“ซือเยี่ยหาน! นายต้องได้รับกรรมตามสนอง! นายต้องได้รับกรรมตามสนอง! นายคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง! พี่สองพี่สามพี่สี่… แล้วยังมีอาหกอาแปด… ทั้งหมดตายในเงื้อมมือนาย… ฉันจะบอกคุณหญิงย่า… ฉันจะบอกผู้อาวุโสของตระกูลซือทุกคน… พวกเขาต้องไม่ปล่อยนายไปแน่… ไม่มีทางปล่อยนาย…”
ผู้ชายคนนั้นเดินไม่ไหวแล้ว ขณะที่ตะคอกอย่างบ้าคลั่งก็เลื้อยตัวพยายามจะปีนออกไปด้านนอก
ซือเยี่ยหานก็ไม่ห้าม ยังมองชายคนนั้นที่พยายามดิ้นรนเอาลมหายใจเฮือกสุดท้ายเพื่อหลีกหนีความตายอย่างนิ่งเงียบ
ผู้ชายคนนั้นปีนไปถึงหน้าประตูห้องโถงแล้ว เอื้อมมือจะเปิดประตู…
ตอนนั้นเอง เงาสีขาวที่โผล่พรวดเข้ามาดังสายฟ้า เสือที่ดุร้ายตัวหนึ่งกัดเข้าที่คอของฝ่ายชายทันที
คอของผู้ชายเอียงเหมือนว่าวที่สายป่านขาด กลิ่นคาวเลือดฟุ้งกระจายเหมือนดอกไม้บาน เต็มไปทั่วทั้งห้องรับแขก แล้วยังมีเสียงเคี้ยวกระดูกกุกกักๆ ของเสือขาวอีก…
ภาพนี้สยองขวัญเกินไป ถึงแม้จะเป็นเยี่ยหวั่นหวันที่อยู่มาสองภพแล้วก็ยังทนไม่ไหว
“อา” ที่ตรงประตูสวน ในที่สุดเยี่ยหวั่นหวันก็ทนไม่ไหวร้องออกมาด้วยความตกใจ
ในขณะเดียวกัน ประตูกระจกที่เธอซ่อนอยู่ด้านหลังอยู่ๆ ก็ถูกผลักเปิดออกด้วยความไม่ตั้งใจของเธอ
วินาทีต่อมา เธอสบตากับดวงตาคู่หนึ่งที่แทบจะทำให้เลือดในตัวคนแข็งตัวได้ รวมทั้งเห็นสภาพของห้องรับแขกที่เหมือนขุมนรกอย่างชัดเจน
สวี่อี้ที่อยู่ข้างซือเยี่ยหานเห็นเยี่ยหวั่นหวัน เขาอึ้งไป สีหน้าดูตกใจกลัว “เยี่ย…คุณหนูเยี่ย… คุณมาอยู่ที่นี่ยังไง…”
แย่แล้ว!
ทำไมอยู่ดีๆ เยี่ยหวั่นหวันถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้! เธอควรจะอยู่ที่โรงเรียนไม่ใช่หรือ?
ชายชุดดำที่อยู่อีกฝั่งของซือเยี่ยหาน มองดูใบหน้าตกใจขาวซีดของเยี่ยหวั่นหวันอย่างเหยียดหยาม ขมวดคิ้ว สายตาเห็นได้ชัดว่ารังเกียจและดูถูก
ในท้องเยี่ยหวั่นหวันปั่นป่วนเหมือนท้องทะเล ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของเธอและซือเยี่ยหานสนิทกันมากขึ้น ทำเธอเข้าใจผิดคิดว่าปีศาจตั้งแต่หัวจรดเท้าตนนี้เป็นมนุษย์
หึ ซือเยี่ยหาน… เขาจะเป็นมนุษย์ปกติได้ยังไง…
ถ้าเขาเป็น ชาติที่แล้วไม่ว่าจะยังไงเธอก็คงไม่บ้าคลั่งอยากจะหนีไปให้พ้นจากเขา
กู้เยว่เจ๋อบอกว่าซือเยี่ยหานโหดร้ายทารุณ กระหายเลือดฆ่าคนจนเป็นนิสัย คำพูดแบบนี้ยังถือว่าเขาอ่อนโยนเกินไปด้วยซ้ำ
เธอยังจำได้ถึงครั้งแรกที่ตัวเองเห็นภาพเขาฆ่าคนในชาติที่แล้ว ยังไม่นองเลือดเท่าครั้งนี้เลย
ตอนนั้นเธอตกใจเหมือนคนบ้าด่าเขาว่า “ปีศาจ” ร้องไห้ตะโกนให้เขาปล่อยตัวเธอไป สรรหาคำหยาบคายมาสาปแช่งเขา ทะเลาะมาครึ่งเดือนเต็ม ก็ป่วยหนัก จากนั้นก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่ดี แล้วยังถูกบังคับให้เห็นฉากนองเลือดอีกครั้ง จนกระทั่งเธอหมดลมหายใจใกล้จะตายแล้ว เขาถึงค่อยปล่อยเธอไป…
ความทรงจำมากมายพรั่งพรูเข้ามา หน้าผากเยี่ยหวั่นหวันเจ็บเป็นระลอก จากนั้น ภาพความทรงจำทั้งหมดก็แวบผ่านไปในเวลาไม่ถึงสองวินาที
เยี่ยหวั่นหวันสงบนิ่งลงอย่างรวดเร็ว ปัดฝุ่นบนตัวแล้วลุกขึ้นมา สะพายกระเป๋าหนังสือ หยิบถุงในมือ เดินเข้าไปทีละก้าว มองตรงไปทางซือเยี่ยหานโดยไม่ละสายตา…
สวี่อี้ที่เผชิญหน้ากับความตื่นตระหนก สีหน้าที่เยือกเย็นของชายหนุ่ม กลิ่นคาวเลือดที่กระจายอยู่ใต้เท้า เสียงกุกกักๆ ของเสือขาวที่กัดกินกระดูกคน…
ในที่สุด เธอเดินมาถึงหน้าซือเยี่ยหาน
หญิงสาวยื่นถุงพลาสติกที่ใส่ซาลาเปาในมือมาตรงหน้าเขา “คือว่า คุณหิวไหม? ระหว่างทางที่ฉันกลับมาแวะซื้อซาลาเปาอร่อยมากพวกนี้มาให้ค่ะ”
…………………………………..
บทที่ 140 กลัวไหม?
บนโซฟา นัยน์ตาของชายหนุ่มยิ่งมืดมน ปากรูปกระจับบนใบหน้านิ่งเหมือนน้ำแข็งหมื่นปีก็ไม่ละลาย โดยเฉพาะกลางดึกที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ยิ่งราวกับอสูรที่เดินออกมาจากขุมนรก
ในห้องมีเสียงคำรามเบาๆ ของเสือขาวดังขึ้นมา บวกกับมีซือเยี่ยหานอยู่ด้วย บรรยากาศจึงหนาวเหน็บไม่หลงเหลือความอบอุ่นอยู่เลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี