หลังจากที่ซูเฉินวิ่งออกไปแล้ว หลิวอี้อี้เพิ่งไปได้ไม่ไกล
เธอสวมรองเท้าส้นสูง ดังนั้นจึงเทียบกับความเร็วของซูเฉินไม่ได้เลยบวกกับซูเฉินกลัวว่าจะต้องเสียเธอไป ก็เลยรีบตามมาสุดพลัง
ไม่ถึงครึ่งนาที ซูเฉินก็วิ่งมาจับแขนของหลิวอี้อี้ไว้
"อี้อี้ พี่ฟังผมอธิบายก่อน" ซูเฉินพูด
"อธิบาย?" หลิวี้อี้มองซูเฉิน สายตามีความหมดหวังซ่อนอยู่ ตอนนั้นกับซูเจิ้ง เธอยังไม่เคยรู้สึกหมดหวั่งแบบนี้
เพราะตอนที่เธออยู่กับซูเจิ้ง ไม่ว่าเธอจะทุ่มเทขนาดไหน เธอก็ไม่เคยรู้สึกใจสั่น แต่ความรักที่ลึกซึ้งที่มีให้ซูเฉิน ทั้งหมดเป็นการหลอกลวงจนย่อยยับแตกสลาย
มีน้ำตาหยดออกมาจากดวงตาของหลิวอี้อี้ เธอพูดว่า "นายจะอธิบาย หรือจะหาคำพูดมาโกหกพี่?"
ได้ยินคำพูดของหลิวอี้อี้แล้ว ซูเฉินก็อ้าปาก อยากจะอธิบาย แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีอะไรให้อธิบาย..........
เมื่อเห็นซูเฉินไม่พูดอะไร หลิวอี้อี้ก็ออกแรงสะบัดแขนและพูดว่า "ต่อไป นายไม่ต้องมาหาพี่อีกแล้ว"
พูดจบ หลิวอี้อี้ก็เดินออกไป เธอแอบเช็ดน้ำตา และพูดกับตัวเองในใจว่า ที่จริงเธอไม่มีอะไรจะต้องเสียใจ เพราะเรื่องระหว่างเธอและซูเฉิน เดิมทีก็ไม่ควรจะมีอะไรอยู่แล้ว
หลิวอี้อี้คิดในใจ เท้าของเธอก็ยิ่งเดินเร็วขึ้น
ซูเฉินมองแผ่นหลังของหลิวอี้อี้อยู่ด้านหลัง เขารู้ดีว่า ตอนนี้หลิวอี้อี้ไม่มีที่พึ่งที่ไหนในเมืองเจียงเฉิงอีกแล้ว ถ้าหลิวอี้อี้จากไปครั้งนี้ เขาน่าจะไม่มีโอกาสได้เจอเธออีกแล้ว
ไม่เพียงแค่เขา หยางถิง.................
หลิวอี้อี้อาจจะไม่ติดต่อกับหยางถิงอีกเลย
ถ้าแบบนั้น คนที่เสียใจอาจจะไม่ใช่ซูเฉินเพียงคนเดียว แต่เป็นหลิวอี้อี้ และหยางถิง พวกเราทั้งสามคน
หลังจากความคิดนี้ปรากฏขึ้นในหัว ซูเฉินก็รีบวิ่งไปจับแขนของหลิวอี้อี้ และพูดด้วยน้ำเสียงขอร้องวิงวอนว่า "ให้....ให้โอกาสผมอีกซักครั้งได้มั้ย ผมสัญญา ต่อไปผมจะไม่ทำแบบนั้นกับผู้หญิงคนไหนอีก"
"เห่อ"
หลิวอี้อี้หัวเราะออกมา เธอมองตาของซูเฉิน และพูดว่า " ซูเฉิน นายรู้มั้ยว่าตอนนี้สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคืออะไร?"
"อะไร....โก โกหก?" ซูเฉินพูด
หลิวอี้อี้ยิ้มเจื่อนและพูดว่า "การที่มีความสัมพันธ์กับนาย นายไม่รู้หรอกว่าฉันหาเหตุผลให้ตัวเองมากขนาดไหน ซูเฉิน.....ที่จริงฉันคิดมาตลอด ที่นายชอบฉันเพราะความน่าตื่นเต้นหรือเปล่า.............เห่อเห่อ"
เพราะตอนนั้น ตอนที่หลิวอี้อี้อยู่กับซูเจิ้งเริ่มรู้สึกไม่มีความหมายอะไรแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ซูเฉินเข้ามาจู่โจมเธอ เธอก็เลยรู้สึกถึงความน่าตื่นเต้น
เธอไม่รู้ว่าความน่าตื่นเต้นที่เกิดขึ้นเป็นความรัก หรือว่าเป็นความใคร่!
ดังนั้น ถึงแม้เธอจะหย่ากับซูเจิ้งแล้ว และเธอก็รู้แล้วว่าซูเจิ้งและซูเฉินไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกัน ไม่มีความเกี่ยวข้องในการเป็นพี่น้องกัน เแต่ธอก็ยังไม่ได้เลือกที่จะคบกับซูเฉิน
เพราะว่าซูเฉินเด็กเกินไป เพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่ง แต่ตัวเธอเป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาสามปีกว่าแล้ว..........
ระยะห่างของอายุ ทำให้หลิวอี้อี้ต้องคิดพิจารณา
เธอกลัวว่าหลังจากที่เธอและซูเฉินคบกันแล้ว เธออาจจะมีความสุขหนึ่งสัปดาห์ หรือหนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี.....................
แต่หลังจากที่ผ่านไปสามปี ห้าปี เกิดซูเฉินรู้สึกว่าไม่มีความน่าตื่นเต้นนั้นอยู่แล้ว แล้วซูเฉินจะยังอยู่กับเธออีกมั้ย? เพราะวัยของซูเฉินเป็นวัยที่ผ่านไปอีกสามปีหรือห้าปี จะเป็นวัยที่กำลังเพลิดเพลิน สนุกสนาน ใช้จ่ายตามอำเภอใจ
แต่สำหรับหลิวอี้อี้มันไม่ใช่ ไม่ต้องพูดถึงในอีกสามปีห้าปีเลย หลิวอี้อี้ในตอนนี้ รู้สึกว่าวันเวลาที่ผ่านไปในแต่ละปีเป็นเวลาที่มีค่ามาก เธอไม่กล้าไปใช้ชีวิตเพลิดเพลินมีความสุขกับซูเฉิน
ผู้หญิงที่ชีวิตวัยรุ่นผ่านไปแล้ว!
แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สุดท้ายหลิวอี้อี้ก็เลือกที่จะคบกับซูเฉิน เพราะหลังจากที่เธอใช้ชีวิตคนเดียวเพียงลำพังแล้ว นอกจากมีหยางถิงคอยช่วยเหลือ ความอบอุ่นต่างๆก็ล้วนมาจากซูเฉินเป็นคนให้เธอ
แต่หลิวอี้อี้คิดไม่ถึงว่า สุดท้ายซูเฉินจะหักหลังเธอ และไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้าสาวกับหนางถิง
ถ้าเป็นจ้าวซี หลิวอี้อี้จะยอมรับได้.............
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลิวอี้อี้ก็รู้สึกปวดใจมาก เธอมองซูเฉิน และพูดว่า " ซูเฉิน ที่จริงนายไม่ได้รักพี่ขนาดนั้น"
"ไม่" ซูเฉินรีบพูด เขามองหลิวอี้อี้ กอดหลิวอี้อี้และพูดว่า " ผมรักพี่ ผมรักพี่คนเดียวมาโดยตลอด"
"ไม่เหมือนกัน" หลิวอี้อี้ยิ้มเจื่อน อยากจะผลักซูเฉินออก
แต่ซูเฉินในตอนนี้ไม่มีสติแล้ว เขาไม่อยากให้หลิวอี้อี้จากไป เขาก็เลยกอดเธอไว้แน่น เขาเห็นหลิวอี้อี้กำลังจะดิ้น เขาก็เลยอ้าปากจูบเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แอบรัก