กระเป๋าผ้าสีดำใบเล็กๆนั้นดูแข็งแรงมาก สุดท้ายพอเกาะกับเสาก็ราวทันที เหมือนเดิมทีมีควันดำสองก้อนล้อมไว้อยู่ พอกระเป๋าขาด ควันดำสองก้อนนั้นลอยขึ้นไปทันที ติดอยู่บนเสาไม้ ในสายตาที่สะพรึงกลัวของโหลชี เสาไม้นั้นเดิมทีแข็งแรงมากเมื่อถูกควันดำล้อมไว้แล้วกัดเซาะเกิดรูขึ้นทันที!
และทันใดนั้นควันดำสองก้อนก็ดูเหมือนจะขยายใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
"เหี่ย อะไรวะ!"
โหลชีด่าออกมา พอหันหน้ามาก็เห็นเฉินซ่ายกขาเตะไปที่เข่าของอริยะมนต์จนคุกเข่าลงไป และในขณะเดียวกัน ปากกาในมือขวาของอริยะมนต์ก็เก็บลงชั่วคราว ชี้ไปที่หน้าผากของเฉินซ่าอย่างรุนแรง!
สิ่งที่ทำให้นางเบิกตากว้างทันทีคือ หลังจากนั้นดูเหมือนขโมยชายชุดสีชมพูคนนั้นที่ถูกพลังภายในของเฉินซ่าซัดออกไปกำลังถือกระเป๋าผ้าสีดำหันมาฟาดเข้าทางด้านหลังของเฉินซ่าพอดี
ในเวลานี้เฉินซ่าที่ใช้พลังทั้งหมดต่อสู้กับอริยะมนต์ดูเหมือนจะสิ้นเปลืองกำลังอย่างมาก ไม่มีทางหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ได้เลย
"แม่ง รนหาที่ตาย!" ดวงตาของโหลชีเบิกกว้าง เมื่อครู่เพิ่งจะเห็นพลังของ "ควันดำ"นั่น นางจะกล้าปล่อยให้ "ควันดำ"เกาะบนเฉินซ่าได้ยังไง?
แต่ว่าสิ่งนั้นจะไปแตะไม่ได้เด็ดขาด! อีกอย่าง นางไม่กล้าออกแรงปัดมากนัก เกรงว่าจะเข้าใกล้เฉินซ่ามากเกินไป ควันสีดำข้างในจะสาดลงบนหลังของเฉินซ่า
โหลชียกฝ่ามือขึ้น ตวัดมือไปทางกระเป๋าสีดำเล็กๆนั่น
แต่นางกลับไม่รู้ว่า อยู่ทางด้านหลังนางกลับ มีกระเป๋าสีดำเล็กๆเหมือนกันกำลังพุ่งเข้ามาหานาง
ถึงตอนนี้แล้วเป็นที่แน่นอนว่า พวกเขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด เป็นวินาทีที่หัวเลี้ยวหัวต่อที่สุด!
ปลายพู่กันประหลาดนั่นมาถึงหน้าผากของเฉินซ่าแล้ว เมื่อมองใกล้ๆเขาสามารถสัมผัสได้ถึงขนพู่กันที่แข็งแกร่งกระจายความเย็นออกมาในแต่ละเส้น ก่อนที่ปลายขนพู่กันจะแทงเขาเข้าจริงๆนั้น ความเย็นเริ่มคืบคลานเข้ามาในคิ้วของเขาทีละน้อย ทันใดนั้นความคิดของเขาแทบหยุดลง
ในเวลานี้เอง หางตาของเขากวาดไปทางโหลชี มองเห็นอะไรดำๆลอยมาหานางพอดี ก่อนหน้านี้เฉินซ่ายังไม่เคยเห็นพลังของสิ่งนั้น ทว่าเขากลับคาดเดาถึงอันตรายของสิ่งนั้นโดยไม่รู้ตัว ใจเต้นรัว ความตื่นตระหนกมาอย่างรวดเร็ว เขากัดฟันแน่น หันกลับไป จ้องไปทางใบหน้าของอริยะมนต์ พู่กันแทงเข้าไปในหัวของเขา เขารู้สึกเพียงจู่ศีรษะก็เจ็บเหมือนน้ำแข็งแทงเข้ากระดูก แต่เวลานี้ไม่ได้คำนึงถึงว่าได้รับบาดเจ็บอะไร หลังจากปะทะกับอริยะมนต์แล้ว เขาลอยตัวขึ้นทันที เท้าข้างหนึ่งเตะเข่าของอริยะมนต์อีกครั้ง ร่างกายจึงอาศัยแรงนี้ลอยไปทางกระเป๋าสีดำใบเล็ก ขวางไว้ทางด้านหลังของโหลชี ใช้ฝ่ามือตบลงไป
อริยะมนต์สูดอากาศเข้าเฮือกหนึ่ง "ตัวเองยังเอาตัวไม่รอดยังคิดอยากจะเป็นฮีโร่ช่วยสาวสวยอีก!"ปลายพู่กันในมือหมุน ไปทางด้านหลังเขาค่อยๆลอยมา
"ชีชี!"
โหลชีเพิ่งปัดกระเป๋าสีดำเล็กๆออก แล้วเห็นว่าเฉินซ่าจู่ๆก็พุ่งเข้ามา แล้วก็มีพู่กันประหลาดนั่นตามมาติดๆ มุมที่นางอยู่นี้ ยังเห็นร่องรอยของพลังสีดำซึ่งบางมากจนไม่รู้สึกติดอยู่ที่ปลายพู่กัน
กัดฟัน แส้ปลิดวิญญาณในมือฟาดออกไปทางพู่กันนั่นทันที!
ตอนนี้ จู่ๆประตูก็ถูกกระแทกเปิดออก สายรัดแพรสีขาวเส้นหนึ่งพุ่งออกมาเหมือนงู เดิมทีพุ่งไปทางโหลชี แต่ตอนนี้กลับพุ่งมาทางกระเป๋าสีดำเล็กๆหลังเฉินซ่าที่อยู่ด้านหลังของนางเบาๆ สั่นนิดเดียว กระเป๋าสีดำเล็กนั้นถูกชนออกไป ตกลงมาที่แขนของชายชุดสีชมพู
สีหน้าชายผู้นั้นเปลี่ยนไปมาก แทบจะไม่ได้ลังเลเลย เมื่อยกมือขึ้นดาบก็ตัดลง เฉือนแขนข้างซ้ายของตัวเองในดาบเดียว
แขนข้างที่ขาดหล่นลงพื้นไม้เสียงดังจือๆๆเหมือนเสียงทอดน้ำมัน ควันดำด้านบนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ห่อหุ้มทั้งแขน ครู่หนึ่ง ควันดำกลุ่มนั้นก็ไม่ขยับแล้ว และพวกเขามองดูแขนที่ขาดข้างนั้น คิดไม่ถึงว่าจะเหลือเพียงกระดูกสีขาว
เหี้ย!
ความเร็วนี้เร็วกว่าปลากินคน! เพิ่งจะกินไม้ไป คิดว่าค่อนข้างช้า ตอนนี้กินเนื้อคน เร็วจนทำให้คนตกใจ!
มีบุคคลที่สามเข้ามา เวลานี้หลายคนในห้องก็หยุดการเคลื่อนไหวลง และในเวลานี้ เดิมห้องกาญจนที่ตกแต่งอย่างหรูหราก็ได้กลายเป็นพื้นที่เสียหายคล้ายพื้นที่หลังภัยพิบัติ
"อริยะมนต์ ในการต่อสู้ที่เขายู่ต้วนครั้งนั้น ท่านรับปากโหลเหล่าไท่จวินภายในสามปีจะไม่ใช้วิชามนต์ นี่ผ่านมาแค่ครึ่งปี ท่านคิดจะผิดคำพูดงั้นเหรอ?"
เสียงที่นุ่มนวลและอบอุ่นดังมาจากประตู
และพอได้ยินประโยคนี้ ทันใดนั้นใบหน้าของอริยะมนต์แสดงความประหลาดใจและสงสัย จ้องไปที่เฉินซ่าและโหลชีอีกครั้ง พูดเสียเข้มว่า : "ไป"
เพื่อปกป้องเขาชายชุดสีชมพูอีกเจ็ดคนก็ลอยออกไปนอกหน้าต่างทันที มีเพียงสามคนในชุดสีชมพูที่เสียชีวิตภายใต้แส้ปลิดวิญญาณของโหลชี ยังมีมืออีกข้างที่เหลือเพียงกระดูก
ควันดำเหล่านั้นจางหายไปแล้ว ที่เดิมยังเหลือน้ำดำกองหนึ่ง
โหลชีมองไปที่ประตู กลับเห็นทั้งร่างกายและจิตใจของเฉินซ่าที่ตึงเครียดอยู่ผ่อนคลายลง เป็นไปได้ไหมว่าคนที่มาที่นี่เป็นมิตรมากกว่าศัตรู? นางยังคงคิดถึงคนที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งพูดถึงโหลเหล่าไท่จวิน
แซ่โหลงั้นเหรอ
ตั้งแต่นางมาถึงที่นี่ไม่ได้มีเพียงครั้งเดียวที่ได้ยินคนพูดถึงตระกูลโหล คนที่พูดถึงมากที่สุดก็คือท่านจิน ในสายตาของท่านจิน ตระกูลโหลน่าจะเป็นตระกูลที่มีอำนาจมาก แม้แต่เขาก็ยังกลัวตระกูลโหลอยู่บ้าง หลานชายของท่านจินยังต้องแต่งงานกับหญิงสาวในตระกูลโหลว ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงเข้าไปในหุบเทพมารด้วยตัวเองอยู่หลายครั้ง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการหาจิ้งจอกม่วง เพียงเพื่อเอาใจหลานสะใภ้ในอนาคต
จากสิ่งนี้ยังสามารถอธิบายได้ว่า ฐานะของตระกูลโหลสูงแค่ไหน
แต่ว่าบนโลกใบนี้นางกลับไม่เคยได้ยินตระกูลโหลพูดออกจากปากคนธรรมดาทั่วไปเลย แม้แต่เฉินซ่าก็ไม่ค่อยรู้อะไรมากนัก
ตอนนี้ จู่ๆกลับมีคนพูดถึงตระกูลโหล ยังพูดถึงคนสำคัญของตระกูลโหล โหลเหล่าไท่จวินอีก
หรือว่านางจะสนิทกับตระกูลโหล?
คิดมาถึงตรงนี้ โหลชีแอบหวังเล็กน้อยที่จะพบกับผู้หญิงคนนี้ ณ เวลานี้นางคิดไม่ออกเลย คนที่มาจะเป็นใคร
แต่ว่า ทันทีที่คนเข้ามาก็ทำให้นางประหลาดใจเล็กน้อย
คนนั้นเอง คุณหนูที่มีสาวใช้ที่ชอบรนหาที่ตาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ