ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 229

หานเสี่ยวจูค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ นั่งยองๆลงไป พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ยื่นมือไปทางจิ้งจอกม่วง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบาและอ่อนโยนมาก: "เจ้าจิ้งจอกน้อย มาทางนี้เร็ว พี่พาเจ้าไปกินเนื้อดีไหม?"

ต้องบอกว่า น้ำเสียงของหานเสี่ยวจูในเวลานี้อ่อนโยนและใจดีเป็นพิเศษ เสียงและน้ำเสียงเช่นนี้ทำให้สัตว์หรือแม้กระทั่งคน ผ่อนคลายลงมาได้ง่ายมาก ยินดีที่จะใกล้ชิดกับนาง

แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่มองดูหานเสี่ยวจูอย่างเย้ยหยัน เพียงแต่ติดอยู่ที่ฐานะของนางเลยไม่กล้าเอ่ยปากเหน็บแนมก็เท่านั้น ถ้าหากว่าจิ้งจอกม่วงถูกเกลี้ยกล่อมไปได้ง่ายดายขนาดนั้น เช่นนั้นมันก็ไม่ใช่จิ้งจอกม่วงแล้ว!

จิ้งจอกม่วงเป็นสัตว์ตัวน้อยในตำนานที่ได้รับการเบิกสติปัญญาแล้ว

เป็นเช่นนั้นจริงๆ จิ้งจอกม่วงนั่นหดตัวตรงมุมหนึ่งในกรงอยู่อย่างนั้น และไม่ได้พุ่งตัวออกไปเพราะเห็นว่ามีทางออกในทันที

หานเสี่ยวจูพยายามลองอีกสองสามครั้ง จนปัญญาแล้วจริงๆ ถึงได้ทำหน้ามุ่ยถอยออกไปด้านหนึ่ง และยังมองไปบริเวณโดยรอบครู่หนึ่ง ราวกับกำลังหาคนอยู่

เจ้าบ้านหานฮึออกมาคำหนึ่ง ใช้สายตาจ้องมองข่มขู่จิ้งจอกม่วง ทันใดนั้น ห้านิ้วของเขาทำเป็นกรงเล็บขึ้นมา ตะโกนออกมาคำหนึ่ง "มา!"

ระหว่างกรงเล็บของเขา แรงดึงดูดที่มองไม่เห็นพุ่งตรงไปทางจิ้งจอกม่วง กำลังภายในนั่นไปถึงหน้าจิ้งจอกม่วงกลายเป็นแรงยึดเหนี่ยว จะดูดเอาตัวมันไปทางประตูเล็กนั่น

"เจ้าบ้านหานจะทำร้ายจิ้งจอกม่วงไม่ได้นะ!" คนที่รออยู่ด้านข้างพากันโห่ร้องขึ้นมา

เจ้าบ้านหานทำเป็นไม่ได้ยิน หานเสี่ยวจูรีบร้อนอธิบาย: "ไม่ใช่ ไม่ใช่ นี่คือกรงเล็บมังกรของพ่อข้า ไม่ทำร้ายจิ้งจอกน้อยหรอก"

เพิ่งจะพูดจบ ก็เห็นจิ้งจอกม่วงนั่นลื่นไถลไปทางด้านเจ้าบ้านหานสองสามก้าวจริงๆ และมันยังต่อต้านด้วยการใช้อุ้งเท้ายึดเหนี่ยวพื้นเอาไว้พยายามจะถอยหลังกลับแสดงออกชัดเจนว่าข้าไม่อยากไปกับท่าน

ท่าทางเช่นนี้ของจิ้งจอกม่วงทำให้ผู้หญิงทั้งหมดที่อยู่ที่นี่รู้สึกว่ามันดูน่ารักมาก แม้กระทั่งสาวใช้หลายคนที่ติดตามหานเสี่ยวจูมาก็ยังอดที่จะเผยสีหน้าสงสารออกมามิได้

ในดวงตาของเจ้าบ้านหานเผยให้เห็นความปีติยินดี ดูท่าเขาสามารถทำสำเร็จได้!

"วู้----"

จิ้งจอกม่วงส่งเสียงร้องออกมาอย่างอ่อนแรง ดวงตาสดใสแวววาวคู่นั้นมองไปทางเจ้าบ้านหาน

"เจ้าจิ้งจอกน้อย อย่ามองข้าด้วยสายตาอ้อนวอนเช่นนั้น กลับไปพร้อมกับข้ากลับเถิด ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดีเลย!"

ก็แค่จะปล่อยเลือดของเจ้าออกจนหมดเท่านั้นเอง!

จะทำยาแบบนั้น มีเลือดของจิ้งจอกม่วงแล้ว ถึงแม้จะหาพรุนม่วงกับเห็ดหลินจือพันปี ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแล้ว! เลือดของจิ้งจอกม่วงสามารถใช้ทดแทนตัวยาสองชนิดนี้ได้!

ดังนั้น จิ้งจอกม่วงตัวนี้เขาต้องเอามาให้ได้!

"วู้----" จิ้งจอกม่วงส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง ครั้งนี้ มันอ้าปากกว้าง อาวู๊ววว์คำหนึ่งไปทางอากาศที่อยู่ตรงหน้าแล้วกัดลงไปอย่างแรง

จู่ๆเจ้าบ้านหานก็พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างควบคุมไม่อยู่ หากไม่ใช่เพราะการตอบสนองของเขารวดเร็วใช้มือจับกรงเหล็กเอาไว้ ต้องมีการแสดงการล้มฟาดลงไปกับพื้นตรงหน้าเป็นแน่

เขาจ้องมองดูจิ้งจอกม่วงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ราวกับว่ากำลังเห็นผีอยู่

เป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร?

มันสามารถกัดกำลังภายในของเขาขาดในคำเดียวได้!

โหลชีอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้ กำลังภายในที่สามารถฝึกจนดูดสิ่งของได้ เดิมทีก็เหมือนกับเส้นสนามแม่เหล็กที่แท้จริงอยู่แล้ว แต่จิ้งจอกม่วงกัดเส้นตึงนี้ขาดในคราวเดียว เจ้าบ้านหานก็ต้องได้รับปฏิกิริยาการเด้งกลับเล็กน้อยอยู่แล้ว สูญเสียแรงกำลังล้มลงไปอย่างแรง

นางไม่รู้ว่าที่แท้จิ้งจอกม่วงยังมีความสามารถแบบนี้อยู่

"ข้าไม่เชื่อว่า----"

"เจ้าบ้านหาน หนึ่งคนมีแค่หนึ่งโอกาสเท่านั้น!" เถ้าแก่จูเข้าไปขวางตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ

คนที่อยู่ด้านล่างก็พากันร้องตะโกนกันขึ้นมา

"ใช่ ใช่ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น มิเช่นนั้นคนคนเดียวจะลองไปถึงเมื่อไหร่กันล่ะ!"

เจ้าบ้านหานก็รู้ดีว่าไม่สามารถทำในสิ่งที่มวลชนขุ่นเคืองได้ กวาดตามองคนที่ยังเข้าแถวรอที่จะทดลองพวกนั้นครู่หนึ่ง ลงจากเวทีด้วยใบหน้าดำมืด หานเสี่ยวจูก็เดินตามลงไปอย่างอาลัยอาวรณ์

เดิมทียังกังวลอยู่ว่าจิ้งจอกม่วงจะหนีไป แต่ตอนนี้กลับเห็นมันหดตัวอยู่ในมุมหนึ่งของกรง อยู่ห่างไกลจากประตูทางออก ส่งเสียงร้องวู้วู้สองคำอย่างน่าสงสารไปบทิศทางหนึ่งเป็นระยะๆ

มุมปากของโหลชีขดเป็นรอยยิ้ม เจ้าตัวเล็กนี่กำลังแสร้งทำน่าสงสารกับนางอยู่ ในใจนางก็รู้สึกประหลาดใจมากเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าจิ้งจอกม่วงจะมีสติปัญญาเช่นนี้ได้

จากนั้นก็มีคนขึ้นไปลองอีก แต่ว่าคนที่ขึ้นไปอย่างตื่นเต้นทีละคน ก็ลงมาอย่างหมดอาลัยตายอยากทีละคนเช่นกัน

ผ่านไปไม่นาน ก็ถึงคิวของตาเฒ่าที่ไว้เครายาวคนหนึ่ง ในมือถือท่อไม้ยาสูบเอาไว้หนึ่งอัน ดวงตาเหมือนลืมครึ่งหลับครึ่งอยู่ตลอด เดินเข้าไปใกล้กรงเหล็กนั่นช้าๆ เดินไปถึงด้านข้างของเจ้าจิ้งจอกน้อย

ข้างล่างมีคนตะโกนขึ้นมาว่า: "คิดไม่ถึงว่าราชายาลามกที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วทั้งใต้หล้าคนนี้ก็อยู่ที่นี่ด้วย"

ราชายาลามก?

"ใครน่ะ? โด่งดังมากหรือ?" โหลชีกล่าวถาม

เพื่อนร่วมชั้นโหลวซิ่นยกมือขึ้น: "แม่นาง คนคนนี้ข้าน้อยเคยได้ยินมาก่อน เขาเป็นคนที่ทำยาสลบทุกชนิด ได้ยินว่า ยาสลบของโจรข่มขืนจำนวนไม่น้อยก็ซื้อมาจากเขา ยังมี…สรรพคุณทางยาที่ทำให้ผู้หญิงเกิดอารมณ์ร่วมด้วย! ที่น่าชังก็คือถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายคือโจรข่มขืน ก็ยังจะทำยาแบบนั้นออกมาขายให้อีกฝ่าย!"

"น่าสนใจดีนี่"

"แม่นาง คนแบบนี้ยังน่าสนใจ?"

"สามารถทำยาสลบให้มีลวดลายได้ ไม่ถือว่าน่าสนใจหรือ?"

โหลชีลูบไปที่คาง มองต่อไปว่าราชายาลามกนั่นจะทำอะไรต่อไป ในเมื่อเขาเป็นคนทำยาสลบ ก็ต้องใช้ยาสลบแน่นอน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ