บทที่ 1035 ขึ้นไปตามใจเถอะ
ฉินรั่วซีมองเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยอธิบาย “ตอนแรกกำหนดให้ตัวแทนไม่ต้องลงสนาม ต่อมาเหมือนจะปรับเปลี่ยนกฎชั่วคราว แต่แค่แลกเปลี่ยนพอเป็นพิธีเท่านั้น อีกอย่างด้วยพลังต่อสู้ของคุณหนูเยี่ย น่าจะไม่มีความยาก คุณหนูเยี่ยวางใจได้”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็มุมปากกระตุก ในที่สุดเธอก็ดูออกแล้วว่าตั้งแต่เริ่มงาน ฉินรั่วซีก็คอยช่วยพูดแทนเธอตลอด ยกยอเธอต่างนานา
นี่ฉินรั่วซี…ตั้งใจยกยอเพื่อทำร้ายเธอ?
ตอนแรกก็ชมเธอต่อหน้าทุกคน จากนั้นก็รอดูเธอขึ้นแท่นแล้วลงไม่ได้…
ปราดเปรื่องซะไม่มี!
ไม่นาน สังเวียนที่ด้านล่างก็จัดเตรียมเสร็จสิ้น
สังเวียนใช้สังเวียนแข่งขันที่เปี่ยมความเป็นมืออาชีพ ร่วมกับทีมตัดสินผู้เชี่ยวชาญ รับประกันความยุติธรรมของงานชุมนุมประลองฝีมือครั้งนี้
ส่วนความยุติธรรมของการแข่งขันครั้งนี้ ทุกคนก็เห็นในสายตา และไม่มีข้อคัดค้านใดๆ
ทีมตัดสินผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ ทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับท็อปที่ตระกูลซุนคัดเลือกมา เห็นได้ชัดว่าตระกูลซุนให้ความสำคัญกับงานชุมนุมประลองฝีมือครั้งนี้
ผู้ตัดสินวัยกลางคนคนหนึ่งหยิบกระบอกไม้ไผ่ในมือเดินมาถึงห้องชมการแข่งขันอย่างรวดเร็ว
เพื่อรับประกันความยุติธรรม ป้องกันการโกงใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น งานชุมนุมประลองฝีมือจึงใช้วิธีจับไม้ แซ่ของสามตระกูลใหญ่ต่างถูกใส่ไว้ในกระบอกไม้ไผ่ ทุกตาแข่งขัน ชื่อคู่แข่งขัน จะถูกเขียนไว้บนแท่งไม้ไผ่
“คุณหนูฉิน คุณเดาก่อน”
ซุนเสวี่ยเจินมองฉินรั่วซี
ได้ยินดังนั้น ฉินรั่วซีก็ไม่เกรงใจ พลิกข้อมือ สอดนิ้วเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ดึงเอาแท่งไม้ไผ่ออกมาหนึ่งแท่ง
ฉินรั่วซีมองบนแท่งไม้ไผ่ ตาที่สอง ฉินรั่วซีเจอตระกูลซุน
รอจนฉินรั่วซีจับไม้เสร็จ ซุนเสวี่ยเจินก็จับแท่งไม้ไผ่จากในกระบอกไม้ไผ่บ้าง ตาที่หนึ่ง ตระกูลซุนเจอตระกูลซือ
“งานชุมนุมประลองฝีมือครั้งนี้มีทั้งหมดแค่สามตระกูล เพราะงั้นเธอไม่ต้องจับแล้ว” หลังส่งแท่งไม้ไผ่ให้ผู้ตัดสิน ซุนเสวี่ยเจินก็หันมองเยี่ยหวันหวั่น
ได้ยินแบบนั้น เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่ได้ตอบโต้อะไร เป็นอย่างที่ซุนเสวี่ยเจินพูด งานชุมนุมประลองฝีมือมีทั้งหมดแค่สามตระกูล ฉินรั่วซีกับซุนเสวี่ยเจินจับไม้ไผ่ไปแล้ว เธอจับอีกก็ไม่มีความหมายอะไร
เวลานี้ บนที่นั่งแขกผู้มีเกียรติ ซุนลี่จ้งกำลังพูดคุยกับท่านมู่และราชาหมาป่าเซนนี เมื่อได้ยินเสียงตีกลองมโหระทึก งานชุมนุมประลองฝีมือที่จัดโดยสามตระกูลใหญ่ก็เริ่มต้นขึ้น
ตาแรก ตระกูลซือเจอกับตระกูลซุน
ห้าคนของตระกูลซือตื่นเกร็งเล็กน้อย ตระกูลซุนเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้เก่าแก่ คนธรรมดาเทียบเคียงไม่ได้ ยอดฝีมือในตระกูลมากมายราวกับก้อนเมฆ ยอดฝีมือที่ตระกูลซุนส่งมา ต้องเป็นหนึ่งในสุดยอดแน่นอน
คนที่ตระกูลซุนส่งมาเป็นพี่น้องห้าคน ตามการจัดอันดับพลังศิลปะการต่อสู้ พี่ใหญ่ซุนไปจนถึงพี่ใหญ่ห้าซุน พี่ห้าซุนพลังต่อสู้อ่อนแอที่สุด ส่วนพี่ใหญ่ซุนพลังต่อสู้แข็งแกร่งที่สุด
“ปิ่งซิ่น พี่ขึ้นไปก่อน”
ซุนเสวี่ยเจินมองพี่ห้าซุนแล้วเอ่ยปาก
ได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มก็พยักหน้าน้อยๆ ให้ซุนเสวี่ยเจิน แล้วก้าวไปยังสังเวียน
ผ่านไปไม่กี่อึดใจ พี่ห้าซุนก็ยืนอยู่บนสังเวียนแล้ว
“พวกนาย…”
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นมองประเมินห้าคนของตระกูลซือ
เห็นแบบนั้น ห้าคนของตระกูลซือก็พากันส่ายหน้า ผู้หญิงคนนี้จะเข้าใจอะไร หรือว่ายังคิดจะสั่งพวกเขาใครขึ้นก่อนใครขึ้นหลัง!
ถึงแม้ว่าพ่อบ้านสวี่พูดแล้ว ว่าให้พวกเขาห้าคนเชื่อฟังคำสั่งจัดคนของเยี่ยหวันหวั่น แต่ผู้หญิงคนนั้นไม่เข้าใจศิลปะการต่อสู้สักนิด การออกคำสั่งมั่วๆ มีแต่จะทำลายจังหวะพวกเขา
เยี่ยหวันหวั่นจ้องทั้งห้าคนครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ส่ายหน้า “ขึ้นไปตามใจเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่รู้อะไรเลยกับบอดี้การ์ดใหม่ห้าคนนี้ของตระกูลซือ และไม่รู้แน่ชัดด้วยว่าพลังต่อสู้ของคนพวกนี้เป็นยังไง งั้นก็ไม่สู้ให้พวกเขาแสดงความสามารถอย่างอิสระดีกว่า
แต่ทว่า ประโยคนี้ของเยี่ยหวันหวั่น กลับน่าขันอยู่บ้างสำหรับคนอื่นๆ
ในฐานะตัวแทนตระกูล กลับไม่มีความสามารถในการวางแผน ถึงกับให้ห้าคนแสดงความสามารถตามใจ ช่างน่าขันสิ้นดี!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี