เสียงนกหวีดดังขึ้นมา การแข่งขันเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
เยี่ยหวั่นหวันล้วงเอาป๊อปคอร์น โค้กและไก่ทอดที่เตรียมไว้แล้วออกมาจากกระเป๋า กินไปพลางดูอย่างเพลิดเพลินไปด้วย
พูดขึ้นมาแล้ว ทางเลือกของเธอในอนาคตคือเป็นนายหน้าไม่ใช่ศิลปิน ความอยากอาหารนี้ก็เป็นเหตุผลสำคัญ ถ้าต้องให้เธออดอาหารทุกวัน นั่นก็กินไม่ได้ โน่นก็กินไม่ได้ แล้วคนเราเกิดมาจะมีความหมายอะไร?
และไม่รู้ว่าเมล็ดผักในสวนจิ่นหยวนงอกหรือยัง โตขึ้นมาเป็นยังไงบ้าง แล้วยังมีไก่น้อย ปลาน้อยและองุ่นน้อยอีก…
เยี่ยหวั่นหวันแค่ใจลอยไปวูบเดียว คะแนนการแข่งขันไปถึง 11 ต่อ 0 แล้ว
ชิงเหอ 11 คะแนน จิ่นซิ่ว 0 คะแนน
“เกิดอะไรขึ้น?” เยี่ยหวั่นหวันอึ้งไป
เจียงเยียนหรานส่ายหน้า “ไม่รู้ วันนี้ท่าทางฉู่เฟิงดูไม่ค่อยดีเลย”
เยี่ยหวั่นหวันรีบมองไปทางฉู่เฟิง เห็นวันนี้อีกฝ่ายผิดพลาดบ่อยมาก การวิ่งดูไม่มั่นคง เหมือนคนเมาเหล้า
เมื่อกี้ก็เห็นท่าทางเขาดูใช้ได้อยู่เลย อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ชอบ ควรจะยิ่งทำลายคู่ต่อสู้ไม่ใช่หรือ?
นายนี่… คงไม่ใช่ว่าตื่นเต้นเกินไปนะ?
เธอปวดหัวจัง!
ยังหวังให้เขาเล่นงานซ่งจื่อหางอยู่นะ!
“โอ้ย นี่เหล้าไม่ได้ทำให้เขาเมาแต่เขาเมาเอง…ได้ได้ได้ ถือว่าฉันผิดเอง เยียนหรานเธออย่าไปจ้องเขาแล้ว…”
ฟังออกว่าน้ำเสียงเยี่ยหวั่นหวันนั้นหัวเราะเยาะ เจียงเยียนหรานละสายตาไปด้วยความอึดอัด
ทว่า หลังเจียงเยียนหรานละสายตาไปแล้ว ท่าทางของบางคนนั้นยิ่งยุ่งเหยิงเข้าไปใหญ่ เยี่ยหวั่นหวันที่อยู่ห่างไปไกลยังได้ยินเสียงโค้ชของจิ่นซิ่วตะคอกแทบจะเป็นบ้าแล้ว – –
“ไอ้บ้าฉู่เฟิง แม่งนี่! แกกินยาผิดมาหรือไง! เล่นบ้าอะไรวะเนี่ย!”
“ไอ้เลว แกออกไปเลย! ฉันจะปรับทัศนคติแก!”
…….
เวลาพักสองนาทีของครึ่งหลัง โค้ชทุกคนต่างด่าฉู่เฟิง
ฝ่ายชายก้มศีรษะคอตกเศร้าสร้อย ไม่กล้าเงยหน้าแวบขึ้นมามองอัฒจันทร์เลย
สุดท้าย ครึ่งหลังก็ไม่สามารถดึงจิ่นซิ่วที่เสียเปรียบอยู่กลับมาได้ ผลของครึ่งแรกในตอนสุดท้ายจบที่ 23:6
เยี่ยหวั่นหวันทนดูไม่ไหวหลับตาลง
ต่อมาเป็นเวลาพักครึ่งการแข่งขันสิบห้านาที
เหล่าสาวๆ ชิงเหอต่างกรีดร้องตรงไปยังสนามแข่งมอบดอกไม้ ผ้าขนหนูเย็นและถามไถ่กับเหล่านักกีฬา ส่วนฝั่งจิ่นซิ่วกลับคุยกันอย่างเคร่งเครียด
“โอ้ย! จิ่นซิ่วทำอะไรอยู่เนี่ย! ทำไมถึงเล่นออกมาแบบนี้! โดนชิงเหออัดจนฉันไม่อยากจะดูเลย!”
“นี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ความสามารถนักกีฬาทีมบาสของชิงเหอเดิมทีก็แกร่งอยู่แล้ว!”
“แต่พวกเราก็ไม่สามารถแพ้อย่างราบคาบแบบนี้ได้นะ? รุ่นพี่ฉู่เฟิงวันนี้เป็นอะไรไป? หรือว่าไม่สบาย?”
…….
“ไม่สบายอะไร! วิญญาณเขาโดนควักออกไปแล้ว!”
เยี่ยหวั่นหวันคำนวณเป็นหมื่นเป็นพันครั้ง ก็คิดไม่ถึงว่าสมาธิของคนๆ หนึ่งจะแย่ได้ถึงขั้นนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแผนการวันนี้ของเธอต้องโดนทำลายหมดแน่
“ตอนนี้ทำได้เพียงหนามยอกต้องเอาหนามบ่งแล้วเท่านั้น!” เยี่ยหวั่นหวันหรี่ตาลงสองข้าง
“หนามยอกเอาหนามบ่ง? หมายความว่ายังไง?” เจียงเยียนหรานไม่เข้าใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี