"สะ..เสี่ยจะเข้าไปแบบนี้เลยเหรอครับ" นิวัฒน์เดินตามหลังมาเพื่อเป็นทัพหลังให้
"แล้วมึงจะสะกิดกูทำไม..กูตกใจ!"
"ทำไมมันวังเวงจังเลยล่ะครับเสี่ย" นิวัฒน์ดูท่าทางแล้วมันแปลกมาก บ้านหลังใหญ่โต แถมลูกน้องของอิทธิพลก็ไม่ใช่น้อยๆ มีเหรอจะปล่อยให้บ้านเงียบได้ขนาดนี้
"ถ้ามึงไม่เลิกพูด กูจะไล่มึงออกไปรอข้างนอก" ทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่แถวนี้แต่ทั้งสองก็กระซิบกระซาบพูดกัน
สองขาแกร่งค่อยๆ ก้าวเดินขึ้นบันไดด้านหน้า มือหนายื่นเปิดประตูบานใหญ่นั้นออก
แอดดดด~
"อุ๊ย!" ธานินทร์ถึงกับสะดุ้ง เมื่อประตูบานนั้นเปิด ชายวัยชราคนหนึ่งยืนค้ำไม้ตะพดอยู่ตรงหน้า
"ทำลับๆ ล่อๆ เหมือนพวกหัวขโมย"
"ผะ..ผะ..ผะ"
ผั๊วะ~ (มือหนาตบหัวตัวเองเพราะเขามัวแต่ติดอ่างพูดไม่ออก)
"ผมช่วยไหมครับเสี่ย" นิวัฒน์ที่ยืนอยู่ด้านหลังกระซิบถาม ว่าจะให้ช่วยตบเรียกสติอีกไหม
"มึงหุบปากไปเลยนะ! กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน"
"พวกคุณมาทำไม" อิทธิพลถามขึ้นเมื่อเห็นเขาคุยกับลูกน้อง
ธานินทร์ไม่ได้สังเกตเลยว่าท่าทางของอิทธิพลเปลี่ยนไปมาก ถ้าเป็นแต่ก่อนคงให้ลูกน้องเล็งปืนมาที่เขาแล้ว
"ผะ..ผมมาหาอบเชยครับ"
"มาหาทำไม"
"ผะ..ผมคิดถึงเธอครับ"
"ถ้าคิดถึงก็ขึ้นไปหาสิ อยู่บนบ้านโน่น" พอจบคำพูดชายวัยชราก็ใช้ไม้ตะพดค้ำเดิน มุ่งหน้าเข้าไปในห้องทำงาน
"อะไรวะ?" มาเฟียหนุ่มพูดออกมาเบาๆ เพราะตอนนี้เขางงมากกับท่าทางพ่อของเธอ หรือว่าจะมีแผนอะไรหรือเปล่า
"เสี่ยกล้าขึ้นไปข้างบนไหมครับ"
"ทำไมกูจะไม่กล้า มึงช่วยระวังหลังให้กูด้วย" เพราะพ่อของเธอดูแปลกมาก
แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งสองเดินขึ้นมาถึงชั้นบนแบบปลอดภัย
ที่อิทธิพลปล่อยธานินทร์ขึ้นไปแบบนั้น เพราะอยากจะให้ลูกสาวเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเอายังไง เรื่องที่เขาอยากจะครอบครองถิ่นของนายอำนาจนั้น ตอนนี้มันไม่สำคัญเท่ากับลูกสาวคนเดียวของเขาอีกแล้ว
เรื่องพ่อของเธอไม่ใช่ปัญหาแล้ว..แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือ..เธออยู่ห้องไหน เพราะบ้านหลังนี้ก็มีหลายห้องมาก
พวกเขาเปิดดูทุกห้องและทุกห้องก็ไม่ได้ล็อก ส่วนห้องสุดท้ายที่ยังไม่เปิดมันถูกล็อกไว้จากด้านใน
"เอาไงดีวะ"
ก๊อก~
"เฮ๊ย! อย่าเพิ่งสิวะ กูยังไม่ได้ตั้งตัวเลย" เขาห้ามปรามลูกน้องไว้
"เสี่ยอย่าบอกนะครับว่าเสี่ยกลัวเมีย"
"ใครบอกว่ากูกลัว กูยังไม่รู้ว่าจะพูดกับเธอยังไงต่างหาก"
"ถ้าเสี่ยไม่รู้ เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ"
ก๊อก! ก๊อก!! ก๊อก!! พอจบคำพูดนิวัฒน์ก็เคาะประตูห้องนั้นรัว
เคาะประตูเสร็จนิวัฒน์ก็รีบวิ่งลงบันไดมา เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าข้างบนนั้นปลอดภัย อิทธิพลคงไม่ซ่อนลูกน้องไว้ทำร้าย เจ้านายของเขา ที่จะไม่ปลอดภัยก็คงจะมีแต่....
"ใครคะ" ที่จริงหญิงสาวได้ยินตั้งแต่เสียงเคาะครั้งแรกแล้ว
แอดดด~
"คุณ" อบเชยไม่คิดว่าพอเปิดประตูมาแล้วจะเจอผู้ชายที่เธอเฝ้าแต่คิดถึงมาตลอดระยะเวลา ที่กลับมาอยู่บ้าน แต่ตอนนี้เธอทำใจยังไม่ได้ หญิงสาวรีบปิดประตูบานนั้นกลับคืนทันที
"เอ้าา.."
ก๊อก~ ก๊อก~
"คุณจะโกรธผมทำไม คุณต่างหากที่หนีกลับมาอยู่บ้าน เปิดประตูให้หน่อยนะคนดี"
"กลับไปเลยนะ!!" เธอตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงสะอื้นไห้
"ผมมารับคุณกลับบ้านเรา อย่าร้องไห้เลยนะ"
เขายืนเคาะเรียกเธออยู่แบบนั้น..
นอกจากเสียงร้องไห้ของเธอแล้ว ก็ไม่มีเสียงที่เธอจะโต้ตอบอะไรออกมาอีกเลย
พอเสียงเงียบอบเชยรีบเดินมาเปิดประตูดู เห็นแต่ความว่างเปล่า เสียงร้องไห้ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
ใจจริงเธออยากกระโดดกอดเขาเลยด้วยซ้ำ แต่ส่วนลึกในใจมันสั่งให้หยุดไว้ก่อน คิดว่าเขาคงจะง้อนานกว่านี้..แต่ไม่เลย
22 : 00 น.
ปั้ง! ปั้ง!!
"เสียงปืน!?" หญิงสาวรีบลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างดูเพราะเสียงปืนมันดังอยู่ในบริเวณบ้านของเธอ
"ค้นหามันให้เจอทุกซอกทุกมุม! ถ้าเจอฆ่ามันทิ้งได้เลย" มันคือคำสั่งพ่อของเธอ
อบเชยตกใจมากกับคำสั่งนั้น เพราะเธอรู้ดีว่าคุณป๋าคงจะหมายถึงเขา
"คุณ!" จังหวะนั้นหญิงสาวกำลังจะเดินไปที่ประตู แต่สายตามองไปตรงระเบียงหน้าห้องนอน เห็นเขายืนแอบอยู่ตรงนั้น อบเชยรีบวิ่งไปเปิดประตูให้เขาเข้ามาก่อน
"คุณขึ้นมาได้ยังไง" มันคือระเบียงห้องนอนเวลาเธออยากรับลมก็จะออกมานั่งเล่นที่นี่ แต่มันไม่มีทางขึ้นได้ นอกจากจะ....
"ก็คุณไม่เปิดประตูให้ผมทำไมล่ะ ผมก็ต้องได้ปีนขึ้นมาสิ"
"เจอไหม!" เสียงพ่อเธอร้องตะโกนอยู่ไม่ไกลจากหน้าห้องมากนัก
มือเรียวยื่นขึ้นไปปิดปากเขาไว้ทันทีไม่ให้เขาพูดต่อ
"คุณเป็นห่วงผมด้วยเหรอ" เขาจับมือเธอออกมา แล้วกุมมันไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นนพิศวาส