ตั้งแต่วินาทีที่ช่วยแกะของขวัญ เธอก็รู้แล้วว่า ของขวัญข้างในจะต้องทำให้คนตกตะลึงแน่
แน่นอนว่า ความตกตะลึงที่เธอหมายถึงนั้นไม่ใช่มูลค่าของขวัญ
และเธอเองก็ไม่ได้ตกตะลึงเพราะของขวัญที่ประธานเปปเปอร์มอบให้ประธานใหญ่มีมูลค่ามากมาย แล้วถึงแม้ว่ามูลค่าจะนับไม่ถ้วน เธอก็ไม่ตกตะลึงหรอก
ในเมื่อตั้งแต่แรก เธอก็เริ่มเดาได้แล้วว่าของขวัญจะต้องมีราคาแพงมากแน่
ต้องรู้ไว้ด้วยว่าด้วยฐานะของประธานเปปเปอร์ ถ้าเกิดของขวัญที่มอบให้นั้นไม่มีค่า ถึงจะทำให้ถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ได้
ดังนั้นเรื่องที่คาดคิดไว้แล้ว จึงไม่มีอะไรให้ตกตะลึงมากนัก
ที่ทำให้เธอตกตะลึงจริง ๆ นั้น คือความหายากและความใส่ใจ รวมทั้งประโยชน์ของของขวัญต่างหาก
คนรวยมากมายที่มอบของขวัญให้ผู้หญิง ล้วนราคายิ่งแพงก็ยิ่งดี โดยไม่เคยคำนึงเลยว่าอีกฝ่ายจะชอบหรือเปล่า เหมาะสมหรือเปล่า
พวกเขารู้แค่ว่ามอบออกไปก็พอแล้ว
สำหรับเรื่องอื่นนั้น พวกเขาไม่สนใจเลย
ใครจะไปเหมือนประธานเปปเปอร์ ของขวัญที่มอบให้ประธานใหญ่นั้น ไม่เพียงแค่มีค่ามาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็ยังเข้าใจจิตใจของผู้หญิงมากด้วย
เครื่องสำอาง กระเป๋า น้ำหอม เครื่องประดับพวกนี้ ทุกอย่างล้วนละเอียดอ่อนมาก ทำให้ผู้หญิงไม่มีทางละสายตาไปได้เลย
ดังนั้นการมอบของขวัญ จะต้องมอบของขวัญที่เหมาะสมกับผู้อื่น ถูกใจผู้อื่นที่สุด แต่ไม่ใช่ว่าแค่มอบออกไปเฉย ๆ เท่านั้น
ของพวกนี้ที่ประธานเปปเปอร์มอบให้ประธานใหญ่ แค่ดูก็รู้แล้วว่าได้ตั้งใจเตรียมมา ทุกอย่างล้วนเหมาะสมกับประธานใหญ่มาก
นี่มันคือการรู้จักเอาอกเอาใจผู้หญิงไม่ใช่เหรอ?
พอได้ยินคำพูดของเลขาซินดี้ มายมิ้นท์ก็จ้องมองไปที่ของขวัญพวกนั้น บนใบหน้าก็รอยยิ้มที่อ่อนหวานปรากฏออกมา “ใช่ รู้จักเอาใจผู้หญิงมากจริง ๆ”
เปปเปอร์บอกว่า ของขวัญที่มอบให้กับเธอ ดีกว่าของที่ให้คุณป้า
แต่ตอนนี้มาดูแล้ว ไม่ใช่แค่ดีเฉย ๆ แต่ว่าดีกว่าเยอะเลย
ผู้ชายคนนี้นี่……
มายมิ้นท์ยิ้มแล้วก็ส่ายหน้าเล็กน้อย
เลขาซินดี้เองก็จ้องมองไปที่ของขวัญพวกนี้ “ประธานใหญ่คะ ของพวกนี้คงจะเป็นสินค้าใหญ่เลยใช่ไหมคะ?”
มายมิ้นท์ตอบอืมไปคำหนึ่ง “ยังไม่วางตลาดเลย เขาได้ของมาก่อน”
“ประธานเปปเปอร์นี่เป็นคนมีความสามารถมากจริง ๆ” เลขาซินดี้พยักหน้าขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เร่งรัดขึ้นว่า “ประธานใหญ่รีบลองใช้ดูซิคะ เดี๋ยวฉันช่วยคุณถ่ายรูป”
“ได้” มายมิ้นท์พยักหน้าขึ้น
ของขวัญพวกนี้ ในเมื่อเธอรับมาแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องใช้อยู่แล้ว
ถ้าไม่ใช้ละก็ จะทำให้ชายหนุ่มคิดมากได้
ในเมื่อรับของมาแล้ว วางทิ้งไว้แล้วไม่ใช้ ก็ไม่แตกต่างอะไรกับไม่รับมา
ดังนั้นพอมายมิ้นท์ได้ยินเลขาซินดี้เสนอว่าจะช่วยถ่ายรูปให้ ก็รีบตอบรับอย่างว่าง่ายแล้วก็ลองพวกกระเป๋าอะไรพวกนี้
แล้วทั้งสองคนก็เริ่มเล่นการละเล่นแต่งหน้าเปลี่ยนเครื่องประดับอะไรพวกนี้ในห้องทำงานไป
พอเล่นเสร็จแล้ว มายมิ้นท์ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาเล็กน้อย แล้วก็นั่งดื่มน้ำบนโซฟาไป
เลขาซินดี้กลับนั่งอยู่ข้าง ๆ ช่วยเธอจัดการรูปที่เพิ่งถ่ายเมื่อกี้ไป
พอจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เลขาซินดี้ก็ยื่นโทรศัพท์ไปให้มายมิ้นท์ “ประธานใหญ่คะ รูปถ่ายพวกนี้ไม่เลวเลย คุณลองดูซิคะว่าเป็นยังไงบ้าง?”
มายมิ้นท์วางแก้วน้ำลง แล้วรับโทรศัพท์มาเปิดออกดูรูปเล็กน้อย จากนั้นก็ชูนิ้วโป้งให้กับเธอ แล้วพูดชื่นชมขึ้นว่า “ถ่ายได้ไม่เลวเลย ขอบใจนะ”
“ท่านประธานเกรงใจเกินไปแล้ว” เลขาซินดี้ยิ้มอย่างรู้สึกเขินอายขึ้นมาทีหนึ่ง
เปปเปอร์เลือกรูปที่ดีที่สุดมาหลายใบ แล้วส่งให้กับเปปเปอร์
ในเวลานี่เปปเปอร์อาจจะกำลังยุ่งอยู่ พอส่งรูปถ่ายไปแล้ว ก็เงียบสนิท ไม่มีการตอบกลับใด ๆ
แต่มายมิ้นท์ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวังสักนิด
เธอไม่ใช่พวกคนที่พอส่งข้อความออกไปแล้ว ก็จะไม่สนใจว่าอีกฝ่ายยุ่งอยู่หรือเปล่า แล้วต้องให้อีกฝ่ายตอบกลับมาให้ได้ ถึงจะเป็นความดื้อดึงที่จะเอามายืนยันว่าอีกฝ่ายรักตัวเองจริง
และที่สำคัญ เธอรู้ว่าพอเปปเปอร์ทำงานเสร็จแล้ว ก็จะต้องตอบกลับมาเอง
“เอาล่ะ ของขวัญก็แกะหมดแล้ว คุณสามารถไปให้คำตอบกับพี่น้องคุณได้แล้ว” พอเก็บโทรศัพท์ไป มายมิ้นท์ก็จัดการของขวัญบนโต๊ะ แล้วยิ้มและพูดกับเลขาซินดี้ขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักหวานอมเปรี้ยว
โดนสาดกรดก็รีบล้างออกสิ กว่าจะขับรถไปถึงก็กัดกร่อนไปถึงกระดูกแล้ว วางเรื่องมาให้พระนางฉลาดมาก แต่ดันไม่รู้ว่าต้องล้างด่วน...
ก็แค่บอกอีธานว่านังส้มเน่าอาจจะเป็นคนวางแผนฆ่าแฟนเก่า แล้วให้อีธานสะกดติตมันให้สารภาพ ก็จบแล้ว จะง่าวอะไรขนาดนั้น...