ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 160

"ส่งคนออกไป ค้นหา อย่าให้เหอชิ่งอ๋องหาเจอก่อน"

"ขอรับ"

"รอเดี๋ยว หลังจากที่หาเจอแล้ว นำคนที่ชื่อโหลชีมาให้ข้า" พระชายารองซ่งนึกถึงคำพูดที่ยายรับใช้บอกกับนางก่อนหน้านี้ คำพูดที่ผูยู่เหอพูดออกมา หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ขึ้นมา

ผู้หญิงที่สวยกว่าผูยู่เหองั้นหรือ? วันนี้ถือว่านางมองพลาดไป ไม่ได้สังเกตคนพวกนั้น มิเช่นนั้นไหนเลยที่จะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้

"ขอรับ!"

เงาร่างนั้นแวบขึ้นมาอีกครั้ง ก็หายไปราวกับสลายหายไปในอากาศ

ถึงเวลาห้ามออกนอกเคหสถานของเมืองจินโจวแล้ว ถนนหนทางด้านนอกว่างเปล่า มีเพียงโคมไฟที่ห้อยอยู่ด้านนอกประตูของตระกูลใหญ่ร่ำรวยที่ยังสว่างอยู่ ส่องสว่างจนถนนที่มืดสลัวและเปล่าเปลี่ยวดูน่าขนลุกเล็กน้อย

เกือกม้าที่ห่อผ้าฝ้ายของยอดม้าอาชาหลายตัววิ่งนำลมกลางคืนมา เลี้ยวมาจากถนนที่อยู่ด้านหน้า

ในตอนที่เห็นตระกูลใหญ่ร่ำรวยที่อยู่ด้านหน้า ผู้ชายที่นำอยู่ด้านหน้ายกมือขึ้นข้างหนึ่งส่งสัญญาณให้หยุดลงมา คนที่ขี่ม้าอยู่ด้านหลังก็หยุดลงมา

"นายท่าน" โหลชีมองไปทางตระกูลนั้นครู่หนึ่ง จู่ๆก็หัวเราะออกมา: "ไปขออาศัยอยู่ที่นี่อาจจะถูกหาเจอในไม่ช้า ข้ามีที่ดีๆอีกที่หนึ่ง เราไปที่นั่นกันเถิด"

เยว่พยักหน้า ขออาศัยอยู่ในตระกูลใหญ่ร่ำรวยเช่นนี้ คนเยอะปากแยะความลับรั่วไหลได้ง่าย อีกอย่างเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นบริเวณสำคัญที่เหอชิ่งอ๋องส่งกำลังคนมาค้นหาก็เป็นได้ เขาก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่

"ชีเอ๋อร์นำทาง" เฉินซ่าก็ไม่ลังเล

ในดวงตาของโหลชีมีแสงของการกลั่นแกล้งเล็กน้อยประกายผ่านไป

ตอนที่นางพาคนไปถึงสถานที่นั้น เห็นตัวอักษรที่เขียนอยู่บนหอนางโลมพวกนั้น ใบหน้าของเฉินซ่าดำมืดลงมา และเยว่กับคนอื่นๆเพียงแต่กระตุกมุมปากขึ้นมา

"ที่เจ้าพูดถึงคือสถานที่แบบนี้?" น้ำเสียงของเฉินซ่าสงบราบเรียบ แต่ว่าเยว่และคนอื่นๆก็ยังสั่นเทาไปทั้งตัว พากันขี่ม้าถอยหลังออกไป

หอนางโลมก็ช่างมันเถิด แต่นี่เป็นหอนายโลม

นางพาพวกเขามาหอนายโลม ความใจกล้าของโหลชียิ่งอยู่ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจริงๆ

"ใช่แล้ว ที่นี่น่าจะไม่เลว" โหลชีทำท่าทางไม่สังเกตเห็นอะไรทั้งนั้น

พวกเขาต่างก็มีกำลังภายในล้ำลึกกันทั้งนั้น ยืนอยู่ด้านนอกเช่นนี้ยังได้ยินเสียงลามกอนาจารข้างในที่ดังออกมารางๆ นางกลับบอกว่าน่าจะไม่เลว

ความจริงทิศทางความคิดพิจารณาของโหลชีนั้นถูกต้องแล้ว คืนนี้ได้ยินคำพูดของเหอชิ่งอ๋องนั้น พรุ่งนี้ทั่วทั้งเมืองจะต้องมีมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มงวด ออกค้นหาที่อยู่ของพวกเขาไปทั่วอย่างแน่นอน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น และเหอชิ่งอ๋องจะต้องคิดไม่ถึงอย่างแน่นอนว่าเฉินซ่าจ้าวครองพั่วอวี้ผู้เย่อหยิ่งทะนงตนขนาดนั้นจะแอบซ่อนตัวอยู่ในหอนายโลม

แต่สำหรับเฉินซ่าและคนอื่นๆแล้ว ผู้ชายควรยืนตระหง่านเย้ยฟ้าท้าดิน หลั่งเลือดไม่หลั่งน้ำตา สามารถยืนได้จะไม่คลานเด็ดขาด สำหรับสถานที่ขายเนื้อหนังเช่นนี้ ชายคณิกาที่เหมือนกับโสเภณีขายร่างกายของตนเพื่อเอาใจผู้อุปถัมภ์ค้ำชู พวกเขาล้วนแต่ดูถูกเหยียดหยามกันอย่างมาก

รู้สึกแม้กระทั่งว่าคนเหล่านี้ยังไม่สู้ขันทีที่อยู่ในวังเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้จะให้พวกเขาเบียดเสียดกับคนเหล่านี้ พวกเขาย่อมต้องรู้สึกว่ามันไร้สาระมากอยู่แล้ว

โหลชีมาจากยุคปัจจุบัน ถึงแม้นางเองก็ดูหมิ่นคนพวกนี้อยู่ แต่เรื่องเร่งด่วนก็ต้องพลิกแพลงไปตามสถานการณ์ เลยไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรทำไม่ได้

"อ๊า!"

นางอุทานขึ้นมา คนทั้งคนถูกเฉินซ่าคว้าเอาไปด้วยมือเดียว วางเอาไว้ตรงหน้าเขา เขากอดนางเอาไว้แน่น ขี่ม้าออกไปจากที่นี่ เยว่และคนอื่นๆย่อมต้องตามมาติดๆอยู่แล้ว

โหลชีถูกกดเอาไว้บนหลังม้าตรงหน้าเขา ตอนแรกยังไม่รู้ว่าเขาหมายความว่าอย่างไรกันแน่ แต่เมื่อฝ่ามือของเขาตบไปที่ก้นของนาง แถมยังตีต่อเนื่องไปหลายครั้ง นางถึงเพิ่งรู้ตัวทีหลังว่าตนเองถูกตบก้นแล้ว!

"ท่าน ท่านตีข้า......"

ตอนแรกโหลชีตกตะลึงไปก่อน จากนั้นแก้มก็ร้อนขึ้นมากะทันหัน อ้าปากแล้วก็กัดลงไปตรงแขนของเขา

"เจ้าเกิดปีหมาหรือ!"

เฉินซ่าบีบแก้มของนางเอาไว้ทำให้นางจำต้องปล่อยปากออก ยกนางขึ้นมาเล็กน้อย อดไม่ได้ก็ยื่นมือไปตบเบาๆตรงหน้าผากของนางอีกครั้ง "ช่างบังอาจนักกล้ามากัดข้า!"

"ใครใช้ให้ท่านมาตีก้นข้าล่ะ?" นางกลอกตามองบน

"เจ้ากล้าให้ข้าไปอยู่ในสถานที่สกปรกเช่นนั้น ทำไมข้าจะลงโทษเจ้าไม่ได้?"

"สถานที่สกปรก?" ทีนี้โหลชีถึงได้ตะลึงงันไป จากนั้นก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ ไม่ดิ้นรนอีกต่อไป นางคิดไม่ถึงว่าเฉินซ่ายังมีความรักสะอาดเช่นนี้อยู่ แต่ นางก็รู้สึกว่านี่ทำให้นางชอบมาก ผู้ชายควรรักษาความบริสุทธิ์ไม่ทำสิ่งเลวร้าย เขาไม่ชอบสถานที่แบบนั้น นี่ถือเป็นเรื่องที่ดี

"ต่อไปห้ามไม่ให้เจ้าไปด้วย" เขากล่าวอย่างเย็นชา

โหลชีหัวเราะคิกคัก: "ได้"

สุดท้ายพวกเขาเข้าไปในตระกูลหนึ่ง ไม่ใช่ตระกูลใหญ่ร่ำรวย แต่ก็เทียบชั้นสูงไม่เท่าเทียบชั้นต่ำมีเหลือ ที่เลือกตระกูลนี้ ก็เพราะว่าตระกูลนี้ทำผักดองกับหมักสุรา ทันทีที่ได้กลิ่นที่โชยออกมาจากบ้านหลังนี้ โหลชีก็ให้คนหยุดลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้นางไม่ได้กลั่นแกล้งแล้ว อาศัยอยู่ในบ้านคนแบบนี้ มีกลิ่นอะไรก็ถูกกลบออกไปอย่างง่ายดาย อีกอย่าง คนที่ทำของประเภทนี้โดยทั่วไปมักจะมีห้องใต้ดินในบ้าน หากพวกเขาจะซ่อนตัวก็ง่ายขึ้นมาเล็กน้อย

เดิมทีหากพวกเขาจะบุกไปที่ประตูเมืองก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่ว่ามุกน้ำตาตงไห่ยังไม่ได้มาอยู่ในมือ ไหนเลยที่พวกเขาจะยินดีกลับออกไปมือเปล่า? เหอชิ่งอ๋องก็ต้องการจะจับพวกเขาพอดี ขโมยของของเขาไปพวกเขาก็ไม่รู้สึกติดค้างอะไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ