คิดว่าคนที่ตึกบุษบาพันธ์โง่หรือไง?คนเขาสู้กันในนี้ตั้งนานแล้ว!
ซู่อวิ๋นซิงโมโหจนตาโต "เจ้าคิดว่าจะจ่ายแค่ห้าพันตำลึงทองงั้นเหรอ?" โหลชีขยิบตา "ไม่ใช่แล้วยังไง?"
สาวใช้เฝ้าทำหน้าที่อย่างตั้งใจ เพียงแค่มีคำถามก็ตอบทันที "ห้าพันตำลึงทองเป็นราคาเริ่มต้น จากนั้นค่าใช้จ่ายของลูกค้าเท่าไหร่ค่อยคิดอีกที"
"งั้นค่าใช้จ่ายของไอ้แก่นั่นก่อนหน้านี้ล่ะ? คงจะไม่คิดกับพวกข้านะ? ยังมีอีก ห้องนี้ยังต้องตกแต่งใหม่หมด พวกเจ้าอย่าได้มาเก็บเงินกับพวกข้าล่ะ"การตกแต่งภายในที่หรูหรา พังทลายไปหมด ถ้านางจองห้องกาญจนแล้วละก็ ถ้าจะเอาทั้งหมดมาคิดที่นางนางก็ไม่ยอม แต่ถ้าคุณเริ่มใหม่อีกครั้ง จะต้องเสียเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน ทั้งพังทั้งเปลี่ยนใหม่ ไม่รู้ว่าต้องจ่ายเงินไปเท่าไหร่ แม้ว่านางจะมีเงินมาก แต่ก็ไม่อยากถูกเอาเปรียบ จ่ายเงินทั้งหมดนี้
"ตึกบุษบาพันธ์จะตามไปทวงหนี้กับลูกค้าท่านหนึ่ง" สาวใช้คนนั้นพูด
"ถ้าหาไม่เจอล่ะ?" โหลชีถามด้วยความอยากรู้
สาวใช้พูดอย่างใจเย็นว่า "ไม่มีหนี้ก้อนไหนที่ตึกบุษบาพันธ์ทวงไม่ได้"
เยี่ยม โหลชียกนิ้วหัวแม่มือให้
"งั้นพวกเจ้ารับเอาศพที่อยู่ด้านในย้ายออกมา แล้วก็ ตกแต่งให้สวยงามหน่อย มิฉะนั้นชื่อเสียงของพวกเจ้าจะเสียหายนะ"
ซู่อวิ๋นซิงโมโหจัด ชี้ไปที่นางแล้วด่าว่า: "นังผู้หญิงคนนี้ทำไมหน้าด้านขณาดนี้?ข้างในนี้เจ้าก็มีส่วนทำให้เสียหายไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้ยังจะมาขู่คนอื่นอีก!"
โหลชีมองบน: "ข้าว่า เกี่ยวอะไรกับเจ้า?"
"เจ้า เจ้าเจ้าเจ้า พี่เขย นางหยาบคายขนาดนี้ ท่านทำไมถึงต้อง----"
เฉินซ่าหรี่ตาลงเล็กน้อย "แล้วเจ้าเป็นตัวอะไรกัน? ผู้หญิงของข้าเจ้าด่าได้งั้นเหรอ? แล้วก็ ข้าได้เคยเตือนเจ้าแล้ว ถ้าไม่อยากได้ลิ้นของเจ้าแล้ว ข้าจะช่วยกรีดให้----" ขณะที่พูด พิชิตวันที่อยู่ในมือของเขาจะชักออกมา
"คุณชายเฉินโปรดไว้ชีวิต"
เสียงผู้หญิงแผ่วเบาดังขึ้น ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวหนึ่งครั้งที่โยนเชือกออกมา พันที่เอวของซู่อวิ๋นซิง รีบดึงนางถอยอย่างรวดเร็ว หลบกระบวนท่านั้นของเฉินซ่าได้
โหลชีหรี่ตาลงเล็กน้อย หุ่นเพรียวสวยสง่าผ่านเข้ามานัยน์ตาของนาง
ชุดที่สวมใส่พริ้วไหว ท่าทางสูงสง่า ผมสีดำเหมือนน้ำตก ไม่ได้ปักปิ่นปักผมใดๆ พาดไว้ด้านหลังอย่างสละสลวย มีเพียงหยกแกะสลักรูปพระจันทร์เสี้ยวหนึ่งชิ้นประดับบนหน้าผาก ติดลงบนหน้าผากเรียบ
คิ้วโก่งๆ สันจมูกเล็กเรียว ริมฝีปากเป็นสีชมพูอ่อนๆ ตาหวานๆ มีรอยยิ้มเล็กน้อยบนริมฝีปาก
นี่คือซู่หลิวอวิ๋น
ซู่หลิวอวิ๋นนางฟ้าหลิวอวิ๋นแห่งเขาเฉินอวิ๋น
โหลชีคิดไม่ถึงว่านางจะแตกต่างจากสิ่งที่ตัวเองคิดไปโดยสิ้นเชิง
น่าหลานฮั่วซินสวยมาก สวยจนทิ้มเข้าไปนัยน์ตาของผู้คน และนิสัยของนางสามารถดูได้จากท่าทางมองออกว่าเป็นคนที่ หยิ่ง ดุ เข้าถึงได้ยาก
ซู่หลิวอวิ๋นกลับไม่ใช่แบบนั้น เพียงแค่ทำหน้าแบบนี้ โหลชีก็เกิดสงสัยขึ้น ก่อนหน้านี้นางเจอกับค่ายลานตาและกลเครื่องจักรที่จะฆ่านาง หรือว่าจะไม่ใช่ลายมือของซู่หลิวอวิ๋น
เพราะว่ามองดูนางแล้ว ไม่เห็นว่านางจะเป็นผู้หญิงที่ต้องการชีวิตของคนอื่นทั้งๆที่ยังไม่เคยพบกันเลย
นางทำให้คนรู้สึกว่านางสง่างามเรียบร้อยมาก สงบมาก อ่อนโยนมาก สวยจนทำให้คนรู้สึกว่าเพียงแค่สงสัยว่านางจะทำเรื่องแบบนั้นก็ถือว่าเป็นการดูถูกนางแล้ว
ซู่หลิวอวิ๋นเดินเข้ามา หันไปหาโหลชีด้วยรอยยิ้ม: "หลิวอวิ๋นได้ยินชื่อเสียงแม่นางมานาน ครั้งนี้โชคดีมากที่ได้เจอ ไม่ทราบว่าแม่นางโหลชียินดีให้เกียรติดื่มกับหลิวอวิ๋นสักจอกหรือไม่?"
โหลชีมองนัยน์ตาของนางไม่เห็นความเกลียดชังเลยแม้แต่น้อย
"อ่อ ใช่ เมื่อครู่นี้หลิวอวิ๋นออกไป เพราะว่ามองเห็นจิ้งจอกม่วงวิ่งออกไป เดิมทีข้าอยากตามมันไป น่าเสียดายจิ้งจอกม่วงวิ่งเร็วจริงๆ ข้าตามไปไม่ทัน ต้องขออภัยจริงๆ..."
น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นขัดจังหวะคำพูดของนาง "ชีชี วู๊วูอยู่นี่"
จ้าวหยุนอุ้มจิ้งจอกม่วงเดินเข้ามา
โหลชีมักคิดว่าสถานการณ์ในตอนนี้ทำให้คนตามไม่ทันเล็กน้อย ดูครึกครื้นไปหรือเปล่า?นางจ้องไปที่เจ้าจิ้งจอกม่วงวู๊วู "วู๊วู เจ้าตายแล้วเหรอ? ไม่ตายยังไม่รีบวิ่งมาอีกนะ!"
เจ้าตัวก่อเรื่อง ไม่รู้ว่าก่อเรื่องยังไงก่อไปจนถึงอริยะมนต์นั่น ยังทำให้นางถูกอริยะมนต์จับได้ว่านางกับจิ้งจอกม่วงเกี่ยวข้องกัน สุดท้ายพวกเขาต่อสู้กันอยู่ข้างในเกือบตาย เจ้ามันเก่งจริง มีความสามารถแอบหนีออกไปข้างนอก ยังวิ่งมาที่ห้องอินทนิลของจ้าวหยุนอีก
สิ่งที่ทำให้นางเศร้ามากขึ้นก็คือ จ้าวหยุนผู้ชายคนนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็เรียกนางว่าชีชี!
นางสัมผัสได้ถึงเจ้าเย็นชาที่อยู่ข้างๆเริ่มแพร่กระจายไอเย็นแล้ว เจ้าเย็นชาจะฆ่าอริยะมนต์ ทั้งสองคนจะต้องมีความแค้นที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อย่างแน่นอน และอริยะมนต์พูดตลอดว่าเขาเป็นลูกนอกคอก ยังทำให้นางสงสัยมากขึ้นอีก พ่อแม่ของเฉินซ่าไม่ใช่สามีภรรยาหรือ? ไม่ใช่ว่าเดิมเป็นสามีภรรยาทั่วไปในพั่วอวี้หรือ?
แต่ว่า คนที่สามารถทำให้อริยะมนต์โกรธจัดได้ จะเป็นคนธรรมดาทั่วไปได้ยังไง?
จู่ๆนางก็รู้สึก นางกับเฉินซ่าอันที่จริงแล้วถือได้ว่าเป็นคนน่าสงสารเช่นเดียวกัน ชะตาชีวิตช่างแปลกเสียจริง
จู่ๆวู๊วูโพล่ออกมาจากอ้อมแขนของจ้าวหยุน กำลังจะกระโดดขึ้นในอ้อมแขนโหลชี เฉินซ่ายื่นมือออกมา คว้ามันไว้พอดี โยนไปด้านหน้า
ตู้เหวินฮุ่ยที่มากับจ้าวหยุนกำลังจะไปรับ ร่างของวู๊วูสามารถพลิกหมุนกลางอากาศได้ และหมุนกลับเข้าไปในอ้อมแขนของโจวเสี่ยวโฉว
ตู้เหวินฮุ่ยหน้าตาธรรมดา ธรรมดาเกินไป
ยังไงโจวเสี่ยวโฉวก็สวย
ทุกคนเงียบ
ซู่หลิวอวิ๋นยิ้มเล็กน้อยพร้อมพูดว่า: "คิดไม่ถึงว่าแม่นางโหลกับนายน้อยจ้าวแห่งโรงพรรณยาจะสนิทกันด้วย"
โหลชีตอบ: "ไม่สนิทกันเลย นี่เพิ่งจะเจอกันครั้งที่สอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ