โหลชีพยักหน้าและยิ้ม "งั้นข้าก็ขออวยพรให้เถ้าแก่จูมีอนาคตที่สดใส"
"ขอบคุณคุณชายเจ็ด"
"เถ้าแก่จู เจ้าบ้านหานถึงแล้ว" เมื่อลูกศิษย์เข้ามารายงาน เถ้าแก่จูก็รีบเชิญอีกฝ่ายเข้ามาทันที
เมื่อเฉิงสิบเห็นหญิงสาวสวมชุดกระโปรงสีชมพูเดินตามชายวัยกลางคนร่างสูงใหญ่ หน้าของเขาเคร่งขรึมลงทันที ฝ่าบาท ! ดวงความรักของแม่นางกับผู้หญิงมาอีกแล้ว!
โหลชีเห็นคุณหนูรองหานซึ่งมองนางด้วยความเขินอายทันทีที่เดินเข้ามาถึง แล้วก็นางยิ้มอย่างขมขื่นอยู่ในใจ
"นี่คือคุณชายเจ็ดที่ต้องการขายหญ้าเทียนจี?"
เจ้าบ้านหานดูแล้วอายุยังไม่สี่สิบ รูปร่างสูงใหญ่หล่อเหลา ดวงตาสดใส แค่มองแวบเดียวก็สามารถรู้ว่าเขาเป็นพ่อค้าที่ฉลาดปราดเปรื่อง
โหลชีพยักหน้า "ถูกต้อง ข้าเลื่อมใส เจ้าบ้านหานมานานแล้ว"
"คุณชายเจ็ดช่างเป็นคนที่หล่อเหลามาก" เจ้าบ้านหานที่นั่งอยู่ตรงข้าม หันไปมองลูกสาวของตนเอง โหลชีเลิกคิ้วขึ้น "เจ้าบ้านหานท่านมาดูตัวยาหรือมาดูข้า?"
เจ้าบ้านหานตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นหัวเราะเสียงดัง "เป็นเพราะข้าล่วงเกินแล้ว คุณชายเจ็ดอย่าได้โกรธเคือง แน่นอนว่าข้านั้นมาดูหญ้าเทียนจี"
เถ้าแก่จูถือกล่องหญ้าเทียนจีไปอยู่ตรงหน้าเขา ซึ่งทำให้เจ้าบ้านหานรู้สึกตกตะลึง "มีสามต้น!"
เอาล่ะ ไม่รู้ว่าหญ้าเทียนจีสามต้นนี้จะทำให้คนตกใจไปกี่คน โหลชีคิดด้วยความจำใจ
ดวงตาของคุณหนูรองหานนั้นเปล่งประกายน่าหลงใหล นางเหลือบมองโหลชีเป็นครั้งคราว และแม้แต่ติงเซียงเอ๋อร์ที่ติดตามนางก็ยังยิ้มอย่างสดใส ราวกับว่านางรู้สึกภูมิใจมาก
โหลชีไม่เข้าใจจริง ๆ ว่านางกำลังภูมิใจอะไร หรือนางคิดว่าวิสัยทัศน์คุณหนูของตนเองนั้นถูกต้อง? เหงื่อตก
"เจ้าบ้านหานข้าได้ตั้งราคาของหญ้าเทียนจีแล้ว เป็นตัวยาคุณภาพดีทั้งสามต้น เจ้าบ้านหานสามารถต่อรองราคากับคุณชายเจ็ดได้"
หญ้าเทียนจีชั้นดีทั้งสามต้น! ทำให้การหายใจของเจ้าบ้านหานถี่ขึ้นเล็กน้อย
"คุณชายเจ็ดคิดราคาไว้แล้วหรือไม่?"
ความจริงแล้ว โหลชีไม่รู้ว่าต้องตั้งราคาเท่าใด แต่จากปฏิกิริยาของพวกเขาแล้ว ทำให้นางรู้ว่าราคาของหญ้าเทียนจีทั้งสามต้นนี้ต้องสูงมากอย่างแน่นอน
นางไตร่ตรองแล้วมองไปที่เจ้าบ้านหาน "เจ้าบ้านหานรบกวนเสนอราคาเพื่อให้ข้าได้พิจารณาหน่อย ไม่ปิดบังเจ้าบ้านหานเคยมีคนต้องการซื้อหญ้าเทียนจีนี้กับข้า แต่ข้ารู้สึกว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ ดังนั้นข้าจึงไม่ยอมขายให้เขา ถึงได้เก็บไว้มาจนถึงตอนนี้"
ทันทีที่กล่าวประโยคนี้ออกไปเจ้าบ้านหานต้องคิดราคาของมันใหม่แล้ว มิเช่นนั้นใครจะรู้ว่าโหลชีจะคิดว่าตนเองเป็นคนเจ้าเล่ห์ แล้วไม่ขายให้กับตนเองหรือไม่?
"เถ้าแก่จูเจ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เจ้าช่วยพวกเราเสนอราคาดีกว่า?"
เถ้าแก่จูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาไม่ปฏิเสธ เขายกนิ้วชี้ขึ้นแล้วกล่าวว่า "ข้าคิดว่า สิบล้านตำลึง"
สิบล้านตำลึง
หัวใจของโหลชีกระตุก ราคาสูงมาก โชคดีที่นางไม่เสนอราคา ถ้าให้นางเป็นคนเสนอราคาเอง อย่างมากที่สุดก็แค่ห้าล้านตำลึง
สิบล้านตำลึง การขายเพียงแค่หนึ่งต้นก็เพียงพอที่นางจะเลี้ยงเฉิงสิบและคนอื่น ๆ ไปตลอดชีวิต ขอเพียงแค่ไม่ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย
สีหน้าของนางสงบนิ่ง ขณะที่เฉิงสิบและโหลวซิ่นก้มหน้าเล็กน้อย ไม่กล้าให้ใครเห็นการแสดงออกของพวกเขา เพราะว่าทักษะการแสดงของพวกเขาไม่ดีเท่าแม่นาง และพวกเขากลัวว่าตนเองจะแสดงสีหน้าตกใจออกมา
หญ้าเทียนจีหนึ่งต้นราคาสิบล้านตำลึง แม่นางโหลของพวกเรามีสิบหากต้น! ยังไม่รวมเห็ดหลินจือพันปีและพรุนม่วง! โอ้สวรรค์ ถ้าเป็นเช่นนั้น แม่นางของพวกเรากลายเป็นคหบดีแล้ว!
โหลชีรู้สึกว่าราคาที่เถ้าแก่จูเสนอนั้นน่าจะเป็นราคาที่สมเหตุสมผล แต่เนื่องจากตอนนี้นางมีพื้นฐานแล้ว ถ้าไม่เพิ่มราคาอีกนิดมันจะไม่สอดคล้องกับนิสัยของนาง
นางยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า "ราคาที่เถ้าแก่จูเสนอนั้นเชื่อถือได้"
ความรู้สึกของเถ้าแก่จูเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ความจริงแล้วไม่มีใครเคยซื้อขายหญ้าเทียนจีและไม่มีใครรู้ว่ามันมีมูลค่าเท่าใด แม้ว่าราคาที่เขาเสนอจะไม่ต่ำ แต่คุณภาพของหญ้าเทียนจีทั้งสามต้นนี้ดีมากจริง ๆ ดีเสียจนเขาไม่รู้ว่าจะเพิ่มราคาไปอีกประมาณเท่าใด หลังจากได้ยินสิ่งที่โหลชีกล่าวมา ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่พอใจกับการเสนอของตนเอง?
เจ้าบ้านหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หนึ่งต้นราคาสิบล้านตำลึง เป็นราคาที่ตระกูลหานสามารถรับซื้อได้ นอกจากนี้ หญ้าเทียนจียังมีประโยชน์ต่อตระกูลหานมาก ขอเพียงแค่เขาสามารถซื้อได้ เขาก็ยินดีที่จะจ่าย
โหลชีเหลือบมองท่าทีของเจ้าบ้านหานรู้ว่าราคาอยู่ในขอบเขตที่เขายอมรับได้ นางกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "ข้าเสนอราคาเองดีกว่ แล้วเจ้าบ้านหานค่อยดูว่าจะสามารถรับได้หรือไม่? หญ้าเทียนจีสามต้น ห้าสิบล้านตำลึง พวกเจ้าอย่าเพิ่งคิดว่ามันแพง กล่าวตามตรงว่า หญ้าเทียนจีสามนี้ต้นคุณภาพเลิศ นั่นหมายความว่า หญ้าเทียนจีธรรมดาทั่วไปอาจปรุงยาแข็งจิตได้สิบเม็ด แต่หญ้าเทียนจีสามต้นนี้ หนึ่งต้นสามารถปรุงยาแข็งจิตได้ถึงห้าสิบเม็ด"
"สิบห้าเม็ด"
เถ้าแก่จูและเจ้าบ้านหานตกตะลึง หากเป็นเช่นนั้นจริง สามต้นนี้ปรับราคาอีกยี่สิบล้านตำลึง ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามันไม่แพง และมันคุ้มค่าอย่างยิ่ง!
"สำหรับสรรพคุณ พวกเจ้าสามารถทดสอบได้ โดยใช้ใบเล็ก ๆ ของหญ้าเทียนจีบดเป็นผง แล้วรับประทานตอนนี้ทันที ซึ่งมันสามารถห้ามเลือดและแก้ปวดได้"
นางเป็นคนใจกว้างมาก ยื่นมือไปดึงใบไม้ของหญ้าเทียนจี แต่เจ้าบ้านหานรู้สึกเสียดาย จึงรีบถอยหลังพร้อมถือกล่องนั้นไว้แน่น
ตัวยาที่สามารถปรุงยาแข็งจิตได้ แล้วจะสิ้นเปลืองเช่นนี้ได้อย่างไร? ทำให้เกิดแผลเพื่อทดลองโดยเฉพาะ นี่มันเป็นการทำลายสิ่งของให้เสียหายตามอำเภอใจแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ