คุณนายสวี่เป็นคนที่ฉลาดทันคน
เจ้าเล่ย์ โหดเหี้ยม เธอเห็นสวี่รั่วยีอารมณ์ไม่ดีจึงพูดปลอบโยนสองสามประโยค จากนั้นก็พูดขึ้น :“รั่วยี ตอนนี้อดทนไปก่อน หนูต้องรู้ว่าหนูจะต้องแต่งงานกับลี่ถิงเซิ่งให้ได้ ไม่มีทางอื่นให้เลือกเดิน! มีเพียงทางที่ต้องแต่งงานกับถิงเซิ่ง ถึงจะได้รับส่วนแบ่งมรดกทรัพย์สินของตระกูลลี่ได้!”
“หนูรู้ค่ะ ว่าตอนนี้ยังต้องร่วมมือกับคุณนายลี่ แต่ทางคุณนายใหญ่ตระกูลลี่นี่สิคะ ที่ผ่านมามีปฏิกิริยาที่ไม่ค่อยดีกับหนูสักเท่าไหร่ แต่วันนี้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย”
“คุณนายใหญ่ตระกูลลี่แต่ไหนแต่ไรมาไม่ค่อยถูกกับคุณนายลี่ แต่คุณนายใหญ่ตระกูลลี่แต่ไหนแต่ไรมาก็มองออกและเข้าใจลี่ถิงเซิ่ง ขอเพียงหนูสามารถบรรเทาโรคนอนไม่หลับของลี่ถิงเซิ่งได้ คุณนายใหญ่ตระกูลลี่ไม่ช้าก็เร็วจะต้องยืนข้างหนูอย่างแน่นอน”
สวี่รั่วยีพยักหน้า
“การประกวดการปรุงน้ำหอมนั้นได้เตรียมไปถึงไหนแล้ว” คุณนายสวี่ถามขึ้น
สวี่รั่วยียิ้มแล้วพูด :“ไม่มีอะไรผิดพลาดอย่างแน่นอนค่ะ น้ำหอมที่แอนนาให้หนูมาก่อนหน้านี้ หนูได้ให้ฝ่ายเทคนิคของบริษัททำการวิเคราะห์ จากนั้นได้ดัดแปลงส่วนผสมนิดหน่อยแล้ว งานปรุงน้ำหอมในครั้งนี้ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้หนูได้ค่ะ”
……
สี่วันต่อมา วันอาทิตย์
ใจกลางเมืองเมืองหลินชวน ผู้คนแห่แหนให้ความสนใจอาคารซ่ายเซิ่งของลี่ซื่อกรุ๊ป
วันนี้ที่นี่กำลังจัดการประกวดการปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
น้ำหอมของเมืองหลินชวนเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก
วันนี้ของทุกๆ ปีจะมีผู้เชี่ยวชาญน้ำหอมจากประเทศต่างๆมาเข้าร่วมเชยชมน้ำหอมในเมืองหลินชวน
แน่นอน สิ่งที่ดึงดูดสายตามากที่สุดก็ยังคงนักปรุงน้ำหอมอันดับหนึ่งที่มีชื่อเสียงนั้นจะตกเป็นของใคร
ในอาคารซ่ายเซิ่ง ชั้นสามสิบสองชั้นที่สูงสุด เสียงผู้คนดังกึกก้องเอิกเกริก
ผู้มาเยือนล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงน้ำหอม แค่เพียงมีใครคนใดคนหนึ่งกระทืบเท้า แวดวงน้ำหอมก็คงจะสั่นสะเทือน
สื่อที่มีชื่อเสียงต่างๆก็มากันไม่น้อย แบกขาตั้งสามขาของกล้องSLRและยังมีกล้องถ่ายรูปด้วย รอถ่ายบันทึกภาพการมาถึงของผู้เข้าร่วมประกวดแข่งขันอยู่ในโซนถ่ายภาพ
“คุณสวี่ ห้องเตรียมตัวของท่านอยู่ทางนี้” พนักงานโค้งคำนับให้กับสวี่รั่วยีอย่างสุภาพ พร้อมทำท่าผายมือเรียนเชิญ
สวี่รั่วยีเลือกชุดไว้มากมายเพื่องานในวันนี้
การประกวดการปรุงน้ำหอมแบ่งออกเป็นสองช่วง
ช่วงแรกเป็นการปรุงน้ำหอมและการประชันน้ำหอม จึงไม่สะดวกในการใส่ชุดเดรส
ช่วงที่สองเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ ตอนนั้นถึงจะสามารถใส่ชุดเดรสที่หรูหราได้
สวี่รั่วยีสวมชุดเซตสีชมพูอ่อนที่สั่งตัดพอดีตัว ผมยาวสลวยปรกไหล่ เห็นแล้วรู้สึกน่ารักน่าเอ็นดู
เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน:“รบกวนแล้ว”
เสียงถ่ายรูปดังขึ้นแช๊ะๆ
เสียงซุบซิบคุยกันของช่างถ่ายภาพ : “นั่นคือสวี่รั่วยีคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลสวี่ใช่ไหม”
“คิดว่าที่หนึ่งในปีนี้ก็ยังคงเป็นเธอ”
“แหงอยู่แล้ว เมื่อสักครู่ผมเห็นแล้วคนที่สามารถแข่งขันสู้กับเธอได้มีไม่กี่คน”
“ก่อนหน้านี้ลี่ซื่อกรุ๊ปรับนักปรุงน้ำหอมที่มีพรสวรรค์มาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอ ทำไม ครั้งนี้ไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันด้วยหรือไง”
สวี่รั่วยีได้ยินเสียงซุบซิบคุยกันจากด้านหลัง มุมปากก็แอบยิ้มขึ้น
ที่หนึ่งต้องตกเป็นของเธอเท่านั้น
หน้าประตูอาคารซ่ายเซิ่ง
มีรถสปอร์ตสีแดงมาจอดเทียบสนิท
พนักงานต้อนรับในงานตกตะลึงขึ้น
นี่เป็นรถของนักปรุงน้ำหอมคนใดกัน
เอ่อ ปกตินักปรุงน้ำหอมจะไม่ขับรถสปอร์ตแบบนี้นิ……
หนึ่งนาทีหลังจากนั้น สวี่รั่วฉิงที่สวมรองเท้าส้นสูงก็ลงมาจากรถ
ฟ่านเซียวเซียวลงมาจากอีกด้านหนึ่งของรถ ด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างแย่
เธอคิดไม่ถึงว่าความเร็วในการขับรถของสวี่รั่วฉิงจะเร็วได้ขนาดนี้ เกือบจะอ้วกออกมาแล้ว
สวี่รั่วฉิงทิ้งกุญแจรถที่อยู่ในมือไปให้กับคนรับรถ “รบกวนแล้ว”
จากนั้นเธอเหลือบมองสีหน้าที่ค่อนข้างแย่ของฟ่านเซียวเซียว“เตรียมพร้อมหรือยัง พวกเราเข้าไปกันเถอะ”
สวี่รั่วฉิงเดิมทีวันนี้ไม่ควรเข้าร่วมการประกวดการปรุงน้ำหอม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ