สีหน้าโหลวซิ่นดูแย่มาก "ข้าน้อยรู้สึกไม่เข้าใจ ในเมื่อนางได้ให้ยาแบบนั้น แต่ที่ให้ข้าน้อยมันถึงไม่เหมือนกัน?"
โหลชียิ้มอย่างเย็นชา "นี่คือจุดประสงค์ที่ก่อนหน้านี้น่าหลานฮั่วซินให้ข้าพาผู้ช่วยมา นางต้องการให้คนของข้าเห็นกับตา การตายของข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาง และ นางได้ให้ยาชั้นดีเช่นนั้นแล้ว หลังจากที่เจ้ากลับไปแล้วก็จะเป็นพยานคนสำคัญ เฉินซ่าจะเชื่อในคำให้การของเจ้า!"
อีกประเด็นนางไม่พูดมาก เชื่อว่าน่าหลานฮั่วซินมีจุดประสงค์อื่น เพื่อให้เฉินซ่าเห็นว่า ถึงนางจะอยู่ชั้นนอกก็ยังเสียชีวิตได้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหุบเทพมารอันตรายแค่ไหน! น่าหลานฮั่วซินไปค้นหายาที่ชั้นในให้กับเขาโดยไม่กังวลภัยอันตรายถึงชีวิต ด้านหนึ่งก็เพื่อพิสูจน์ว่านางแข็งแกร่งกว่านาง อีกด้านหนึ่ง ความตั้งใจและความรักเช่นนี้ เฉินซ่าจะไม่หวั่นไหวเลยหรือ?
ดังนั้นนางจึงต้องยกระดับกำลังภายในของโหลวซิ่นให้แข็งแกร่งขึ้น เพิ่มโอกาสเพื่อช่วยชีวิตตัวเอง และนางกล้ารับประกันได้ว่า นางจะปกป้องโหลวซิ่นอย่างดี ปกป้องคุ้มครองเขาให้กลับไปที่ตำหนักจิ่วเซียว! มิฉะนั้น พยานนี้จะไร้ประโยชน์มิใช่หรือ?
น่าหลานฮั่วซินต้องการให้นางตาย และยังต้องการให้เฉินซ่าเชื่อว่านางเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เพราะความสามารถของตัวเองไม่เพียงพอ และด้วยวิธีนี้ เฉินซ่าจะได้ไม่รู้สึกเกลียดนาง
เป็นผู้หญิงที่โหดเหี้ยมมาก เป็นกลยุทธ์ที่ดีสามารถยิงนัดเดียวได้นกสองตัว
นี่เป็นเทพธิดาแห่งเขาเวิ่นเทียนหรือ? นางอยากรู้ว่า ในเขาเวิ่นเทียนยังมีคนประเภทไหนบ้าง!
ใบหน้าของเฉิงสิบยังเคร่งขรึม "ดูเหมือนว่า ข้างหน้าจะต้องมีไอพิษค่อนข้างรุนแรง มิฉะนั้น น่าหลานฮั่วซินคงไม่วางแผนการเช่นนี้"
โหลชีหยิบขวดเล็กๆออกมาแล้วเทยาออกมาหนึ่งเม็ด ยื่นให้เฉิงสิบ "ทานซะ" แม้ว่าสิ่งนี่ของนางจะไม่สามารถเพิ่มกำลังภายใน แต่หลีกเลี่ยงไอพิษและล้างพิษ มันมีประโยชน์มาก
เมื่อเฉิงสิบทานยาไปแล้ว โหลชีก็โบกมือและพาพวกเขาไปยังทิศทางที่ก่อนหน้านี้น่าหลานฮั่วซินเคยไป
"แม่นาง เจ้าคิดว่าเถาทองม่วงจะอยู่ทางนี้หรือ?" โหลวซิ่นถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อสักครู่น่าหลานฮั่วซินบอกว่าให้พวกเขาข้ามลำธารเล็กนี้แล้วไปข้างหน้าไม่ใช่หรือ?
โหลชีกลอกตาเพราะผิดหวังกับสิ่งที่ตั้งความหวังไว้ ข้าจะเอาเถาทองม่วงทำไม ต้องหาแส้ให้น่าหลานตันเอ๋อร์เพื่อรอให้นางมาฟาดข้าหรือ?" นางไม่ใช่คนโง่ เมื่อเข้าหุบเทพมาร ตั้งแต่เริ่มแรกนางก็ไม่เคยคิดที่จะช่วยน่าหลานตันเอ๋อร์ค้นหาเถาทองม่วง
นอกจากนี้ หากนางเดาไม่ผิด น่าหลานฮั่วซินน่าจะได้เถาทองม่วงแล้ว มิฉะนั้นนางคงไม่รู้ว่าที่นี่มีเถาทองม่วง และมีไอพิษเช่นนั้น นอกจากนี้ น่าหลานฮั่วซินคาดการณ์ไว้แล้วว่านางจะต้องตายอยู่ข้างในนี้ แล้วทำไมยังจะต้องรอให้นางมาหาเถาทองม่วงล่ะ?
เพื่อต้องการหลอกนางมาที่นี่ เมื่อเห็นนางแล้วจะได้สนองความอยากรู้อยากเห็นของนาง และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่จะให้นางตาย
โหลชีคงไม่งี่เง่าที่จะยอมเดินไปตามแผนที่คนอื่นวางไว้เพื่อไปหาที่ตาย
"ทำไมผู้หญิงคนนั้นยังจะมาที่หุบเทพมารล่ะ? หลังจากที่โหลวซิ่นถามคำถามนี้จบ ในสมองก็คิดอะไรขึ้นมาได้ "เพื่องูยักษ์เย็นสารทฤดูหรือ?"
"รีบไปกันเถิด จะมาพูดเรื่องไร้สาระทำไม"
โหลชีใช้กำลังภายในบินเข้าไปในป่า เฉิงสิบและโหลวซิ่นจ้องมองหน้ากัน และก็เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของกันและกัน
"เห็นได้ชัดว่าในใจของแม่นางมีฝ่าบาท แต่กลับไม่ยอมรับ ในความคิดของข้า ก็อยู่เคียงข้างฝ่าบาท ดูซิว่าใครจะกล้ามาแย่ง" โหลวซิ่นพูด
เฉิงสิบเหลือบมองเขา "จะทำอย่างไรมันเป็นเรื่องของแม่นาง พวกเราแค่ติดตามนางก็พอ"
ทั้งสองรีบติดตามไป
ถึงจะเป็นเวลากลางวัน แต่ในป่านั้นวังเวงมาก และมีกลิ่นเหม็นเน่าทุกที่ ไม่มีสัตว์อื่นๆ แต่สามารถเห็นงูพิษได้ทุกที่ ถ้าไม่ระวังก็จะมีงูพิษที่ห้อยหัวบนกิ่งไม้ด้านบนศีรษะ หรือเลื้อยไปมาตรงหน้าพวกเขา
ไม่เห็นร่องรอยของน่าหลานฮั่วซิน และคิดว่านางคงเร่งรีบเดินทาง เพราะกลัวว่าจะพลาดโอกาสการเจริญเติบโตของงูยักษ์เย็นสารทฤดู
โชคดีที่เมื่อคืนโหลชีได้ทาผงยาติดตามที่ตัวนาง เพื่อที่จะได้ติดตามตัวนางได้
"ไม่ต้องกลัวงูพวกนี้ ยาที่พวกเจ้าทานเข้าไปสามารถต้านพิษงูได้ และไม่ต้องสนใจ เร่งการไล่ล่า!" โหลชีกัดฟันสู้ แล้ววิ่งลอดใต้งูตัวนั้นก่อน นางนั้นขยะแขยงงูพวกนี้มาก ไม่อย่างนั้นในครั้งที่อยู่ในหุบเขาลึกลับถ้าไม่ใช่เป็นเพราะนางต้องการหลีกเลี่ยงงูตัวนั้นนางคงไม่ต้องตกลงไปในเหวลึก
เพราะจะต้องเข้าไปในหุบเทพมารชั้นใน แน่นอนจะต้องผ่านชั้นนอก พวกเขาไม่รู้ว่ามันไกลแค่ไหน อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะมีน่าหลานฮั่วซินคอยเปิดทางอยู่ข้างหน้า ดังนั้นหลังจากไล่ตามมาเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืนพวกเขาก็ยังไม่พบอันตรายใดๆ ระหว่างทางมีหลายครั้งที่เห็นศพของสัตว์ร้ายที่ถูกฆ่าตาย และยังมีป่าดอกลวงตา อากาศเป็นพิษ และพบกับแม่น้ำสายเล็กๆในป่าที่เต็มไปด้วยแมลงมีพิษ และทั้งสามก็ผ่านไปอย่างไม่เกรงกลัว
สิ่งที่ทำให้โหลชีเจ็บปวดใจคือ ตามข่าวลือ ในหุบเทพมารมีสมุนไพรมากมาย และสมุนไพรทั้งหมดมีอายุนานหลายปี สมุนไพรเติบโตได้ดีมาก แต่นางไม่มีเวลาไปเด็ด นางแอบคิดในใจ หลังจากได้งูยักษ์เย็นสารทฤดูแล้ว นางจะต้องวางมือทุกอย่างแล้วมาเด็ดสมุนไพรเหล่านี้อย่างไม่สนใจอะไร
ในยามค่ำคืน ในที่สุดขณะที่พระอาทิตย์ตกดินพวกเขาก็สามารถไล่ตามน่าหลานฮัวซินได้ทัน และนางก็เตรียมจะหยุดเดินทางเพื่อพักผ่อน
โหลชีและคนอื่นๆอยู่ไกลจากนาง และพบช่องว่างระหว่างเนินลาดชัน และหาก้อนหินขนาดใหญ่ ก่อกองไฟข้างหลังก้อนหิน ตัดกิ่งไม้รอบๆเพื่อล้อมรอบๆไว้ และเอาใบกล้วยขนาดใหญ่คลุมไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น่าหลานฮั่วซินมองมาทิศทางนี้แล้วเห็นแสงไฟ แต่กลับกลายเป็นเหมือนบ้านที่เรียบง่ายหลังหนึ่ง สามารถบังลมหนาว และทำให้อบอุ่นได้มาก
โหลชีกระโดดขึ้นไปบนก้อนหินขนาดใหญ่นั้น และเห็นว่าทางฝั่งน่าหลานฮั่วซินก็มีไฟลุกโชน และนางไม่ได้อยู่คนเดียว ข้างกายยังมีองครักษ์หลายคน และยังมีผู้หญิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ