บทที่ 1991 ยังแอบนัดเดทกันด้วย
เยี่ยหวันหวั่นคุยโม้เป็นวรรคเป็นเวร สร้างเรื่องราวว่าตัวเองเพิ่งผ่านสมรภูมิรบครั้งใหญ่มา ทำเอาเป่ยโต่วถูกปั่นจนหัวหมุน
แม้ชีซิงจะรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็คิดไม่ตกจริงๆ ว่าหญิงสาวทำได้อย่างไร
“งั้นตอนนี้จะทำยังไงกับป้ายอันนี้ดี? ให้เอาไปวางไว้ที่ไหนดีพี่?” เป่ยโต่วเอ่ยถาม
เยี่ยหวันหวั่นนำผ้าไหมสีแดงมาคลุมห่อป้ายโรงเรียนที่มีความสูงเท่ากับขนาดของคน แล้วสวมกอดมันทันที “ก็ต้องเอาติดตัวไปด้วยน่ะสิ”
“เอาติดตัวไปด้วยเหรอพี่? อันนี้…มันใหญ่ไปหน่อยไหม?” เป่ยโต่วถามด้วยสีหน้าตกตะลึง
เยี่ยหวันหวั่นไม่ไว้ใจที่จะให้คนอื่นเอาไปส่ง เลยตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะเอาไปส่งที่โรงเรียนตัวเอง เพื่อรับคะแนนเกียรติยศ “นี่มันคะแนนเกียรติยศตั้งหนึ่งหมื่นห้าพันแต้มเชียวนะ!”
“พี่เฟิง เอามาให้ผมช่วยยกเถอะ” ชีซิงรีบเสนตัวเข้าช่วย
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันเคลื่อนย้ายเอง!”
ชีซิงพูดไม่ออก
“ใช่แล้วพี่เฟิง เมื่อกี้ที่พี่รีบสุดชีวิต คือไปเอาของชิ้นนี้มาเหรอ?” เป่ยโต่วถามต่อ
“ก็ใช่ไง ทำไมเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว
เป่ยโต่วลองตะล่อมถามอย่างระมัดระวัง “พี่ไม่ได้…ไปทำเรื่องอื่นมาด้วยเหรอ?”
มัวแต่ยุ่งเรื่องแย่งป้ายโรงเรียน ก็ต้องไม่มีเวลาทำเรื่องอื่นอยู่แล้วน่ะสิ?
“มีสิ ยังแอบไปนัดเดทมาด้วย” เยี่ยหวันหวั่นรีบตอบทันที
เป่ยโต่วพูดไม่ออก
……
ไม่นานนัก ผู้นำของกองกำลังหลักก็มาถึงทีละคน และในช่วงเย็น การประชุมก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยผู้คน โดยหลักๆ แล้วทุกคนต่างกำลังพูดถึงเรื่องการหายตัวไปอย่างปริศนาของผู้นำรัฐอิสระหลายคน
“ได้ยินว่าแม้แต่จี้หวงก็ถูกฆ่าอย่างทารุณนะ…”
“มันเป็นใคร ถึงมีความสามารถมากขนาดนั้น?”
“ใครจะไปรู้เล่า!”
และในตอนนี้เอง นอกประตูก็มีเงาร่างของคนสองคน เดินตามกันเข้ามาในห้อง
เซี่ยเชียนชวนในชุดสูทสีเทาเมทัลลิค เดินนำอยู่ด้านหน้าด้วยหน้าตาเคร่งขรึม ส่วนเจียงหลีเฮิ่นเดินตามมาด้านหลังอย่างอืดอาด ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ไม่ดี และมีท่าทางที่น่ากลัวมาก
ภายในห้องประชุม ทุกคนที่นั่งอยู่ต่างพากันเงียบกริบในทันใด ทุกสายตากวาดไปยังทางเข้าประตูนั้น
ในตอนนี้ เยี่ยหวันหวั่นนั่งอยู่แถวหลังๆ ของหอประชุม แต่เธอกอดสิ่งของใหญ่ขนาดเท่าคนไว้ในอ้อมแขน ด้านบนยังคลุมด้วยผ้าไหมสีแดงเพลิง ซึ่งค่อนข้างโดดเด่นมาก
เจียงหลีเฮิ่นหยุดเดินชั่วคราว พลางจ้องไปยังเยี่ยหวันหวั่น ที่กำลังกอดป้ายโรงเรียนด้วยสายตาอาฆาต เขาโกรธมากจนแทบกระอักเลือด
เยี่ยหันหวั่นเมื่อเห็นดวงตาไม่เป็นมิตรของเจียงหลีเฮิ่น จึงรีบกอดป้ายโรงเรียนไว้แนบแน่นกว่าเดิม
จะทำอะไรหา?
นี่มันลูกน้อยหอยสังข์ของเธอเลยนะ!
ไม่ใช่สุดที่รักของนายอีกต่อไปแล้ว!
“ฮึ่ม…” จนกระทั่งเซี่ยเชียนชวนกระแอมไอเบาเพื่อนเตือนสติ เจียงหลีเฮิ่นถึงจะถอนสายตาออกจากป้ายโรงเรียนด้วยความไม่เต็มใจ แล้วเดินไปนั่งที่ตำแหน่งหัวหน้า
หลังจากที่เซี่ยเชียนชวนและเจียงหลีเฮิ่นนั่งลงได้ไม่นาน ผู้นำคนสุดท้ายของคุกคนบาปก็มาถึง
ด้วยเส้นผมสีเงินและอาภรณ์สีดำ ทำให้เขาเหมือนดูเหมือนแวมไพร์ทรงเสน่ห์ในราตรีที่มืดมิด
“คุณพระ นี่คือ…นายแห่งอาชูร่า?”
“จุ๊ๆ อาชูร่ากลับมาแล้ว คุกคนบาปจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!”
“ว่ากันว่า ผู้อำนวยการในคุกคนบาปที่เราเห็นกัน เป็นเซี่ยเชียนชวนกับเจียงหลีเฮิ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว นายแห่งอาชูร่าคนนี้ต่างหากที่เป็นสมองและหัวใจหลัก ถ้าไม่ใช่เพราะว่า นายแห่งอาชูร่าหายตัวไปอย่างกะทันหันในปีนั้นละก็ กลัวว่าคุกคนบาปในตอนนี้แม้แต่กลุ่มสหพันธ์วิทยายุทธ์ก็ข่มไว้ไม่อยู่นะ หึๆ…”
เมื่อเห็นซือเยี่ยหานปรากฏตัว เยี่ยหวันหวั่นก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ดวงตาของเธอส่องประกายไปทางที่ชายหนุ่มยืนอยู่
แววตาของหญิงสาวร้อนแรง จนซือเยี่ยหานที่แม้อยากจะแกล้งทำเมินก็ทำไม่ได้ สายตาที่เย็นชาจับจ้องไปยังหญิงสาวโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ทว่าแค่เพียงครู่เดียว ก็ต้องบังคับตัวเองให้ถอนสายตาออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี