋หลี่หมิงสีหน้าหยิ่งผยอง ในสายตาไม่เห็นหัวใคร
ข้างกายไป๋หลี่หมิง ยังมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งอายุประมาณสี่สิบ สายตาชายวัยกลางคน สามารถมองรู้ว่ามีฝีมือได้เบา แต่เขาเพียงแค่ยืนอยู่ด้านข้างไป๋หลี่หมิง ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นองครักษ์ที่จงรักภักดีคนหนึ่ง
นอกจากพวกเขา ยังมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมหน้ากากผี
ขาทั้งคู่ของชายหนุ่มพิการ นั่งอยู่บนรถเข็น ในมือจับขลุ่ยหยกขาวที่ขาวผ่องเล่นอยู่ไปมา
เพราะสวมหน้ากากผีไว้ จึงไม่มีใครเห็นว่ารูปร่างหน้าตาของเขาเป็นยังไง แต่เขาเพียงแค่นั่งอยู่บนรถเข็น ก็ทำให้มีความรู้สึกว่าสูงส่งอย่างขัดขืนไม่ได้ ความสูงศักดิ์นี้เผยให้เห็นออกมาจากข้างใน มีมาแต่กำเนิด เพียงในพริบตาก็ไม่สามารถละเลยได้
ไป๋หลี่สงสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นอย่างเอาใจว่า “คุณชาย หมาป่าหิมะชอบทานเนื้อ โดยเฉพาะเนื้อคนสดๆ ครั้งนี้เราใช้คนกว่าร้อยชีวิตมาเป็นตัวล่อ จะต้องสามารถล่อหมาป่าหิมะออกมาได้แน่ รอเมื่อหมาป่าหิมะออกมาแล้ว ด้วยความสามารถของคุณชาย จะต้องสามารถจับตัวหมาป่าหิมะได้แน่ ในวันงานชุมนุมล่าสัตว์ในอีกไม่กี่วัน คุณชายจะต้องเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าแน่”
ไป๋หลี่หมิงแสดงสีหน้าได้ใจ พร้อมพูดขึ้นอย่างโอหังว่า “หากเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ ข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม”
“ขอบคุณคุณชาย คุณชายจะต้องจับหมาป่าหิมะได้แน่”
หมาป่าหิมะยังไม่ออกมา ไป๋หลี่หมิงกลับรู้สึกเหมือนได้หมาป่าหิมะมาครอบครองอยู่ในมือแล้ว
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียที่อยู่ด้านข้างเย่จิ่งหาน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย้ยอยู่ในใจ
อย่างแรกคือไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพวกเขา
ใช้ชีวิตคนหลายร้อยชีวิตมาเป็นตัวล่อ เพียงเพื่อจะล่อหมาป่าหิมะออกมา เป็นวิธีที่โหดเหี้ยมอำมหิตเกินไป
ต่อให้ได้หมาป่าหิมะมาครอบครอง หมาป่าหิมะก็อยู่ขั้นระดับหนึ่งเท่านั้น มีอะไรน่าดีใจ
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงของพระชายาในตอนนั้น อยู่ขึ้นระดับห้าก่อน
ไม่รู้ว่าทำไมนายท่านจะต้องยอมตกลงมาเป็นขุนนางผู้อาวุโสต่างแคว้นของตระกูลไป๋หลี่ ซึ่งตระกูลไป๋หลี่ที่ใหญ่โต สำหรับพวกเขาเห็นว่าไม่มีใครดีเลย
คิดถึงเมื่อสามปีก่อนหลังจากที่พระชายาตายแล้ว ถึงแม้นายท่านจะสามารถถอนคำสาปโลหิต แต่ก็ถูกพลังของตนเองย้อนกลับมาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้ขาทั้งคู่พิการอีกครั้ง บวกกับเดิมที่บาดเจ็บสาหัสเดิมอยู่แล้ว จึงแทบจะเอาชีวิตไม่รอด
สามปีมานี้ นายท่านก็ไม่ได้ตั้งอกตั้งใจรักษาตนเอง นำไหกักวิญญาณ เดินทางไปทั่วแผ่นดิน แสวงหาวิธีทำให้พระชายาฟื้นคืนชีพ
สามปีแล้ว ตลอดสามปีเต็มๆ พวกเขาไม่เคยเห็นรอยยิ้มของนายท่านอีก
ครั้งนี้ พวกเขาสืบรู้มาว่าน้ำค้างแห่งสวรรค์ของแคว้นปิง สามารถหล่อเลี้ยงพลังของจิตวิญญาณ กระทั่งสามารถทำให้ดวงวิญญาณเกิดใหม่
เจ้านายยอมทุกอย่าง ยอมแลกกับทุกสิ่ง ข้ามผ่านแคว้นเย่มายังแคว้นปิง
แคว้นเย่กับแคว้นปิงเป็นสองแผ่นดินที่ไม่เหมือนกัน
แคว้นปิงที่กว้างใหญ่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่าน้ำค้างแห่งสวรรค์อยู่ที่ไหน
พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า น้ำค้างแห่งสวรรค์มีอยู่บนโลกนี้จริงหรือไม่
บนภูเขาหมาป่าหิมะ
พวกชาวบ้านหมู่บ้านหลินต่างหวาดกลัวไม่เป็นสุข แต่ละคนเกาะกลุ่มกันกลม พร้อมพูดขึ้นอย่างร้อนใจว่า “พวกเขาพาพวกเรามาที่นี่ทำไม? คงไม่คิดที่จะยิงพวกเราให้ตายอยู่ที่นี่ใช่ไหม”
“หากจะยิงให้ตาย ตอนที่อยู่หมู่บ้านหลิน ก็สามารถฆ่าพวกเราแล้ว จะดั้นด้นพาพวกเรามาถึงที่นี่ทำไม”
“หรือว่า อยากที่จะให้พวกเราเก็บยาสมุนไพรบนหุบเขานี้?”
“หุบเขานี้แลดูเงียบสงัด คงไม่มีสัตว์ดุร้ายใช่ไหม?”
“ถ้าเป็นสัตว์ร้ายยังดี กลัวจะเป็นสัตว์อสูรนะสิ”
ได้ยินคำว่าสัตว์อสูร มีบางคนที่ขี้ขลาดร้องไห้ออกมาแล้ว
กู้ชูหน่วนมองดูรอบๆอย่างระมัดระวัง พร้อมพูดขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็นว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
ตอนที่1142-1190หายไปค่ะ...
ตอนที่ 1142-1190 หายไปค่ะ...