ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 15

พวกเขาพึ่งเดินเข้ามาได้หลายเมตร ด้านหลังพลันบังเกิดเสียงขึ้น ทุกคนใจกระตุกวูบ ประตูหินนั้นปิดเข้ามาเอง

ครานี้ดีล่ะ ได้แต่ไปต่อ มิสามารถถอยหลังได้ แต่ว่าถอยหลังก็ไร้ทาง เพราะมิสามารถนั่งรอความตายโดยมิกินมิดื่มบนผาหินแขวนนั้นได้

เฉินซ่ามิได้หยุดชะงัก พวกเขาจึงเดินไปด้านหน้าต่อ

เพดานถ้ำสูงราวสองเมตร กว้างพอเพียงให้คนสองคนเดินเคียงกันไป แสงสว่างน้อยนัก แทบจะเห็นนิ้วมือไม่ถึงห้านิ้ว หากยังรับรู้ความรู้สึกใต้ฝ่าเท้าได้ พื้นเป็นพื้นหิน เดินด้านบนนี้เสียงฝีเท้าดังชัดเจนนัก ในอากาศมีกลิ่นอับชื้นของน้ำ มีลมพัดออกมาจากส่วนลึกในถ้ำตลอด เย็นๆ ชื้นๆ ทำคนรู้สึกไม่ดีเท่าไรนัก

"ด้านหน้าต้องมีน้ำแน่" อิงพูด

แต่ทันทีที่เขาพูดจบ หูของพวกเขาพลันได้ยินเสียงสะท้อนหนักแน่นกลับมา

"ต้องมีน้ำแน่...มีน้ำแน่...น้ำแน่...แน่"

ภาพเบื้องหน้าพลันเปิดกว้างขึ้น พวกเขาเดินออกจากทางเดินแล้ว แต่ยังมิเห็นแสงสว่าง ทำได้แต่อาศัยความรู้สึกเลยรู้ว่าสถานที่ที่อยู่ตอนนี้กว้างขวางมาก

"เหตุใดจึงมีเสียงสะท้อนแปลกประหลาดเยี่ยงนี้?" อิงขมวดคิ้วอีก เสียงสะท้อนเมื่อครู่เหมือนเปลี่ยนเสียงด้วยเครื่องเปลี่ยนเสียง แหลมขึ้นมาก ได้ยินแล้วทำเอาหูพวกเขาไม่ค่อยสบายนัก แต่คำพูดนี้ไม่มีเสียงอะไรออกมาอีก

พวกเขาระแวงขึ้นมาทันใด สถานที่นี้ต้องมีอะไรมิชอบมาพากล

มีเสียงดังขึ้น ความมืดดำด้านหน้าทันใดมีตะเกียงเล็กสองดวงสว่างขึ้น แสงไฟสีแดงดูสว่างชัดในความมืด แต่สิ่งที่แปลกคือไม่ได้สว่างไปทุกที รอบด้านของแสงตะเกียงสองดวงยังคงมืดอยู่

"วางเรื่องเสียงสะท้อนก่อนเถิด ตะเกียงดวงนั้นห่างไปไกลมากหรือไม่ พวกเราไปเอามันมา" โหลชีไม่ชอบเดินในความมืด

นางพึ่งจะก้าวเดินหนึ่งก้าว ข้อมือพลันโดนเฉินซ่าคว้าจับไว้ เขาลงแรงเพียงนิด นางพลันถลาเข้าอ้อมกอดเขา "ลางที นั่นมิใช่ตะเกียง" เสียงเฉินซ่าพูดด้วยเสียงราบเรียบ

"ไม่ใช่ตะเกียง?" ไม่ใช่ตะเกียงแล้วเป็นอะไร? โหลชีกำลังเซ็ง ตะเกียงสองดวงนั้นพลันขยับ จากนั้นมีลมพัดมาจากทิศนั้น เหมือนตัวอะไรเรอขึ้นมา แต่กลับเหม็นจนแทบทำคนอาเจียน!

"อสูรกาย!" โหลชีท้องไส้ปั่นป่วน รีบจับฝ่ามือเฉินซ่ามาปิดปากปิดจมูกนางไว้ ก่อนนี้ฝ่ามือเขาฟันต้นไม้ทำเป็นท่อนบันได โหลชีจำได้ว่ามันเป็นต้นไม้ที่สามารถผลิตผลเครื่องเทศได้ ดังนั้นมือเขาตอนนี้ยังหลงเหลือกลิ่นไม้หอมชนิดนั้นไว้

เฉินซ่ามิคิดเลยว่านางจะทำเยี่ยงนี้ ยามฝ่ามือเขาปิดปากปิดจมูกนาง ใจกลางฝ่ามือสัมผัสเข้ากับริมฝีปากนาง เขาเพียงรู้สึกถึงความอบอุ่นและอ่อนนุ่ม แผ่วเบาแตะเข้ากลางฝ่ามือ เขาขมวดคิ้วมุ่น หากมิได้ดึงมือออก อีกมือหนึ่งโอบเอวนางไว้ พลันขยับร่างไป

อิงกับองครักษ์ตามไปทันที

จุดที่มีตะเกียง เคลื่อนตัวไปยังแสงสว่างนั้น ถึงจะมิมาก แต่ก็เพียงพอให้พวกเขาเห็นภาพเบื้องหน้าชัดเจน

พอมองเห็น ทุกคนพร้อมใจกันสูดลมหายใจหนึ่งเฮือก

งูใหญ่สีแดงตัวอวบอ้วนเทียบเท่าเอวคนปกติหนึ่งตัวนอนขดอยู่หน้าภูเขาหินใหญ่ลูกหนึ่ง หัวมันชูคอสูง ดวงตาสีแดงใหญ่กลมสองดวง นี่คือตะเกียงสองดวงที่มองเห็นในความมืดเมื่อครู่! บนหัวมันมีรอยแยกอยู่ แสงอาทิตย์สาดแสงเข้ามาจากทางแยกนั้น เมื่อครู่คงเป็นเพราะหัวมันปิดรอยแยกนี้ไว้พอดิบพอดี ที่นี่จึงได้มืดเยี่ยงนั้น!

ด้านหลังงูใหญ่ที่นอนขดราวกับเป็นภูเขาเล็กนั้น บ่อน้ำมืดสายหนึ่งไหลเวียนอย่างเงียบๆ กลางภูเขา

"เฉินซ่า ดูนั่น!" โหลชีพลันชี้ไปที่ริมบ่อน้ำมืดนั้น เสียงต่ำนั้นบ่งบอกความตื่นเต้นอันยากจะควบคุมได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ