รักหวานอมเปรี้ยว นิยาย บท 242

เปปเปอร์นิ่งเงียบไป ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับข้อเสนอนี้

คุณหมอตฤณจึงได้พูดอีกครั้งว่า “อีกอย่าง ประธานเปปเปอร์ถูกรบกวนจากอิทธิพลของคู่หมั้นคุณ นั่นหมายความว่า คุณสามารถหาเบาะแสบางอย่างจากเธอได้ บางทีคู่หมั้นของคุณอาจจะรู้อะไร หรือบางทีเธออาจจะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากมัน”

“ที่คุณหมอตฤณพูดมาก็สมเหตุสมผลดีนะครับ ผมเข้าใจแล้ว วันนี้รบกวนคุณมากแล้ว ต้องขอบคุณจริงๆ” เปปเปอร์ยื่นมือออกไปให้เขา

คุณหมอตฤณยื่นมือออกไปจับมือเขา “ไม่หรอกครับ ถ้าประธานเปปเปอร์มีคำถามอะไรสามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา”

“ขอบคุณครับ” เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเรียกผู้ช่วยเหมันตร์ที่ยืนรออยู่ด้านนอกให้เข้ามา “รบกวนส่งคุณหมอตฤณกลับด้วย”

“ได้ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ตอบรับแล้วหันมาทำท่าโค้งเชิญกับคุณหมอตฤณ

ผู้ช่วยเหมันตร์ส่งคุณหมอตฤณไปที่ลิฟต์ เมื่อคุณหมอตฤณเข้าไปข้างในแล้ว เขาจึงได้เดินกลับมาที่ห้องทำงานของประธานอีกครั้ง

“ประธานเปปเปอร์ครับ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ผู้ช่วยเหมันตร์เอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

เปปเปอร์ส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ ช่วยติดต่อจิตแพทย์ให้ผมอีกสองสามคนหน่อยนะ”

“ประธานเปปเปอร์ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์ตกใจจนสะดุ้ง

จิตแพทย์เพียงคนเดียวไม่พอ ยังจะให้เขาหาอีกสองสามคน?

ความผิดปกติทางจิตของประธานเปปเปอร์หนักขนาดนี้เชียวหรือ?

เปปเปอร์เหลือบมองเขาอย่างไร้ความอดทน “ผมให้ทำก็ไปทำเถอะ ถามให้มากความทำไม?”

“ผมก็แค่เป็นห่วงเท่านั้นเอง” ผู้ช่วยเหมันตร์เบ้ปาก

เปปเปอร์เอามือขึ้นกุมขมับ “เอาเถอะ อย่าพูดให้มากนัก ช่วยไปสืบให้หน่อยว่าหกปีก่อนหน้านี้ หรือเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ส้มเปรี้ยวเคยติดต่อกับจิตแพทย์หรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสะกดจิต”

เขากำลังสงสัยว่าส้มเปรี้ยวเป็นคนติดต่อจิตแพทย์มาสะกดจิตเขา เนื่องจากเรื่องนี้เธอเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุด

แน่นอนว่าแม้จะไม่ใช่ตัวส้มเปรี้ยวที่เป็นคนลงมือ แต่ก็ต้องเกี่ยวข้องกับเธออย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้ดังนี้เปปเปอร์ก็เอ่ยขึ้นอีกประโยคหนึ่งว่า “สืบคุณเยี่ยมบุญสองสามีภรรยานั่นด้วย”

“ประธานเปปเปอร์ครับ คุณหมายถึงคุณหมอการันต์เหรอครับ? คุณหมอการันต์สะกดจิตเป็น เขามีความสัมพันธ์ที่ดีทีเดียวกับคุณหนูส้มเปรี้ยว ถ้าคุณหนูส้มเปรี้ยวต้องการจะเข้าพบจิตแพทย์ คนที่เธอจะไปหาเป็นคนแรกน่าจะเป็นเขา” ผู้ช่วยเหมันตร์เอ่ยเตือน

เปปเปอร์หรี่ตาลง ดวงตาอันเป็นประกายแวบเข้ามา “อืม งั้นก็ไปสืบการันต์มาด้วย”

“แล้วคุณหนูส้มเปรี้ยวกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ยังต้องสืบอยู่ไหมครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์ถาม

เปปเปอร์หันไปมองเขาด้วยสายตาไร้ความอดทน “คุณว่าไงล่ะ?”

“ผมเข้าใจแล้วครับ ผมจะไปสืบเดี๋ยวนี้” ผู้ช่วยเหมันตร์โค้งตัวลง

เปปเปอร์จึงได้ละสายตาของตนเองกลับไป

แน่นอนว่ายังต้องสืบต่อ ส่วนตัวเขาคิดว่าหากส้มเปรี้ยวหรือคนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์ต้องการสะกดจิตเขา ก็คงจะไม่ไปหาหมอการันต์แน่ เพราะความสัมพันธ์ของตระกูลภักดีพิศุทธิ์กับหมอการันต์ดีต่อกันเพียงไรนั้นทุกคนล้วนรู้ดี การที่จะให้หมอการันต์ช่วยสะกดจิตช่างอันตรายเหลือเกิน หากว่าหมอการันต์ถูกจับได้ คนในตระกูลภักดีพิศุทธิ์ก็จะถูกเปิดโปง

ดังนั้นถ้าคนที่ฉลาด ก็จะเลือกหมอคนอื่น แต่ถึงอย่างไรทุกเรื่องก็ไม่มีความแน่นอน ดังนั้นควรจะตรวจสอบไปพร้อมๆ กัน

หลังจากนั้นสองวัน เปปเปอร์ก็ได้เข้าพบจิตแพทย์ขึ้นชื่อมากมาย

แต่การตัดสินอาการของพวกเขาทุกคนเป็นไปดังที่คุณหมอตฤณพูด นั่นก็คือเขาไม่ได้ถูกสะกดจิต เขาปกติดี

ด้วยผลการรักษานี้ ทำให้เปปเปอร์รู้สึกผิดหวังมาก แต่ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มสงสัยขึ้นมา

จิตแพทย์คนหนึ่งกล่าวว่าเขาไม่ได้ถูกสะกดจิต อาจจะเป็นการตัดสินที่ผิดพลาดไป

แต่จิตแพทย์หลายคนก็บอกว่าเขาไม่ได้ถูกสะกดจิต เช่นนั้นเขาคงไม่ได้ถูกสะกดจิตจริงๆ

สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกผิดปกติไป เป็นเพราะเขาคิดมากไปเองหรือ?

ไม่สิ สัญชาตญาณของเขาบอกกับตัวเองว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความจริง เพียงแต่เขาไม่ได้ถูกสะกดจิตเท่านั้น มันเป็นเพราะเหตุผลอื่น

“ประธานเปปเปอร์ครับ ผมสืบได้ความมาแล้ว คุณหนูส้มเปรี้ยวและคนในตระกูลตลอดหกปีมานี้ไม่เคยได้ของเกี่ยวกับจิตแพทย์คนอื่นนอกจากคุณหมอการันต์ แต่ก่อนหน้านี้หกปีคุณหมอการันต์ไม่มีความรู้เรื่องของจิตวิทยา หลังจากที่เขาเดินทางออกไปศึกษาที่ต่างประเทศจึงได้ฝึกฝนในด้านนี้มา เมื่อสามเดือนก่อนที่คุณหนูส้มเปรี้ยวตื่นขึ้น เขาจึงเดินทางกลับประเทศ หกปีก่อนหน้านั้นไม่ได้มีการติดต่อกันเลย เมื่อไม่กี่เดือนก่อนพวกเขาเคยได้พบปะกันเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรคุณ” ผู้ช่วยเหมันตร์ยื่นเอกสารที่ตนสืบมาได้ไปให้เขาอ่าน

เปปเปอร์รับไปและอ่านมันโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาก้มหน้าก้มตาดูเหมือนกำลังคิดบางอย่างอยู่

“อ้อจริงสิครับ ประธานเปปเปอร์” ผู้ช่วยเหมันตร์เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เมื่อสักครู่ คุณหนูส้มเปรี้ยวกลัวว่าคุณจะไม่รับโทรศัพท์เธอ จึงได้โทรมาที่ผมแล้วให้ผมบอกกับคุณว่า คืนนี้เธออยากจะนัดคุณไปทานข้าว จะได้ปรับความเข้าใจกับคุณด้วย ผมคิดว่าเธอน่าจะอยากขอคืนดีกับคุณด้วยตนเอง” เนื่องจากหลายวันมานี้ประธานเปปเปอร์ไม่ยอมพบเธอเลย

คาดว่าเธอคงจะรู้สึกกระสับกระส่าย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว