เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกไม่เปลี่ยนไป แต่บุคลิกลักษณะของคนคนหนึ่งกลับเปลี่ยนไปแล้ว
ลั่วเฉินเมื่อสามปีก่อนเหมือนกระดาษขาวแผ่นหนึ่ง สะอาดไร้มลทิน เต็มไปด้วยจิตวิญญาณและพรสวรรค์ บุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์นี้คือสายน้ำใสสะอาดในวงการบันเทิงที่เต็มไปด้วยความอยากได้อยากมี
แต่ในเวลาเดียวกัน ความสะอาดแบบนี้ทำให้ผู้คนอยากจะย่ำยีได้ง่าย
หน้าตาของลั่วเฉินในวันนี้ยังคงหล่อเหลาสมบูรณ์แบบ เหมือนกับทุ่งหิมะขาวผ่อง ทั้งๆ ที่รูปลักษณ์ยังคงเป็นหนุ่มน้อยแต่ดวงตากลับว่างเปล่าเหมือนคนแก่ ไร้ซึ่งประกาย
เดิมทีเยี่ยหวันหวั่นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ตอนนั้นนักแสดงนำของ ‘มังกรผงาด’ ทุกคนล้วนโด่งดัง แม้แต่นักแสดงสมทบก็พลอยมีชื่อไปด้วย ทำไมมีแค่ลั่วเฉินที่ข่าวคราวเงียบหาย ในที่สุดตอนนี้ก็เข้าใจแล้ว
ลั่วเฉินในตอนนั้นเพิ่งจะอายุสิบแปด เพิ่งเข้ามหาลัย โอบกอดความฝัน ถ่ายละครเรื่องแรกในชีวิตสำเร็จ อีกทั้งยังดังมากด้วย ชีวิตของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
ทนมาสิบแปดปี ในที่สุดก็ได้เริ่มทำอาชีพที่ตัวเองรัก ในที่สุดก็สามารถหาเงินให้แม่ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบาย…
แต่ทั้งหมดก็มาถูกโจวเหวินปินทำลายไปทั้งๆ แบบนี้…
เขาไร้กำลังไร้ความสามารถ คนน้อยน้ำหนักคำพูดเบา คำพูดของโจวเหวินปินประโยคเดียวก็สามารถบีบให้เขาถึงทางตันได้ เขาต้องมองนักแสดงรุ่นเดียวกันข้างกายรวมทั้งพวกที่เก่งไม่เท่าเขาคนแล้วคนเล่าโด่งดัง ทิ้งเขาไว้ข้างหลังอยู่ไกลๆ…
ต้องมองดูแม่ที่ชราป่วยออดๆ แอดๆ มากขึ้นทุกที ส่วนเขายังทำอะไรไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง มองไม่เห็นความหวังในอนาคตแม้แต่น้อย…
เพราะชาติที่แล้วลั่วเฉินไร้ตัวตนเกินไป เรื่องเดียวที่เยี่ยหวันหวั่นรู้เกี่ยวกับเขาคือ ‘มังกรผงาด’ ก็เลยไม่รู้ว่าจุดจบในชาติที่แล้วของลั่วเฉินเป็นอย่างไร คิดดูก็คงไม่ดีเท่าไรนัก การที่เขาไม่เคยดังแปลว่าเขาไม่เคยยอมโจวเหวินปิน…
บนโซฟา หุ่นของลั่วเฉินผอมบาง เส้นผมสีดำดูอ่อนนุ่ม ผิวซีดขาวเหมือนป่วยจนคล้ายกับว่าแค่สัมผัสก็อาจแตกสลายได้
เยี่ยหวันหวั่นมองดูเขาก้มศีรษะทำแผลให้ตัวเองโดยไม่ส่งเสียงร้องสักแอะ ดูเป็นเด็กดีว่าง่าย ในใจก็รู้สึกอ่อนยวบอย่างประหลาด
ช่วยไม่ได้ อายุหัวใจของเธออย่างไรก็เป็นหญิงอายุยี่สิบเจ็ดปี เห็นแกะน้อยที่บริสุทธิ์และอ่อนแอเช่นนี้ ก็อดไม่รักไม่เอ็นดูได้ยาก
ลั่วเฉินรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องตนเองอยู่ จึงเงยหน้าขึ้นมองไปยังคนด้านหลังโต๊ะทำงาน ในดวงตาสุกใสนั้นมีความระแวดระวังอย่างชัดเจน
ถูกกดขี่ข่มเหงมาเต็มๆ สามปี เกือบจะลบความไร้เดียงสาและความบริสุทธิ์ของเขาไปหมดแล้ว เขาไม่อาจไว้ใจใครง่ายๆ ได้อีก แม้ว่าคนคนนี้จะเพิ่งช่วยเขาจากออกมาจากกำมือของโจวเหวินปินก็ตาม
ใครจะรู้ว่าเขาไม่ใช่โจวเหวินปินคนต่อไป?
คิดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ของลั่วเฉินพลันเครียดเขม็ง
เวลานี้ เยี่ยหวันหวั่นก็รู้สึกตัวแล้ว เริ่มทำงานอย่างจริงจัง
เธอเปิดสมุดโน้ตปกหนังสีดำเล่มหนึ่งขึ้นมา จากนั้นเริ่มถามคำถาม “ในสามปีมานี้ นายรับงานละครกับโฆษณาอะไรบ้าง?”
ลั่วเฉินในหน้าหมองคล้ำ เอ่ยตอบด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ไม่มี…ไม่มีงานละคร แล้วก็โฆษณาด้วย”
คำตอบนี้ตรงกันกับสิ่งที่เธอเข้าใจ
เยี่ยหวันหวั่นถาม “งานส่วนตัวล่ะ?”
ลั่วเฉินส่ายศีรษะ “ไม่มีครับ บริษัทไม่อนุญาต”
เยี่ยหวันหวั่นถามต่อไป “มีแฟนหรือยัง? คบใครอยู่ไหม? รวมถึงที่ผ่านไปแล้วด้วย”
ลั่วเฉินตะลึงไปเล็กน้อย ร่างกายดูเครียดเขม็งขึ้นมาเพราะคำถามนี้ เขาเม้มปากตอบ “ไม่มี…ที่ผ่านมาก็ไม่มี…”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินดังนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย เคาะปากกาในมือ แม้ว่าอายุขอลั่วเฉินจะยังไม่มาก แต่ยี่สิบเอ็ดปีก็นับว่าไม่เด็กแล้ว บวกกับหน้าตาของเขาที่อยู่ตรงหน้านี้ คาดไม่ถึงว่าจะไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง?
อย่าบริสุทธิ์ขนาดนี้จะได้ไหม…
……………………………………………………
บทที่ 296 ทำไมถึงต้องเป็นเขา
“คู่นอนล่ะ? กิ๊ก? คู่นอนวันไนต์สแตนด์?” เยี่ยหวันหวั่นถามต่อด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ถ้าไม่มีเป็นดีที่สุด ถ้ามี เธอจำเป็นต้องจัดการอดีตดำมืดทุกอย่างของเขาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี