ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 141

ไม่ใช่ว่าแก้กู่ แต่บังคับล่อออกมา เท่ากับจะเป็นการทำให้พิษกู่กำเริบ พอพิษกู่กำเริบ และยังอยู่ในค่ายกลแบบนี้อีก สุดท้ายร่างกายเฉินซ่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร สุดท้ายเขาจะกลายเป็นยังไง จุดนี้แม้แต่โหลชีเองก็พูดไม่ถูก

ที่นางหวาดหวั่นมากคือ ใครมีความสามารถขนาดนี้ สามารถจัดวางค่ายกลโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างนี้ไว้ใต้น้ำ และใครกันที่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าว่าเขาจะมาที่อุทยานเขาเฟิงหยุน และไม่ไปทางแม่น้ำ กลับนั่งเรือทางหน้าผาน้ำนี้

บางที บัวเลือดเขาน้ำแข็งปลอมนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในการจัดฉากนี้ บัวเลือดเขาน้ำแข็ง ชีวิตคนมากมายขนาดนี้ อุทยานเขาเฟิงหยุนที่ยิ่งใหญ่ ค่ายกลใหญ่ขนาดนี้ ทุกอย่างทั้งหมดนี้ ทำเพื่อล่อให้กู่ในตัวเฉินซ่ากำเริบงั้นหรอ? พิษกู่ ที่จริงนางไม่มีวิธีแก้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และตอนนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ได้เลย ตอนนี้ร่างกายของเขาคือกู่กับพิษร้ายคานอำนาจกันอยู่ ถึงจะบาลานซ์กันได้ แบบนี้ ทุกวันที่สิบห้าของทุกเดือนยังต้องอดทนกับพิษกำเริบหนึ่งครั้ง อยู่ไม่สู้ตาย ตอนนี้ถ้ากู่ตัวนั้นโดนล่อออกมาดื้อๆ สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือตาย

แต่ ถ้าขอเพียงให้เขาตาย ต้องลงทุนลงแรงจัดฉากใหญ่อลังการขนาดนี้เลย? จำเป็นด้วยหรอ? นอกจากว่าพิษกู่ในตัวเขาจะมีความลับอีกอย่าง ที่จริงอีกฝ่ายไม่อยากให้เขาตาย แต่มีเป้าหมายอย่างอื่น

ที่นางคิดได้ เฉินซ่าก็คิดได้เหมือนกัน

เขาจับจ้องลวดลายค่ายกลขนาดใหญ่บนผิวน้ำ สีหน้าทะมึนราวน้ำลึก

ตอนนี้เอง เรือใหญ่ที่พึ่งพุ่งออกไป บรรดาผู้คนที่เริ่มชินกับความดำมืดในหน้าผาน้ำล้วนหลับตาลงพร้อมกันเพราะแสงสว่างเจิดจ้าที่มาโดยไม่ทันรู้ตัว ข่งซิวที่นั่งกดแข็งตนเองในห้องโดยสารพลันลุกพรวดขึ้นมา เพราะสองขายังไม่ทันฟื้นฟูดี เขาเลยเกือบสะดุดล้ม โชคดีที่เยว่คว้าเขาไว้ได้ทัน

"สรรพสิ่งฝันยิ้ม เป็นสรรพสิ่งฝันยิ้ม! พวกโหลชีอยู่ในอันตราย!"

"เจ้าว่าอะไรนะ?" ท่านจินสีหน้าเปลี่ยนทันที "สรรพสิ่งฝันยิ้ม?"

"ใช่ ไม่ผิดแน่ ไม่ใช่พื้นดินสะเทือน ไม่ใช่! นี่เป็นพลานุภาพที่ค่ายกลสรรพสิ่งฝันยิ้มนำพามาให้! ค่ายสรรพสิ่งฝันยิ้มเริ่มทำงาน ทุกสิ่งมีชีวิตจะพากันหนี ดังนั้นจึงทำให้พื้นดินสะเทือน! อุทยานเขาเฟิงหยุนต้องฝังกระดูกไว้มากมายแน่ วิญญาณเหล่านั้น วิญญาณมีมากเกินไป ทำให้พื้นดินสะเทือนอย่างเห็นได้ชัดเยี่ยงนี้!" สีหน้าของข่งซิวบิดเบี้ยวด้วยความตกใจ

"เป็นไปได้อย่างไรกัน เหตุใดจึงมีคนวางสรรพสิ่งฝันยิ้มได้?" ท่านจินเองก็ไม่อยากเชื่อ

"สรรพสิ่งฝันยิ้มเป็นค่ายกลพิฆาตที่น่ากลัวมากรึ?" เยว่ฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่เขารู้ว่า มันต้องเป็นอันตรายที่ผิดปกติแน่ เลยร้อนใจขึ้นมาเหมือนกัน

"ค่ายกลพิฆาต ไม่ ไม่ มันไม่ถือว่าเป็นค่ายกลพิฆาต" สายตาข่งซิวพลันมีความเจ็บปวดพาดผ่าน และไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เขาหันกลับไปมองทางออกที่อยู่ไกลออกไป แต่ยังสามารถเห็นหินก้อนใหญ่ร่วงหล่นลงมาเป็นระยะนั่น ทางออกโดนหินก้อนใหญ่ปิดไว้หมดแล้ว หากเรือใหญ่จะย้อนกลับไปก็ไม่สามารถเข้าไปได้แล้ว

เยว่หมุนตัวคิดจะพุ่งออกไป กลับโดนดึงแขนเอาไว้ ท่านจินมองเขา "เจ้าจะทำอะไร?"

"นายท่านกับโหลชียังอยู่ข้างใน ข้าจะกลับไปช่วยพวกเขา" เขาผิดแล้ว เขาผิด เขาไม่ควรตามเรือออกมาเลย

ท่านจินส่ายหัวแผ่วเบา "สายเกินไปแล้ว"

"หมายความว่าอย่างไร?" องครักษ์เยว่กัดฟันกรอด อะไรเรียกว่าสายเกินไปแล้ว? อย่าบอกเขานะว่า ฝีมือร้ายกาจอย่างนายท่านกับโหลชีจะไม่สามารถทนได้กับเวลาแค่นี้!

"สรรพสิ่งฝันยิ้มเริ่มทำงาน ใครก็เข้าไปไม่ได้ และใคร...ก็ออกมาไม่ได้" ท่านจินบอก

"ไม่ ไม่ใช่ใครก็ออกมาไม่ได้" ข่งซิวพูดเสียงขรึม "ถ้าสามารถต้านทานสรรพสิ่งฝันยิ้มไหว คนที่ออกมาก็คือ โครงกระดูกทิพย์ที่แข็งแกร่งที่สุด"

"โครงกระดูกทิพย์?" เยว่สติแตกแล้ว เขาจะบ้าแล้ว นี่มันอะไรกันอีก?!

ท่านจินตกใจ หันไปสบตากับข่งซิว ต่างเห็นแววสิ้นหวังในดวงตาอีกฝ่าย

พวกเขาไม่คุ้นเคยกับเฉินซ่า ไม่เลย แต่พวกเขาอยากช่วยโหลชี สำหรับข่งซิวแล้ว โหลชีเป็นลูกสาวบุญธรรมของเพื่อนร่วมสาบาน เป็นผู้มีพระคุณของเขาด้วย และสำหรับท่านจินแล้ว โหลชีเป็นยัยหนูที่เขาถูกชะตา รู้สึกว่าน่าสนใจ เขาชอบนาง ชอบมาก

แต่ ช่วยไม่ได้ ไร้หนทางช่วย

พวกเขาต่างเข้าใจดี ไม่มีหนทางเลย ค่ายกลสรรพสิ่งฝันยิ้มนี้ ต่อให้พวกเขาร่วมแรงร่วมใจกันก็ต้านทานไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ขาข่งซิวยังไม่หายดี

"ข้าไม่สนว่าสรรพสิ่งฝันยิ้มอะไร โครงกระดูกทิพย์อะไร ข้าต้องกลับไปช่วยพวกเขา" เยว่กัดฟัน สะบัดหวังหนีการเกาะกุมของท่านจิน แต่ถึงวรยุทธ์เขาจะแกร่งมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านจินแล้วยังด้อยอยู่มาก นิ้วทั้งห้าจับไว้มั่น เยว่ขยับไม่ได้เลยสักนิด

"นังหนูชีให้พวกเราออกมากันหมด แสดงว่านางก็รู้ว่าพวกเราต่างไม่มีหนทางใดๆกับค่ายกลนั้น" เขาหลับตาลงแผ่วเบา เดิมถ้าโหลชีรั้งพวกเขาไว้โดยไม่พูดอะไร อย่างน้อยมีคนมากมายขนาดนี้จำต้องร่วมมือกันต้านทานค่ายกลสรรพสิ่งฝันยิ้มนั่น แต่นางไม่ทำ นางต้องรู้จักค่ายกลสรรพสิ่งฝันยิ้มแน่ รู้ว่าพวกเขาอยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้

"งั้นข้าจำต้องทนดูพวกเขา..." เยว่ดวงตาแดงเรื่อ ไม่ ไม่ได้ จะเป็นอย่างนี้ไม่ได้

"ตอนนี้เหลือแค่หนทางเดียว" ข่งซิวบ่นพึมพำ "หวังว่าพวกเขาจะต้านทานไหว แล้วออกมาให้หมด ต่อให้กลายเป็นโครงกระดูกทิพย์ ข้าก็จะพยายามช่วยพวกเขาสุดชีวิต"

"อะไรคือโครงกระดูกทิพย์กันแน่?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ