แดนนิรมิตเทพ นิยาย บท 1474

สรุปบท บทที่ 1474: แดนนิรมิตเทพ

ตอน บทที่ 1474 จาก แดนนิรมิตเทพ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1474 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต แดนนิรมิตเทพ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“เยี่ยมมาก ในเมื่อพี่ตู๋กูคิดแผนที่ดีแบบนี้ออกมาได้ งั้นผมขอเสนอว่าการดำเนินการในครั้งนี้ให้พี่ตู๋กูเป็นผู้นำทัพเป็นไง?” ผู้นำตระกูลฉางพูดขึ้นมา

ผู้นำตระกูลกงซุนพยักหน้า “ผมว่าใช้ได้” 

ผู้นำตระกูลจ้าวก็พยักหน้า “ผมเองก็ไม่ติด” 

ตู๋กูอู๋ซวงแสดงสายตาที่ดีใจ แต่ต่อหน้าก็ยังทำเหมือนจะปฏิเสธ สองมือของตู๋กูอู๋ซวงบกอยู่ตรงหน้าอก แล้วพูดอย่างแตกตื่นว่า “ไม่ได้ไม่ได้ ถ้านับตามอายุพี่กงซุนโตสุดผมไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น? ให้ พี่กงซุนเป็นผู้นำหลัในครั้งนี้จะดีกว่าครับ!” 

ผู้นำตระกูลกงซุนพูดไปยิ้มไปว่า “เฮ้อ น้องตู๋กู ผมก็โตกว่าคุณแค่ไม่กี่ปี ให้ผมเป็นคนสั่งการ ผมคิดแผนดีๆ แบบนั้นออกมาไม่ได้หรอก คุณไม่ต้องถ่อมตัวแล้ว” 

“ใช่พี่ตู๋กู คุณเลิกปฏิเสธได้แล้ว” ผู้นำตระกูลฉางพูด

ผู้นำตระกูลจ้าวเกลี้ยกล่อมเหมือนกัน “พี่ตู๋กู พวกเราเชื่อในตัวคุณนะ!” 

ตู๋กูอู๋ซวงพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมก็ขอน้อมรับไว้เลยนะครับ!” 

ด้วยเหตุนี้ พันธมิตรกำจัดโม่ก็ถูกก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ

ในตอนที่ผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่กำลังวางแผนกันอย่างลับๆ ในตระกูลตู๋กูนั้น เฉินโม่ยังคงสอนวิชาให้เฉินกั๋วเหลียงอย่างสบายใจ

หลังได้รับการฝึกจากเฉินโม่ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ฝีมือของเฉินกั๋วเหลียงได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ถ้าต้องเจอกับหยูจุนโม่อีกครั้ง ก็สามารถสังหารเขาได้ในกระบวนท่าเดียวเลย

อีกอย่างคือ พรสวรรค์ของเฉินกั๋วเหลียงทำให้เฉินโม่ถึงกับต้องมองใหม่อีกครั้งเลย

เฉินโม่คิดว่า ต่อให้เป็นพรสวรรค์ของเอียนชิงเฉิงที่มีสายเลือดหงส์ฟ้ายังไม่สูงกว่าเฉินกั๋วเหลียงเท่าไหร่เลย บางที่นี่อาจจะเป็นคำกล่าวที่ว่ากักเก็บไว้นาน แล้วค่อยๆ ปลดปล่อยออกมา

เฉินกั๋วเหลียงผ่านเหตุการณ์ใหญ่ๆ มาเยอะ กับการเข้าใจสัจธรรมของชีวิตนั้นมีสูงกว่าวัยรุ่นเยอะ ถ้าใช้คำพูดของผู้บำเพ็ญมาพูดก็คือจิตเต๋าแข็งแกร่ง เหมือนตอนที่กษัตริย์เซียนตงหวาพาเฉินโม่ไป ภายใต้สภาพจิตที่สิ้นหวังสุดขีดและไม่มีใจที่ใฝ่หาความกว้างหน้าต่อ มันตรงกับสภาพจิตใจที่ไม่โลภไม่หลงของผู้บำเพ็ญพอดี บนเส้นทางของการฝึกเซียนเต็มไปด้วยความรื่นเริง ในเวลาเพียงหกร้อยปีก็สามารถฝึกจนบรรลุถึงแดนดั่งเทพแล้ว

“ดูท่าต่อไปยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักโม่อาจจะเป็นปู่ก็ได้” เฉินโม่เผยรอยยิ้มที่ประหลาดออกมา

แต่ยังไม่ทันที่เฉินโม่จะได้ออกจากฮ่านหยาง ก็ได้มีข่าวส่งมาจากที่ตระกูลเฉินที่อยู่หนานซูว่าเฉินกั๋วเหลียงกับฉินเยว่ถูกจับตัวไปแล้ว

แถมอีกฝ่ายยังทิ้งจดหมายไว้ให้เฉินโม่ฉบับหนึ่ง บอกเฉินโม่ให้ไปบ้านตระกูลตู๋กูที่หลิ่งหนาน มีเวลาให้เฉินโม่เพียงสามวัน ถ้าเขาไม่ไป ก็เตรียมรับศพของเฉินกั๋วเหลียงกับเฉินเยว่ได้เลย

พอเฉินโม่ฟังที่เฉินตงซุ่นพูดจบ ของที่สามารถแตกได้ที่อยู่ในห้องเขาก็แตกสลายไปทันที

“ก็ว่าทำไมตระกูลตู๋กูถงไม่เคลื่อนไหวสักที ที่แท้พวกนั้นก็รอเราไม่อยู่นี่เอง” 

“ดูท่าการไปหลิ่งหนาน ตระกูลตู๋กูคงเตรียมการไว้เป็นอย่างดีแล้ว รอแค่เราเอาตัวเองเข้าไปเท่านั้น” 

แต่ว่า ต่อให้หลิ่งหนานเป็นภูเขาดาบหรือทะเลเพลิง เฉินโม่ก็ไม่แม้แต่จะขมวดคิ้ว ขนของปู่เขา ห้ามขาดไปแม้แต่เส้นเดียว

ไม่อย่างนั้น เฉินโม่ต้องให้ตระกูลตู๋กูทั้งตระกูลชดใช้ด้วยชีวิต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แดนนิรมิตเทพ