ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 185

ปลายธนูของเขาเบนเป้าหมายไปที่โหลชี โหลชีร้องเสียงหลง "ผู้อาวุโสฟ่าน ช่วยข้าด้วย" และผลันร่างไปหลบหลังเขาอย่างรวดเร็ว

ธนูดอกนั้นของไอ้ตาเดียวยิงออกมาแล้ว ในจังหวะสุดท้ายกำลังติดตามร่างนาง ยังสามารถเบนเป้า เสียงฟิ้วดังขึ้นแทรกอากาศ ธนูสีดำพุ่งด้วยแรงที่เหนือกว่าค้อนหลิวซิงที่เขาใช้ก่อนหน้านี้ไปยังเบื้องหน้าฟ่านฉางจื่อ

ฟ่านฉางจื่อโกรธจนจมูกเบี้ยว อย่างแรกคือโกรธโหลชี เดิมอยากให้นางตาย นี่กลับต้องมาปกป้องนางอีก! สองคือโกรธไอ้ตาเดียว พุ่งใส่หน้าเขาหลายครั้งแบบนี้คิดว่าเขาเป็นคนธรรมดางั้นรึ?

พอมาคิดถึงคำพูดที่โหลชีพูดเมื่อกี้ ความคิดอำมหิตผุดขึ้น กำลังภายในพลุ่งพล่านเต็มร่าง ตะคอกเสียงดัง แต่แรงของธนูดอกนั้นมีมากจริงๆ ขนาดฝ่ามือเขามีกำลังภายในหุ้มไว้ ยังโดนบาดหนังออกไปชั้นหนึ่ง เจ็บแสบร้อนยิ่งนัก ความเจ็บปวดชนิดนี้ไม่ใช่ว่าร่างกายจะรับไม่ได้ แต่มันเสียหน้า ขายหน้ามากจริงๆ! เขาในฐานะผู้อาวุโสเขาเวิ่นเทียนกลับมาโดนขุนโจรบีบคั้นถึงขั้นนี้! โหลชีพูดถูก ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เขาไม่เพียงจะทำเขาเวิ่นเทียนขายขี้หน้า ยังทำให้ตนเองต้องตกอยู่ในจุดที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีกด้วย!

แน่นอน ยังมีเพชรนิลจินดาโกดังนั้นอีก ให้เขาละทิ้งไปอย่างนี้เขาปวดใจจริงๆ!

"พวกแกบีบคั้นข้าเองนะ!"

ฟ่านฉางจื่อตะคอกเสียงเข้ม พลันดึงแส้สีดำออกจากเอว แส้เส้นนั้นแปลกประหลาดนัก สีดำคล้ายเหล็กแต่ไม่ใช่เหล็ก หนาเท่านิ้วมือชายหนุ่ม น่าหลานจื่อหลินกลับสีหน้าเปลี่ยนเมื่อเห็นแส้เส้นนั้น โหลชีเห็นอย่างนั้นรีบหนีไปอยู่ไกลๆ

เห็นข้อมือฟ่านฉางจื่อสะบัดออก แส้นั้นพลันกลายเป็นกระบองท่อนตรง เขาจบมันทั้งสองมือและหมุน บนกระบอกยิงหนามออกมานับไม่ถ้วน หนามพวกนั้นส่องประกายแสงสีน้ำเงินมืดๆ เห็นได้ชัดว่าเป็นพิษร้ายแรง ในตอนที่นางคิดว่าแบบนี้คงหมดแล้ว ข้อมือฟ่านฉางจื่อสะบัดอีกครั้ง ด้านบนกระบองนั่นพลันยิงหัวหอกท่อนหนึ่งออกมา ในขณะเดียวกันก็เคลือบพิษร้ายด้วย

หนามนับไม่ถ้วนบนหอกยาวนั่นทำเสื้อผ้าขาดไปสิบกว่าคน และบาดโดนผิวพวกเขา และถูกสะบัดออกอย่างรวดเร็ว หนามเอาเนื้อหนังพวกเขาไป ถึงจะไม่ได้บาดเจ็บสาหัส แต่ไม่นานพวกเขาก็พบว่าเริ่มชาแข็งจากบาดแผลขึ้นมา และลามไปทั่วตัวอย่างรวดเร็ว และก็ล้มลงทั้งหมดสิบกว่าคน!

พอเป็นแบบนี้ ผู้คนที่ไม่กลัวตายพวกนั้นเริ่มครั่นคร้ามขึ้นมา และถอยไปโดยไม่รู้ตัวหนึ่งก้าว

ธนูของไอ้ตาเดียวเพ่งเป้ามาที่เขาอีก แขนแข็งเกร็งขึ้นมา ครั้งนี้ยิงธนูสามดอกในคราเดียว!

ฟ่านฉางจื่อแค่นเสียงหยัน สะบัดข้อมืออีกครั้ง หอกยาวนั่นกลายร่างเป็นแส้ในพริบตา ตวัดรัดธนูสามดอกนั่น!

ด้านนั้นทั้งคู่สู้กันจะเป็นจะตาย ทางนี้โหลชีเริ่มร้องเสียงหลง "อ๊าอ๊าอ๊า คุณชายน่าหลาน ช่วยด้วย! ไอ้หยาเกือบไปแล้ว!"

"ผู้อาวุโสฟ่านรีบฆ่าพวกมันเลย! ถึงเวลานั้นไม่มีใครแพร่เรื่องนี้ออกไป เพชรนิลจินดาในโกดังนั่นก็เป็นของท่านแล้ว!"

ภายใต้การยุยงของนาง อย่าว่าแต่ฟ่านฉางจื่อเลย ขนาดน่าหลานจื่อหลินยังฆ่าฟันจนตาแดงก่ำ ส่วนนางก็แอบลงมือฆ่าไปคนสองคนระหว่างที่วิ่งพล่านไปทั่วทุกทิศ

กลิ่นเลือดคละคลุ้ง เสียงร้องโหยหวน แขนขาขาดปลิวว่อน

เขาพยัคฆ์ในคืนนี้ได้ต้อนรับอสูรร้าย!

ฟ่านฉางจื่อและน่าหลานจื่อหลินในคืนนี้ฆ่าฟันล้างบางตาแดงก่ำ ฆ่าคนในสวนดอกไม้จนหมด ไปฆ่ายามรักษาการณ์ข้างนอกต่อ หรือบางคนคิดจะลงจากเขา ก็โดนอาวุธที่เป็นทั้งแส้และหอกนั่นของฟ่านฉางจื่อไล่ตามไปฆ่าฟันให้ตายคาที่!

กลิ่นคาวเลือดฉุนปกคลุมทั่วเขาพยัคฆ์ ขนาดโหลชีทำใจไว้แล้ว แต่พอทุกอย่างสิ้นสุดแล้วได้มาเห็นฉากนี้เข้ายังอดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้ แต่แววตานางกลับเย็นเยียบ ไร้วี่แววสงสารเลยสักนิด

หอกยาวของฟ่านฉางจื่อถูกเลือดย้อมจนเป็นสีแดงหม่น เขาค่อยๆหันกลับมา ดวงตาแดงเรื่อเล็กน้อยจ้องเขม็งไปที่โหลชี รังสีอำมหิตพุ่งสูง

ฆ่าทิ้งทุกคนก็จะไม่มีใครพูดเรื่องนี้ออกไป แต่ที่นี่ยังมีอีกคน มีโหลชีอีกคน

โหลชีสีหน้าซีดเผือดบอก "ผู้อาวุโสฟ่าน ข้ายังต้องไปหาเถาทองม่วงน่ะ"

ฟ่านฉางจื่อได้สติกลับมา ใช่ นังหนูนี่ยังต้องเก็บไว้ให้ฮั่วซิน เขาฆ่านางไม่ได้

แต่จะช้าเร็วก็ต้องตาย ก่อนนางตายต้องคอยเก็บไว้ให้อยู่ในสายตาเขา ดูท่านางก็ไม่น่าจะมีลูกเล่นตุกติกอันใด!

"เจ้าทำตัวว่าง่ายไว้หน่อยจะดี"

เวลานี้เขาลืมไปแล้วว่า หลายวันนี้โหลชีไม่เคยว่าง่ายกับเขาเลย เอาแต่ยั่วโมโหจนเขาแทบกระอักเลือดตาย

"อาจารย์ ตอนนี้จะทำเยี่ยงใดดี?" น่าหลานจื่อหลินไม่เคยฆ่าคนมากมายขนาดนี้มาก่อน ชุดขาวของเขาตอนนี้ถูกย้อมไปด้วยเลือด สีหน้าไม่สู้ดีเอามากๆ ภาพเลือดและซากศพเต็มไปหมดอย่างนี้ทำให้คนอยากอาเจียน มีหรือที่คุณชายสูงส่งเติบโตมาในเขาเวิ่นเทียนแต่เด็กอย่างเขาจะเคยสัมผัสมาก่อน

ฟ่านฉางจื่อยังไม่ทันพูดอะไร โหลชีก็ยกมือขึ้นบอก "เห็นแล้วต้องมีส่วนได้ด้วย! ข้าร้อนเงิน ดังนั้นข้าจะแบกทองสองลังไป!

ฟ่านฉางจื่อที่ได้ยินนางพูดว่าเห็นแล้วต้องมีส่วนได้ด้วยกำลังจะตะคอกด้วยความโกรธ แต่พอได้ยินนางบอกเอาแค่ทองสองลัง เขาก็กลืนคำโกรธลงไป หากเป็นปกติ ทองสองลังเขาไม่มีทางยอมสละให้แน่ แต่ตอนนี้เพชรนิลจินดาเต็มโกดังเลยนะ ในของเหล่านั้น ทองแทบจะเรียกว่าธรรมดาที่สุดแล้ว! ให้ทองนางสองลังไม่เป็นกระไรมากดอก คิดซะว่าเป็นค่าปิดปากให้นางว่าง่ายหน่อยก็ดี! ยังไงซะพอถึงหุบเทพมาร หลังจากนางตายแล้ว เขาก็สามารถเอาของกลับมาได้อยู่ดี!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ