“ฟางเซียน! เจ้าตื่นขึ้นมาคุยกับข้าเดี๋ยวนี้นะ!” เสียงทุ้มตวาดดังลั่นไปทั่วห้องนอน ปลุกให้คนที่กำลังหลับตาพริ้มตื่นขึ้น
“โอ๊ย! เรียกอะไรกันนักกันหนาเนี่ย คนจะหลับจะนอน” เสียงหวานดังออกมาจากตั่งเตียงด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เจ้าของร่างจะขยับกายลุกขึ้นนั่งบิดตัวไปมาด้วยท่าทีเกียจคร้าน
“น่ารังเกียจนัก!” ไม่พูดเปล่าสายตาคมประดุจเหยี่ยวจ้องมองไปยังคนถูกว่าด้วยสายตารังเกียจปะปนด้วยความโกรธ
ไป๋ฟางเซียน เจ้าของชื่อที่ถูกรบกวนเวลานอน ทั้งยังถูกต่อว่าและได้รับสายตาเช่นนั้นจากอีกฝ่าย ที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีกลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด นางมองสบตาคนสูงกว่าอย่างเฉยเมย
“ฮึ่ม! ไปอาบน้ำ ข้ามีเรื่องต้องพูดคุยกับเจ้าให้รู้เรื่อง” พูดจบก็เดินออกไปด้วยอารมณ์ขึ้งโกรธ
ไป๋ฟางเซียนมองตามแผ่นหลังกว้างของผู้เป็นสามีพลางมุ่นคิ้วด้วยความสงสัย
‘มีเรื่องต้องคุยกับข้าเช่นนั้นหรือ จะเป็นเรื่องใดได้อีกถ้าไม่ใช่แม่ดอกบัวขาวหวานใจเจ้าผู้นั้น’ นางคิดด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะรีบพาตนเองไปอาบน้ำชำระกาย
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม ไป๋ฟางเซียนก็เดินไปที่ศาลารับลมอันเป็นที่ประจำของนาง เมื่อไปถึงก็เห็นบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ข้างกันมีสตรีหน้าตางดงามในชุดจีนโบราณสีขาวนั่งอยู่ด้วย
สตรีผู้นั้นเอาอกเอาใจสามีของนางดียิ่ง ครั้นเมื่อเห็นว่านางมาถึง ใบหน้ายิ้มแย้มที่มีในคราแรกก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมองราวกับสั่งได้ หยดน้ำตาเม็ดเล็ก ๆ สีใสพลันไหลอาบแก้มนวล
มุมปากของไป๋ฟางเซียนฉีกยิ้มเตรียมดูบทละครตรงหน้า นับได้ว่าสตรีนางนี้มีความสามารถอย่างแท้จริง หากนี่เป็นยุคที่ตนจากมา นางก็คิดว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นนักแสดงอันดับต้น ๆ ได้
เข้าใจไม่ผิด ไป๋ฟางเซียนไม่ใช่คนที่นี่ นางทะลุมิติมาจากอีกโลกแบบงง ๆ ไร้ซึ่งความช่วยเหลือเช่นนิยายที่เคยอ่าน คราแรกไป๋ฟางเซียนก็กลัวและกังวลอยู่มาก เนื่องจากนางไม่รู้จักใครที่นี่และยังไม่รู้ว่าตนเองกำลังอยู่ในยุคสมัยไหน
ความทรงจำด้านความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนก็ไม่มี เพราะในโลกเดิมนั้น ไป๋ฟางเซียนเป็นเพียงนักศึกษาด้านศิลปะการแสดงที่เพิ่งจะขึ้นปีสองเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการข้ามมาอยู่ที่โลกนี้เป็นไปได้เช่นไรนั้น ไป๋ฟางเซียนไม่รู้เลยจริง ๆ
ส่วนไป๋ฟางเซียนในโลกนี้ นางก็ไม่รู้เช่นกันว่าอีกฝ่ายตายได้เช่นไร ที่บอกว่าตายแล้วก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้าเจ้าของร่างนี้ไม่ตายนางคงไม่สามารถเข้ามาอยู่ในร่างอันสวยงาม สมเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงได้หรอก
ไป๋ฟางเซียนในยุคนี้เป็นบุตรสาวบุญธรรมที่บิดามารดาของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอุปการะเลี้ยงดู ส่วนพ่อแม่ของนางเสียชีวิตไปนานแล้ว วันแรกที่ไป๋ฟางเซียนเข้ามาในจวนแม่ทัพ บรรยากาศในจวนก็เป็นไปได้ด้วยดี บุตรชายของบิดามารดาบุญธรรมเอ็นดูนางไม่น้อย เพราะสงสารที่นางเป็นกำพร้า ไป๋ฟางเซียนมีความสุขมาก แล้วความสุขนั้นของนางก็หายไปเมื่อวันหนึ่งบิดามารดาบุญธรรมหมั้นหมายนางกับบุตรชายของตน
ในตอนแรกไป๋ฟางเซียนก็มีความสุข นานวันเข้าก็มีแต่ความทุกข์ บุรุษที่นางรักและเรียกขานเขาว่าท่านพี่ไม่สนใจไยดีกัน ทั้งยังตั้งแง่รังเกียจ ความอ่อนโยนที่เคยได้รับ กลับกลายเป็นเย็นชาแข็งกระด้างจนนางไม่กล้าเข้าใกล้
ความห่างเหินของบุรุษผู้นั้นทำให้ไป๋ฟางเซียนเปลี่ยนไป ความสดใสกลับกลายเป็นความด้านชา และมีนิสัยเอาแต่ใจตนเองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน นางกลายเป็นสตรีร้ายกาจในสายตาเขา เป็นนางมารที่สมควรถูกกำจัด
บุรุษผู้นั้นรังเกียจนางยิ่งชีพ ถึงกับกล้าคิดร้ายต่อนางอยู่หลายครั้งเพียงเพราะไม่อยากเห็นหน้า หนำซ้ำยังทำตัวร้ายกาจด้วยคำพูดในทุกคราที่พบหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ