ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 149

ท่านจินพยักหน้าและพูดว่า "ไม่ผิด เป็นนาง แต่ศิษย์หลานตอนนี้เจ้าไม่สามารถเห็นอกเห็นใจนางได้ และปัจจุบันนางไม่ใช่คนที่น่าสังเวชที่ดึงดูดความสงสารต่อใต้หล้าอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้นางคือฮูหยินไป่ฮัวที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นชื่อเสียงทางที่ไม่ดี"

ที่แท้เมื่อฮูหยินไป่ฮัวชีวิตในวัยเยาว์ช่างน่าสังเวชมาก ท่านแม่ของนางเดิมเป็นนางร้องเพลงในแหล่งบันเทิงคนหนึ่ง เพราะเกิดมางดงามหาที่เปรียบไม่ได้ มีอยู่ครั้งหนึ่งนางไปร้องเพลงที่จวนท่านอ๋องต่างแซ่ จากนั้นได้เข้าตาท่านอ๋อง บังคับให้นางอยู่ และกลายเป็นนางบำเรอของเขา เนื่องจากความงามและความอ่อนโยนของนาง จึงทำให้ท่านอ๋องถึงได้ทั้งรักและหวงแหนนางมากตั้งแต่แรก ก่อนที่ฮูหยินไป่ฮัวจะกำเนิดออกมาในช่วงไม่กี่ปีก่อนนางมีชีวิตที่ดี แม้ว่าในจวนอ๋องจะมีชายาไปจนถึงนางบำเรอคนอื่นๆ ต่างเป็นเพราะอิจฉาแม่ของนางและทำให้พวกนางแม่ลูกมีปัญหาอยู่ทุกหนทุกแห่ง พวกนางก็ยังอดทนเอาไว้

จุดเปลี่ยนของชีวิตฮูหยินไป่ฮัวเกิดขึ้นเมื่อนางอายุได้สิบเอ็ดขวบ เพราะไปออกว่าราชการสองปีของท่านอ๋องต่างแซ่ได้กลับมาจวนแล้ว และในงานเลี้ยงคืนนั้น เขาทรงเห็นบุตรสาวที่ดูเหมือนเพิ่งจะเติบโตภายในสองปี ทำให้ตื่นตะลึงไปถึงเทพสวรรค์จริงๆ

เนื่องจากฮูหยินไป่ฮัวสวยกว่าแม่ของนางเสียอีก นางมีพ่อที่มีฐานะสูงส่ง มีแม่ที่มีฐานะต่ำต้อย มีรักที่ทะนุถนอม ทั้งยังมีความยากลำบาก ซึ่งทำให้บนตัวนางมีลักษณะอารมณ์ที่ขัดแย้งกันออกไป ประกอบกับความงาม มีหญิงสาวเช่นนี้หนึ่งคน นึกไม่ถึงว่าทำให้พ่อของนางเป็นบ้าไปแล้ว

หลังจากที่แม่ของนางรู้ก็ได้กระอักเป็นเลือดออกมาเป็นเลือด แต่ท่านอ๋องข่มขู่นาง หากไม่ช่วยเขาทำเรื่องนี้สำเร็จ จะโยนนางเข้าไปในค่ายทหาร ในค่ายทหารจะรับนายทหารเกือบร้อยนายทุกวัน และไม่ถึงสองเดือนก็จะโดนทรมานจนตายทั้งเป็น ท้ายที่สุดแม่ของนางก็ยอมรับปากท่านอ๋อง เมื่อในคืนนั้น นางได้ป้อนยาโป๊ให้นางหนึ่งถ้วยด้วยตัวเอง แล้วนำนางไปส่งที่เตียงของบิดาผู้ให้กำเนิด

ฮูหยินไป่ฮัวเดิมทีไม่มีหนทางที่จะรับความจริงที่เป็นเช่นนี้ได้ นางถึงได้เกลียดชังพ่อกับแม่ หลังจากที่ได้ซ้อนความอดทนไว้แล้ว จึงได้ฆ่าพวกเขาด้วยเนื้อมือตัวเอง เมื่อเริ่มแรกฮูหยินไป่ฮัวไม่อยากมีชีวิตรอดแบบซังกะตาย เพียงแค่คิดไม่ถึงว่า เมื่อช่วงที่นางถูกควบคุมตัว ผู้คุมขังก็ยากที่จะต้านทานความงดงามของนางได้ แล้วคนพวกนั้นทำให้นางได้แปดเปื้อนอีกครั้ง

ผลสุดท้าย นิสัยของฮูหยินไป่ฮัวได้เปลี่ยนไปมาก ได้ใช้ความงามของใบหน้าดึงดูดเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบคดีในขณะนั้น ได้ตัดสินให้นางพ้นผิด แล้วปล่อยตัวออกมา และแน่นอนว่า ความจริงแล้วพระราชวงศ์ตงชิงเองก็ไม่พอใจกับท่านอ๋องต่างแซ่ตั้งนานแล้ว แต่กลับคิดหาวิธีดีๆ ที่จะกำจัดเขาออกไป และการกระทำของฮูหยินไป่ฮัวเป็นการช่วยเหลือราชวงศ์อย่างมาก และนางเป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่งเท่านั้น จึงได้ปล่อยนางไปทั้งยังบอกว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อราชวงศ์เป็นอย่างยิ่ง

ฮูหยินไป่ฮัวก็ถูกปล่อยตัวออกมาแบบนี้ และด้วยเหตุนี้ได้เข้าร่วมสำนักปี้เซียน แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปี ก็ได้ยินว่าเพราะได้ฝึกวิทยายุทธ์ที่ชั่วร้ายจึงได้ถูกสำนักปี้เซียนขับไล่ออกจากสำนัก

ได้ผ่านเรื่องราวเหล่านี้ ลักษณะนิสัยฮูหยินไป่ฮัวได้เปลี่ยนไปมาก กลับยิ่งเพิ่มความงดงาม นางแต่งงานแล้วสามครั้ง ทุกครั้งล้วนแต่กับครอบครัวที่ร่ำรวย ไม่นานสามีก็เสียชีวิตกะทันหัน สุดท้ายทรัพย์สมบัติในเรือนได้ตกมาอยู่ในมือนาง หลายปีมานี้ ฮูหยินไป่ฮัวสะสมเงินทองกองดั่งภูเขา แต่นางไม่แต่งงานกับใครอีกแล้ว และได้เริ่มค้นหาชายรูปงามที่อยู่ใต้หล้า พอเริ่มต้นก็มีชายรูปงามเหล่านั้นที่ชอบในความงามและสมบัติของนาง จากนั้นก็ได้ต่อแถวกันมาเรื่อยๆ ไม่นาน แต่ละร่างต่างได้ถูกหามไปฝังทีละคนทีละคน

จนมีคนเริ่มเล่าขานกันว่า ฮูหยินไป่ฮัวใช้พลังหยางเข้าเสริม ชายเหล่านี้ล้วนถูกนางใช้เพื่อเติมเต็มพลังหยางถึงได้เสียชีวิต

ชายเหล่านั้นถึงไม่กล้าไปที่จวนไป่ฮัวอีกต่อไป

แต่ความอยากอาหารของฮูหยินไป่ฮัวเพิ่มมากขึ้น และรู้สึกว่าตอนนี้ผู้ชายทุกคนยังไม่ดูดีพอ จึงส่งสาวใช้ที่มีวรยุทธ์สูงหลายคนออกไปตามหาชายรูปงามให้นาง

หลังจากข่งซิวได้ฟังท่านจินพูดแล้วก็ได้เพียงแค่ถอนหายใจ แล้วเดินจากไป โดยไม่ได้สนใจสถานการณ์ด้านล่างอีกต่อไป

สุดท้ายทั้งอาจารย์อาศิษย์หลานสองคนต่างก็ได้เฉยเมย ข่งซิวเป็นเพราะโหลชีเป็นลูกสาวบุญธรรมของเพื่อนสนิท และเป็นทั้งผู้มีพระคุณของเขา ท่านจินเป็นเพราะถูกใจโหลชีที่มีลักษณะนิสัยที่เข้ากับเขาได้ ดังนั้นพวกเขาสนใจแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับโหลชี สำหรับเรื่องราวของเฉินซ่า องครักษ์ของเฉินซ่าพวกเขาได้ขี้เกียจจะสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นหญิงประเภทฮูหยินไป่ฮัวนี้ พวกเขาต้องการหลีกเลี่ยงแทบจะไม่ทัน

"ไสหัวไป"

เยว่หมดความอดทนอย่างมาก หากไม่ใช่เพราะโหลชีกำลังพักรักษาตัวอยู่ข้างบน กลัวว่าจะรบกวนถึงนาง เขาคงลงมือไปนานแล้ว แต่วิชาตัวเบาของฮูหยินไป่ฮัวทำให้เขาตกใจมาก นอกจากนี้ทักษะเท้าของฮูหยินไป่ฮัวนั้นก็น่าอัศจรรย์มาก ไม่ว่าเขาจะหลบอย่างไร นางก็สามารถเคลื่อนไหวตามเป็นเงา

"ท่านสามีไม่อ่อนโยนเลยสักนิด แต่ข้าก็ชอบ ท่าทางที่ท่านสามีโกรธนั้นช่างสง่ามากจริง"

เสี่ยวเหลียนและสาวใช้คนอื่นๆ ได้ขวางกั้นที่ปากประตูไว้นานแล้ว ยังมีคนมารุมล้อมอยู่ด้วย คนที่ทานอาหารในห้องโถงใหญ่จะออกไปไม่ได้ก็ออกไปไม่ได้ จึงได้เพียงแค่อยู่ที่นี่มองดูฮูหยินไป่ฮัวล่าบุรุษผู้งดงามเท่านั้น

ตอนนี้คนเหล่านี้มีทั้งความเห็นอกเห็นใจและอิจฉาเยว่

แต่เยว่กลับโกรธมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเล็บสีแดงสดของฮูหยินไป่ฮัวต้องการลูบหน้าอกของเขาเบาๆ สายตาเขาเย็นชา มือกลายเป็นมีด และสักพักก็ฟาดไปที่ข้อมือของนางทันที

"อุ๊ยท่านสามีเบาๆ หน่อย......" ฮูหยินไป่ฮัวดึงมือเก็บมือกลับ แต่กลับดันหน้าอกของตัวเองขึ้นซึ่งส่วนใหญ่จะเผยให้เห็น หากมีดสั้นของเยว่ต้องการฟันลงไปจริงๆ นั้นทำได้แค่ฟันไปที่หน้าอกขาวนุ่มๆ ของนางเท่านั้น

เยว่รีบดึงมือกลับ แต่ฮูหยินไป่ฮัวกลับได้แนบริมฝีปากสีแดงเข้ามาใกล้แล้ว เพื่อต้องการที่จะจูบปากเขา

"ไร้ยางอาย!"

เยว่ตะโกนอย่างโกรธจัด ร่างกายแยกออกทันที ไม่เห็นฮูหยินไป่ฮัวเคลื่อนไหวแต่อย่างไร ยังคงติดอยู่หน้าอกของเขาและตามเขามา

ชั่วขณะหนึ่ง ความโกรธของเยว่ประดังเข้ารุมเร้าหัวใจ แต่เมื่อเขาลงมือ ฮูหยินไป่ฮัวก็นำหน้าอกอันเอิบอิ่มขึ้นมา เพื่อบังคับให้เขาหลีกเลี่ยง พอหลีกเลี่ยง ท่าร่างที่แปลกประหลาดของนางก็ตามมาอย่างใกล้ชิด ดูเหมือนว่าเยว่จะถูกนางแกล้งเข้าแล้ว

"ใต้เท้าองครักษ์เยว่!" เฉินสิบทุ่มไปให้อาหารเฟยเหินและม้าตัวอื่นๆ เขาเดินเข้าประตูหลังมาและเห็นฉากตรงหน้า จึงได้รีบชักกระบี่ขึ้นทันที"

"ฮูหยินกำลังเล่นอยู่กับท่านสามี พี่ใหญ่ท่านขึ้นไปทำอะไร?" เสี่ยวเหลียนยิ้มอย่างอ่อนโยน พร้อมนำสาวใช้สองคนมาล้อมเฉินสิบไว้ พวกนางถูกสอนมาโดยฮูหยินไป่ฮัว ปกติแล้วก็มักจะเพิ่มความสนุกต่อที่ข้างตั่งนอน เล่นกันไปก็เหมือนกับฮูหยินไป่ฮัวอย่างไรอย่างนั้น ผ่านไปครู่หนึ่งได้ทำให้เฉินสิบหน้าแดงเต็มไปหมด แต่กลับไม่สามารถทำอะไรกับพวกนางได้

องครักษ์พั่วอวี้ไม่กลัวเหงื่อไหลเลือดไหล เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับมารร้ายต่างไม่ถอยกลับ แต่เมื่อฝ่ามือตบออกไปอีกฝ่ายก็ยืดอกขึ้นมาป้องกัน และฝ่ามือนั้นไหนเลยจะกล้าซัดลงไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ