ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 140

จะว่าไปก็บังเอิญ คนพวกนี้เคยไปพั่วอวี้มาก่อนทั้งนั้น แต่กลับมีเพียงสตรีนางนี้ที่เคยเห็นเฉินซ่าพาสี่องครักษ์ขี่ม้าเหงื่อโลหิตผ่านไป

ช่างสง่างามไร้ใครเทียม จากนั้นมิอาจลืมเลือนได้อีกเลย

แน่นอน นางรู้ระยะห่างของตนกับอีกฝ่าย มิได้คาดหวังอันใด เพียงแต่หากมีใครพูดถึงชายรูปงาม นางจะต้องเอ่ยถึงเฉินซ่า

ไม่คิดว่าจะมาเจอเข้าที่นี่

มันช่างตื่นเต้นนัก

"ฝ่าบาทพั่วอวี้? ข้าน้อยเลื่อมใสเขาที่สุด..."

"ฝ่าบาท"

คนผู้หนึ่งขึ้นหน้าสองก้าว กำหมัดขึ้นคารวะพลางว่า "ข้าหยูห้วง หลายคนนี้เป็นสหายในยุทธภพที่ร่วมเดินทางมาด้วยกัน พวกข้าหลายคนอยากตามฝ่าบาทไปช่วงหนึ่ง มิทราบว่าจะได้หรือไม่?"

เฉินซ่ารับคำอืม และจูงโหลชีเดินไปข้างหน้า

พวกหยูห้วงดีใจนัก รีบตามไป

เวลานี้เอง พื้นใต้ฝ่าเท้าทุกคนพลันสะเทือน!

"พื้นดินสะเทือน?" มีคนร้องขึ้นมา

"ไป!" ความไม่สบายใจของโหลชียิ่งแรงขึ้น นางคิดถึงตอนกับดักที่สามารถสร้างกระแสน้ำวนใหญ่นั่นออกมา ชอบรู้สึกว่ามีบางอย่างท่าจะไม่ดี

ทุกคนรีบเร่งฝีเท้า

และตอนนี้อีกด้านของแม่น้ำ หลายคนพากันพุ่งไปขึ้นเรือ เวลานี้เองคงไม่สามารถมีเวลามาแยกอีกแล้วว่าเป็นเรือที่ตนนั่งมาหรือไม่ ยังไงซะก็คือเรือ ก็พุ่งเข้าไปเลย

บางคนร้องเรียกให้ออกเรือ บางคนยื่นขาออกไปถีบคนที่หวังขึ้นรถให้ตกลงไป "ไสหัวไปขึ้นเรือลำอื่นซะ ไม่เห็นว่าที่นี่เต็มแล้วหรือไร?!"

"นั่นเป็นเรือข้า!"

"ไสหัวไปซะ ข้าจะขึ้นเรือลำนี้!"

พวกที่เคลื่อนไหวเร็วรีบออกเรือไปก่อนแล้ว กำลังหัวร่ออย่างได้ใจ บนเรือกลับมีคนร้องเสียงดังว่า "เรือรั่ว!"

"ไม่ไม่ไม่ ดาดฟ้าเรือจะหักแล้ว!"

"เรือจะจมแล้ว เรือจะจมแล้ว!"

"กระโดดลงน้ำ กระโดดลงน้ำ"

มีคนร้องขึ้นมา โดดลงน้ำสิ ไฟลามมาไม่ถึงนี่หรอก อย่างมากพวกเขาก็ลอยคอแช่ตัวในน้ำหนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยคิดหาทาง!

ต๋อม ต๋อม ต๋อม มีคนไม่น้อยกระโดดลงน้ำ ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งหันไปมองในน้ำอย่างเอื่อยเฉื่อย ทันใดนั้นเขารู้สึกเย็นเยือกไปทั่วตัว! น้ำนั่น น้ำนั่นมีไม้ไผ่แหลมคมปักอยู่เต็ม! กระโดดลงไปก็แทงทะลุพรุนพอดี!

"พี่ใหญ่ รีบกระโดดสิ!" ด้านหลัง เสียงร้อนใจของพี่น้องเขาดังขึ้น จากนั้นเขาก็โดนผลักลงไป และพี่น้องของเขาก็กระโดดตามลงมา

"ไม่!"

เสียงร้องโหยหวนด้วยความสิ้นหวังหยุดชะงัก บนหน้าน้ำมีเลือดผุดขึ้นมา

ในน้ำ ก็เป็นการฆ่าล้างอีกแห่งหนึ่ง

บางคนพบว่า คนส่วนใหญ่ของอุทยานเขาเฟิงหยุนหายไปหมดแล้ว และยังพบว่าหลายคนมีสีหน้าหวาดกลัวถามอะไรก็ไม่รู้ โดนคนไล่ฆ่า แต่นั่นมีประโยชน์อะไร ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น

ครั้งนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องหลบเหล่าทหารยามแล้ว เพราะไม่เหลือทหารยามอยู่เลย ในทางหน้าผาน้ำเงียบจนได้ยินเสียงน้ำหยดเป็นระยะๆ

พื้นดินสั่นสะเทือนเพียงชั่วครู่ แต่มันเพียงพอที่จะบีบคั้นหัวใจพวกเขา และห้อยโหนมันขึ้น

โหลชีรู้ว่าพื้นดินสะเทือนที่พวกเขาพูดคือแผ่นดินไหว แผ่นดินไหวเฉียบพลัน? นางรู้สึกว่ามันแปลกๆ อุทยานเขาเฟิงหยุนนี่โดนน้ำล้อมรอบ ถ้าแผ่นดินไหวจริง น้ำในแม่น้ำน่าจะผิดปกติสิ? วันนี้นอกจากกระแสน้ำวนที่กับดักนั่นทำออกมาแล้ว นางไม่เห็นความผิดปกติอย่างอื่นเลย

แน่นอน นางไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ดูไม่ออกก็ไม่แปลก

ในตอนที่โหลชีเห็นเรือใหญ่ยังอยู่ก็ขมวดคิ้ว นางมาที่นี่ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่เรือใหญ่ลำนั้น ถ้าคนของอุทยานเขาเฟิงหยุนจะหนีไปก่อน เรือลำนี้ควรจะแล่นออกไปแล้วสิ นางเล็งมาที่เรือลำเล็กๆพวกนั้น คราวก่อนนางไม่ใช่ไม่สังเกตเห็นเรือพายหลายลำนั่น

แต่ตอนนี้เรือใหญ่ยังอยู่ ก็ต้องนั่งเรือใหญ่สิ

"ฝ่าบาท พวกเราลองขึ้นไปดูก่อนดีหรือไม่?" หยูห้วงนั่นเดินขึ้นหน้า

เฉินซ่าพยักหน้า

"เรือสองลำนี้ พวกเราไปลำไหนกัน?" ผู้ชายอีกคนถาม

โหลชีกระแอมไอ และชี้ไปทางด้านขวา "ลำใหญ่นั่นแล้วกัน" ค่ายกลที่นางวางไว้ยังอยู่ ไม่มีใครทำลาย เรือลำเล็กนั่นเป็นแค่ภาพลวงตา ข่งซิวมองนางยิ้มๆ

หยูห้วงจึงพาทั้งสองคนขึ้นเรือใหญ่ลำนั้น ยังไม่รอพวกเขาตรวจสอบให้ละเอียด พื้นดินก็เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้ง มีเศษหินร่วงกราวจากด้านบน น้ำเริ่มไหลเชี่ยว น้ำตรงหน้าพวกเขามีปลาหลายตัวกระโดดขึ้นมาบนผิวน้ำ

ทั้งๆที่รู้ว่านั่นเป็นปลาซิงหลัว แต่เวลานี้ใครจะสนปลาซิงหลัวกัน สีหน้าทุกคนเปลี่ยนกันหมด

"พื้นดินสะเทือนจริงๆ!"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ