โหลชีไม่ได้ทำให้หัวหน้าผู้คุ้มฮั่วลำบากใจ นางเพียงแค่เดินรอบๆ ในเขตเรือนจำ แต่แดดจ้าเกินไป ในที่สุดนางก็พบศาลาที่ร่มรื่น นั่งบนขอบพิงเสาแล้วผล็อยหลับไป
ศาลานี้ถูกสร้างขึ้นในที่ที่เหมาะสม ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงตระหง่าน และร่มเงานั้นก็ปกคลุมทั่วทั้งศาลา แสงแดดส่องไม่ถึงเลย และลมก็ค่อนข้างแรง และลมเย็นมาก
ไม่รู้ว่าจั๊กจั่นหรือแมลงต่างๆ กลัวเรือนจำนี้หรือเปล่า ถึงแม้ว่าจะมีต้นไม้เยอะ แต่ไม่มีเสียงรบกวนเลย เงียบสงบมา
โหลชีรู้สึกว่า นี่คือชีวิตที่นางต้องการ สะดวกสบาย
วันนี้ทั้งวันนางรู้สึกมีชีวิตขึ้นๆ ลงๆ เข้าไปอยู่ในคุกงูและตอนนี้สามารถงีบหลับอย่างมีความสุขในศาลาที่มีลมเย็นสบาย
และเมื่อการหลับครั้งนี้ ไม่รู้ว่ามีคนกำลังตามหานางจนเกือบบ้าคลั่ง
อย่างแรกคือองครักษ์อิงหลังจากกลับไปแล้วก็ไปทานข้าว แล้วก็จัดการกับงานราชการสักพัก ออกไปได้สักพักก็เจอองครักษ์เยว่ ฟังจากปากขององครักษ์เยว่บอกว่าเขาไปหาฮั่วหยูฉุน แล้วจัดการเสวี่ยให้ไปในคุกน้ำที่อ่อนโยนที่สุด เปลี่ยนน้ำให้ใส และเวลายืนอยู่ในน้ำความลึกของน้ำไม่ถึงหัวเข่า ยังโยกย้ายเก้าอี้มาให้นางนั่งด้วย
"ขอยาหนึ่งเม็ดจากหมอเทวดามา ให้นางกิน ชั่วขณะคงไม่มีปัญหาอะไร อาการบาดเจ็บภายในจะต้องใช้เวลารักษาสักระยะ เป็นการดีกว่าที่ในช่วงนี้ไม่ควรใช้กำลังภายใน" องครักษ์เยว่พูด
องครักษ์อิงถามอย่างเหลือเชื่อ "ทำไมทำเช่นนี้? ไม่กลัวนายท่านตำหนิหรือ?"
องครักษ์เยว่เหลือบมองเขาและพูดว่า "ข้ารู้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านยิ่งอยู่ยิ่งไม่ชอบเสวี่ย แต่ว่า ยังไงนางก็เป็นน้องสาวของเรา สำหรับนายท่านก็ควรเป็นเช่นนั้น นายท่านทำร้ายนางด้วยความโกรธชั่วขณะ แต่ต่อมายอมไว้ชีวิตนาง แน่นอนคงไม่อยากให้นางตาย มิฉะนั้น พวกลูกน้องของฮั่วหยูฉุนจะยอมให้ข้าและเจ้าพาคนมาที่นี่รึ?"
"แล้วโหลชีล่ะ?"
"ปกตินายท่านไม่ใช่คนที่โกรธผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งของนั้นที่มีความหมายมากเกินไปสำหรับเขา ไม่ว่าเสวี่ยจะพูดยังไง เขาก็จะไม่ออกคำสั่งลงโทษโหลชี"
อิงตบหัวตัวเอง "ดูเจ้าโง่อย่างข้าสิ! ข้าไม่ได้พูดอะไรกับยามเลย โหลชีจะต้องถูกส่งไปยังสถานที่นั้นอย่างแน่ๆ !
"นักโทษหญิงของฮั่วหยูฉุน ชอบขังไว้ในที่คุกงู……"
องครักษ์เยว่พูดได้เพียงครึ่งทาง สีหน้าขององครักษ์อิงก็เปลี่ยนไป ใช่แล้ว ! คุกงูน้ำพิษร้าย! ตอนนั้นเขาลืมไปเลย! ให้ตายสิ ให้ตายสิ ผู้หญิงคนนั้นถูกขังอยู่ที่นั่น จะตกใจจนหมดสติและตกลงไปในสระหรือไม่? หากงูหมื่นตัวพันกับร่างกาย นางอาจจะใจสลายแล้วมั้ง!
องครักษ์อิงครุ่นคิดเกี่ยวกับสถานการณ์เช่นนั้น แล้วรีบหันตัวแล้ววิ่งไปที่เรือนจำทันที
แต่เมื่อเขาไปถึงที่นั่น เขาบังคับให้ยามพาตัวเขาไปที่คุกงูน้ำพิษร้ายที่ขังโหลชี แต่กลับพบว่าไม่มีใครอยู่ข้างใน ตอนนี้สีหน้าเขาเปลี่ยนไป คงไม่ใช่นำนางไปขังไว้ที่คุกอัคคีผีร้ายมั้ง?
ในการจัดการนักโทษหญิง คุกสองแห่งนี้มีชื่อเสียงที่สุด คุกงูน้ำพิษร้ายสามารถทำให้ผู้หญิงหวาดกลัวสุดๆ และคุกอัคคีผีร้ายระดับความน่าสะพรึงกลัวก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า!
ในขณะนี้อิงอยากจะตบตัวเองให้ตาย ทำไมเขาถึงคิดไม่ออก? ด้วยความสำคัญที่นายท่านมีต่อโหลชีเป็นไปได้ไงที่ต้องการให้เกิดเรื่องกับนางจริงๆ ? แม้ว่านายท่านจะออกคำสั่งนี้จริงๆ แต่สำหรับผลประโยชน์ที่โหลชีมีต่อนายท่านเขาก็ควรทำอะไรบางอย่าง ตอนนี้ทำไง หากโหลชีตกใจจนเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ในคืนพระจันทร์เต็มดวงวันที่สิบห้านายท่านจะต้องทนทุกข์ทรมานแบบนั้นอีกครั้ง!
"นางอยู่ที่ไหน?" เขาจับคอเสื้อยามอย่างดุร้าย
ยามคนนี้ก็ดวงซวยมาก เขาเพิ่งเปลี่ยนกะมาในช่วงตอนบ่าย เพราะยามคนก่อนรู้สึกว่าโหลชีถูกหัวหน้าผู้คุ้มพาตัวไปและคงจะไม่กลับมาที่ห้องขังนี้อีก ดังนั้นจึงไม่บอกเขา
ด้วยเหตุนี้เขาถามยังไงยามก็ไม่รู้ เห็นแต่การบันทึกที่ส่งมาก่อนหน้านี้เท่านั้น โหลชีถูกนำตัวไปที่คุกงูน้ำพิษร้าย แต่ออกไปเวลาไหน ไปที่ไหน ใครเป็นคนพาตัวไป ไม่มีบันทึกไว้ในนั้น ดังนั้นตอนนี้ไม่ว่าใต้เท้าองครักษ์อิงจะโกรธแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้
"หา! ส่งคนไปหา!"
องครักษ์อิงโกรธจัด และตัวเองก็วิ่งไปหาในห้องคุมขังแต่ละห้อง
จากนั้นก็เห็นเสวี่ย
นั่งอยู่กลางสระ สองเท้าแช่อยู่ในน้ำ มันสบายมาก สำหรับคนที่ติดคุก
"อิง! นายท่านให้เจ้ามารึ? นายท่านออกคำสั่งให้ปล่อยข้าออกไปแล้วใช่ไหม?" เมื่อองครักษ์เสวี่ยเห็นเขา ดวงตาก็เป็นประกายทันที และก็วิ่งมาที่ประตู
"ไม่ใช่ "อิงรู้สึกรำคาญเล็กน้อย และถามว่า "เจ้ารู้ไหมว่าโหลชีขังอยู่ที่ไหน?"
"นางแพศยาโหล? ฮ่าฮ่า คาดว่าคงจะขังอยู่ในคุกอัคคีผีร้าย! เป็นเพราะนางทำร้ายข้าอิงเจ้าไม่เชื่อข้ารึ?"
"เสวี่ยเจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้เจ้ายิ่งอยู่ยิ่งไม่เหมือนแต่ก่อน" แต่ละคำก็พูดว่านางแพศยา เป็นเพราะพิธีคัดเลือกแต่งตั้งนางสนมกำลังใกล้เข้ามารึ? เขารู้ความคิดของเสวี่ยที่มีต่อนายท่าน เพราะนางคิดถึงเรื่องที่จะมีสาวๆ มากมายล้อมรอบนายท่าน ทำให้อิจฉาริษยาจนเกือบบ้า
เสวี่ยตกตะลึง แต่อิงได้หันหลังและก้าวออกไปแล้ว
"ข้าเปลี่ยนไปแล้วรึ?" เสวี่ยบ่นพึมพำกับตัวเอง แต่ในสมองมีใบหน้าเฉินซ่าผุดขึ้นมา แววตาของนางเฉียบแหลม เฉินซ่าเป็นของนาง เป็นของนาง ทำไมนางถึงไม่มีคุณสมบัติเป็นจักรพรรดินีของเขา! นางเป็นคนจัดการพิธีคัดเลือกพระสนมด้วยตัวเอง มีใครรู้บ้างว่านางรู้สึกทุกข์ใจเพียงใด? โหลชีคนนั้น รู้จักนายท่านเพียงไม่กี่วันเอง แล้วนางมีอะไรคู่ควรถึงเข้าไปพักในตำหนักสาม มีสิทธิ์อะไร!
อิงหาทุกห้องในเรือนจำ แต่ไม่พบร่างของโหลชี
และสำหรับท่านหัวหน้าผู้คุ้มฮั่วพึ่งฟื้นคืนสติได้ก็เอามือทั้งสองข้างจับใบหน้า ดวงตาเบิกบาน เพราะความตื่นเต้นดีใจ ใบหน้าที่ซีดเซียวของเขาก็มีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ