เดิมทีตอนที่หานเซี่ยนอวี่ย่ำแย่ บริษัทต้องปั้นกงซวี่ก่อนเป็นอันดับแรก มาแทนที่ตำแหน่งของหานเซี่ยนอวี่ แต่ตอนนี้หานเซี่ยนอวี่ไม่เพียงแต่ยังอยู่ดี ความนิยมและชื่อเสียงก็ยิ่งมากขึ้น เขาจะโดนเฟยหยางบดขยี้อีกแล้ว
คิดมาถึงตรงนี้ โจวเหวินปินหัวเราะเยาะหยันติดต่อกัน “เยี่ยไป๋ใช่ไหม…ดีมาก! ทำฉันเสียเรื่องไม่ว่า ยังกล้ามากำเริบเสิบสานในถิ่นฉันอีก! ครั้งนี้ถือว่าคิดเหมาบัญชีรวมไปเลยแล้วกัน!”
ได้ยินลูกพี่พูดแบบนี้ จิตใจคนที่มาสงบลงไม่น้อย รีบพูดประจบประแจงทันที “มีพี่ปินครองที่นี่อยู่ ไม่ว่าใครมาก็ล้มไม่ได้หรอก!”
ชายอ้วนชื่นชมติดต่อกัน พลางเหลือบมองไปทางชายหนุ่มที่นั่งหน้าซีดอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าท่าทีคลุมเครือ
“ยังมีเรื่องอะไรอีก?” โจวเหวินปินมองเขาอย่างอารมณ์เสีย
“ไม่มี! ไม่มีแล้วครับ!”
“ไม่มีอะไรแล้วยังไม่รีบไปอีก?” ตอนนี้ในใจของโจวเหวินปินเห็นได้ชัดว่าจดจ่ออยู่ที่ลั่วเฉินคนตรงข้าม ดังนั้นจึงไม่พอใจมากที่ถูกรบกวน
“ครับๆๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้! ผมไปเดี๋ยวนี้!” ชายอ้วนเข้าใจความหมาย รีบร้อนพุ่งออกไป แล้วยังตั้งใจปิดประตูแน่นอีก
หลังจากชายอ้วนไปแล้ว ในพริบตา ในห้องทำงานกว้างใหญ่ก็กลับมาเหลือสองคนอีกครั้ง
โจวเหวินปินใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเบาๆ สีหน้าแสดงออกว่าหงุดหงิด “ลั่วเฉิน ความอดทนฉันมีจำกัด…”
ลั่นเฉินเหมือนได้รับความไม่เป็นธรรมบางอย่าง รูม่านตาหดตัว เย็นเยือกเป็นน้ำแข็ง
โจวเหวินปินเห็นสภาพแล้ว ก็แกล้งทำเป็นพูดเสียงอ่อนลง “เฮ้อ ลั่วเฉิน เธอนะเธอ นิสัยทำไมถึงได้ดื้อแบบนี้นะ? อยู่กับฉันไม่ดีตรงไหน?”
โจวเหวินปินพูดพลางเดินไปตรงหน้าลั่วเฉินช้าๆ ลากเสียงยาวพูดต่อว่า “ขอแค่เธอยอมเชื่อฟังฉัน ไม่เพียงแต่ฉันจะช่วยเรื่องค่ารักษาของแม่เธอ ฉันยังจะรักและเอ็นดูเธอให้มากด้วย…”
เพราะโจวเหวินปินเข้ามาใกล้ ตัวลั่วเฉินหดเกร็งเป็นคันธนู นิ้วมือที่กำแน่นเป็นหมัดอยู่ข้างตัวเมื่อกี้เหมือนจะระเบิดออกมาได้ในวินาทีถัดมา
โจวเหวินปินตัดสินใจแล้วเขาไม่กล้าคัดค้าน หัวเราะร่าใกล้เข้ามาอีก ก่อนฝ่ามือวางลงบนไหล่ลั่วเฉิน “ลั่วเฉิน ตั้งแต่อายุสิบแปดจนถึงยี่สิบเอ็ดปี เธอแข็งข้อกับฉันมาสามปีแล้ว ยังคิดจะดื้อต่อไปอีกใช่ไหม?
ช่วงเวลาทองของศิลปินก็มีแค่หลายปีนี้ เธอจะมีสามปีอีกกี่ครั้งมาใช้กับฉัน?
เธอรู้ไหม? ปีนั้นถ้าเธอเชื่อฟังฉัน ด้วยคุณสมบัติอย่างเธอ ตอนนี้ตำแหน่งในวงการบันเทิงไม่แน่อาจจะเทียบเท่ากับกงซวี่ไปแล้วก็ได้ หรืออาจจะแซงหานเซี่ยนอวี่ไปเลยก็ไม่รู้!”
โจวเหวินปินใช้ทั้งไม้แข็งและไม้อ่อน ส่วนลั่วเฉินเม้มริมฝีปากบางแน่น ไม่พูดอะไรออกมาสักคำตั้งแต่ต้น
เห็นอีกฝ่ายไม่พูดอะไรเลย ดูท่าทางแล้วยังดื้อรั้นต่อ โจวเหวินปินหัวเราะเสียงต่ำ ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “ลั่วเฉิน เธอคงไม่ได้คิดว่าทนจนหมดสัญญา แล้วจะสามารถหลุดพ้นไปจากฉันนะ?” โจวเหวินปินถอนหายใจ ส่ายหน้า แววตาเห็นอกเห็นใจ “ช่างเป็นเด็กซื่อจริงๆ…ตอนที่เธออยู่กับโกลบอลเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ฉันแช่แข็งเธอได้ เธอคิดว่าเธอออกจากโกลบอลไป ฉันจะปล่อยให้เธอมีโอกาสโด่งดังได้เหรอ?”
ในที่สุดสีหน้าลั่วเฉินก็เปลี่ยนไป อ้าปากพูด เสียงแหบแห้งมาก “ตกลงคุณ…จะเอายังไง…ต้องทำยังไง…ถึงจะปล่อยผมไป…”
นิ้วโจวเหวินปินค่อยๆ ลูบไล้ไปบนลำคอที่เนียนละเอียดของชายหนุ่ม ลมหายใจแรงขึ้นเล็กน้อย “ลั่วเฉิน เธอเป็นคนฉลาด ฉันอยากได้อะไรเธอรู้ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? แล้วของที่ฉันโจวเหวินปินคิดอยากได้ ยังไม่มีอะไรที่ไม่ได้มา!”
ลั่วเฉินตะโกนทีละคำ “ผมไม่ใช่คนรัก ร่วม เพศ!”
………………………………………..
บทที่ 290 มีธุระอะไร?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี