สวี่รั่วฉินพูดจบ ใบหน้าของสวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานก็เผยรอยยิ้มดีใจออกมา
เมื่อก่อน สวี่รั่วฉินเป็นนักปรุงน้ำหอมอิสระ เวลางานสามารถกำหนดเองได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทันการประชุมผู้ปกครองได้ทุกครั้ง
ไม่มีเด็กคนไหนไม่อยากให้พ่อแม่ตัวเองได้ยินที่คุณครูชมตัวเอง
สวี่อี้ฝานกับสวี่อี้หานก็รวมอยู่ในนั้นด้วย
สวี่อี้ฝานคิดไกลกว่าสวี่อี้หาน:“หม่ามี๊ครับ ทำงานวันเสาร์ แล้วอาทิตย์ไปประชุมผู้ปกครองอีก หม่ามี๊จะเหนื่อยเกินไปมั้ยครับ?ถ้าเหนื่อย มันก็ไม่ได้ว่าจำเป็นต้องไปให้ได้หรอกนะครับ……”
ถึงแม้เด็กชายเงียบขรึมจะพูดแบบนี้ แต่แววตาก็ยังคงเฝ้าหวัง
สวี่รั่วฉินหัวเราะออกมาทีนึงอย่างกลั้นไม่ไหว
มีกามเทพน้อยสองคนนี้คอยเป็นห่วงเธอ เธอยังจะขออะไรอีก?
“วางใจเถอะนะครับ งานในวันเสาร์ของหม่ามี๊ไม่ลำบากเลยจ้า วันอาทิตย์ไปร่วมการประชุมผู้ปกครองของพวกหนูได้แน่นอนจ้า”
หลังจากสวี่รั่วฉินรับปากแล้ว มดตะนอยสองตัวดีใจจนตบมือโดยตรง:“เย้---!”
……
วันเสาร์ สวี่รั่วฉินตื่นเช้ามาก
เมื่อเที่ยง เธอทานไม่เยอะ ทำกีวีโยเกิร์ตได้แก้วนึง และสลัดผลไม้กับแซนด์วิช
สวี่รั่วฉินดูอาหารเที่ยงของตัวเองแล้วอดถอนหายใจไม่ได้:“เฮ้อ ทั้งๆที่คนอื่นเป็นผู้ช่วยของประธานต่างก็กินดีอยู่ดี ทำไมฉันเป็นผู้ช่วยประธาน ก่อนไปงานเลี้ยงยังต้องมากินอะไรพวกนี้ด้วยนะ……”
สวี่รั่วฉินรู้สึกเสียใจมาก ตัวเองไม่ควรไปเลือกชุดราตรีที่รัดรูปนั่นเลย
ถึงแม้จะสวย แต่นอกจากสวยแล้ว รูปร่างยังต้องดีมาก
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนออกกำลังกายทุกวัน รับษาหุ่นเป็นอย่างดี เมื่อเที่ยงก็ไม่กล้าทานเยอะ กลัวว่าจะเกิดปัญหา
หลังจากสวี่รั่วฉินกินข้าวเสร็จ เธอก็เปลี่ยนชุดราตรีแหวกสีดำรัดรูป แล้วเปลี่ยนใส่ส้นสูงที่ซื้อวันนั้นต่อ
เธอหมุนตัวรอบนึง รู้สึกพอใจกับการแต่งตัวในวันนี้เป็นพิเศษ
เพื่อให้เข้ากับชุดราตรีของวันนี้ เธอเลยแต่งหน้าจัดกว่าปกติ ลิปสติกสีแดงเจิดจ้า ราวกับสาวงามที่เดินออกมาจากนิตยสารแฟชั่นย้อนยุค
สวี่รั่วฉินมองดูเวลาทีนึง
อีกครึ่งชั่วโมง ก็ถึงเวลานัดกับลี่ถิงเซิ่งแล้ว
สวี่รั่วฉินนั่งอยู่บนโซฟาอย่างน่าเบื่อ เธอหยิบโน๊ตบุ๊คออกมาเปิดกล่องอีเมลของตัวเอง หลังจากตอบอีเมลของลูกค้าบางส่วนเสร็จ แล้วเหลือบไปเห็นจางเฉิงยังไม่ยอมท้อแท้ถามเธอว่าจะมาร่วมถ่ายโฆษณาน้ำหอมมั้ย
สวี่รั่วฉิน:“……”
เธอไม่เคยเห็นใครที่มีความพยายามมากขนาดนี้มาก่อน
ปฏิเสธไปหลายครั้งขนาดนั้น ยังมั่งใจว่าเธอจะรับปากไปถ่ายโฆษณาด้วย
มือถือของสวี่รั่วฉินสั่นขึ้นครั้งนึง เธอเอาโน๊ตบุ๊ควางที่ต้นขา แล้วเอื้อมมือไปหยิบมือถือ
ลี่ถิงเซิ่งส่งข้อความมา เป็นข้อความเสียง
สวี่รั่วฉินเปิดข้อความเสียง เสียงทุ้มต่ำที่ปนด้วยเสียงหัวเราะเบาๆดังมาจากในโทรศัพท์:“เตรียมตัวเสร็จหรือยัง ผมใกล้จะถึงแล้วนะ”
“เสร็จแล้วค่ะ แต่ว่าประธานลี่คะ ตอนขับรถ คุณยังส่งข้อความเสียงมันไม่ค่อยดีหรือเปล่าคะ?ระวังถูกตำรวจจับได้นะคะ”หลังจากสวี่รั่วฉินส่งเสร็จ คิดๆแล้วก็เพิ่มเต็มอีกคำ:“ระหว่างทาง ต้องระวังความปลอดภัยด้วยนะคะ!”
ลี่ถิงเซิ่งหยิบมือถือขึ้นมา มองไฟแดงทีนึง จากนั้นสายตาก็หยุดลงที่มือถือ
พอเห็นคำสุดท้าย เขาก็ยิ้ม
“ทำไม คุณเป็นห่วงว่าผมจะเกิดอุบัติเหตุงั้นหรอ?”
ถุยๆๆ มีคนที่ไหนกันที่สาปแช่งตัวเองให้เกิดเรื่อง!สวี่รั่วฉินมองบนทีนึง ในเมื่อลี่ถิงเซิ่งก็ไม่เห็น
“แน่นอนสิ!อีกอย่าง ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวหรอกนะคะ หลี่อาน หรือคนอื่นๆในบริษัทก็ต้องเป็นห่วงด้วยเหมือนกัน……คุณเป็นคนสำคัญสุดของบริษัทเราเชียวนะ”สวี่รั่วฉินทำแก้มป่องพูดจบ และมือก็เคาะอยู่ที่แป้งพิมพ์:“ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว ระวังความปลอดภัยระหว่างทางด้วยนะคะ”
ลี่ถิงเซิ่งหัวเราะเบาๆทีนึง สวี่รั่วฉินหน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วรีบวางสายไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ