ซู่อวิ๋นซิงยื่นมาออกมาวางไว้บนที่หน้าผากของสาวใช้: "เจ้าคิดว่าข้าเชื่อหรือ? ไม่แก่ตลอดไปยังไงก็เป็นไปไม่ได้ แต่ว่า สำหรับการรักษารูปร่างหน้าตาถือว่าได้ผล นางหญิงแพศยาซู่หลิวอวิ๋นคนนั้นเคยกล่าวไว้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้โอ้อวดเกินจริงขนาดนั้น แต่ว่าการอาบแสงในระยะยาว เมื่ออายุสี่สิบแต่ยังคงดูเหมือนกับว่าอายุยี่สิบห้าก็สามารถเป็นไปได้"
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ยืดเวลาความแก่ชราและอ่อนแอออกไป แค่นี้ยังไม่เพียงพอหรือ!?
เปลวไฟเกือบจะพุ่งออกมาจากดวงตาของสาวใช้ที่อยู่ในชุดสีฟ้า "คุณหนู พวกเรานำกลับไป ถึงเวลานั้นก็ให้ข้าได้อาศัยบารมีของท่านบ้างนะ!"
"แต่ว่าเจ้าของล้ำค่านี่มาปรากฏอยู่ที่นี่แบบนี้ เจ้าไม่รู้สึกว่ามันแปลกมากหรือ?"
"แปลกแล้วจะยังไง? ยังไงพวกเราสามารถนำกลับไปด้วยก็พอแล้ว คุณหนู ท่านไม่ใช่คนที่กล้าหาญมาโดยตลอดหรอกหรือ? หรือว่ากลัวนางฟ้ามาเห็นหรือ?"
ซู่อวิ๋นซิงสีหน้าไม่มีความสุข "ตอนนี้เจ้าเรียกนางว่านางฟ้า เรียกจนติดเป็นนิสัยแล้วใช่มั้ย?
ซู่หลิวอวิ๋นนางหญิงแพศยาคนนั้น เมื่อตอนเด็กที่เขาเฉินอวิ๋นนางได้แย่งชิงคุณวุฒิของข้าไป ต่อมาภายหลังยังทำให้ท่านพ่อของข้าได้รับบาดเจ็บเพื่อปกป้องนางไม่ให้เกิดเรื่อง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามักจะใช้ข้าเป็นอุปกรณ์การแสดงให้ดูเหมือนว่านางเป็นคนอ่อนโยนใจกว้างรู้บุญคุณคน นางฟ้า? ข้าอยากจะถุย! ถ้าข้าไม่แสร้งทำตลอดหลายปีมานี้ คงจะโดนนางทำร้ายจนตายไปตั้งนานแล้ว! ทำไมข้าต้องกลัวนาง? เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อทุกอย่างพร้อม ก็จะเป็นวันตายของนาง----"
ในเวลานี้อารมณ์ที่แสดงออกมาของซู่อวิ๋นซิงเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นเหยียดหยาม ยังมีความรู้สึกบึ้งตึงและเย็นชา หญิงสาวที่ไหนกันที่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าไม่มีสมอง รู้เพียงแค่ขอยืมชื่อเสียงของลูกพี่ลูกน้องผู้หญิงคนโตไปตะโกนโหวกเหวกตอนดื่ม?
"คุณหนู ข้ารู้ว่าตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาท่านได้รับความไม่เป็นธรรม ยังมีข้าที่คอยอยู่ข้างๆ ท่านนี่นา"
"อืม เจ้าเป็นคนดี รอข้าแย่งชิงชื่อเสียงและตำแหน่งจากนางผู้หญิงแพศยาคนนั้น จะชดเชยให้เจ้าอย่างแน่นอน ตลอดหลายปีมานี้เจ้าเองก็ได้รับความไม่เป็นธรรมไม่น้อย เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะมอบเจ้าให้กับซู่หลิวอวิ๋นคอยปกป้องและดูแลศิษย์น้องชายเล็กคนนั้น เป็นอย่างไร?"
คำพูดเพียงประโยคเดียวก็ทำให้สาวใช้ผู้นั้นถึงกับเบ้าตาแดง อดไม่ได้ที่จะโกรธจนหน้าแดง
หางตาของซู่อวิ๋นซิงเหลือบมองไปยังซากศพแห้งกรังที่อยู่ในมุมมืดนั้น คาดว่าสาวใช้ของตนเองน่าจะมองไม่เห็น นางโน้มเอวลงไปเพื่อมองดูกล่องใบนั้นอย่างละเอียด ถึงแม้ว่าจะเปิดออกแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าด้านล่างของโคมไฟที่สวยงามดวงนั้นมีของสีเงินเส้นหนึ่งที่ผูกมันไว้กับก้นกล้องใบนั้น หากเป็นเช่นนี้แล้วไม่สามารถนำออกมาได้อย่างสิ้นเชิง
นางขมวดคิ้ว มองไปยังผู้ชายที่ตายแล้วคนนั้นทีหนึ่ง แล้วก็มองไปยังสาวใช้ เดินถอยหลังออกมาอย่างเงียบๆ สองก้าว "ถ้าอย่างนั้นไปนำโคมไฟนั้นออกมาก่อน พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ หลังจากนั้นค่อยหารือกันอีกทีว่าจะส่งโคมไฟกลับไปอย่างไร"
สาวใช้พยักหน้า ยื่นมือออกไปหยิบโคมไฟดวงนั้น ทันทีที่ยกขึ้นมา กลุ่มหมอกสีเทาน้ำเงินก็พ่นออกมาทันที บริเวณตั้งแต่คางจนถึงทรวงอกของสาวใช้นั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่พ่นออกมา
เสียงร้องที่น่าเวทนาออกมาจากปากของสาวใช้ "เจ็บมาก! โอ๊ย!"
เสียงร้อนดังฉ่าๆ เสื้อผ้าที่บริเวณคอและทรวงอกของสาวใช้ กำลังถูกกัดกร่อนลงอย่างรวดเร็วขนาดที่ตาเปล่ายังมองเห็น
"คุณหนู ช่วยข้า......"
ซู่อวิ๋นซิงมองดูนางด้วยความตกตะลึง เมื่อได้ยินเสียงร้องของนาง จึงทำให้ตื่นจากความฝันอย่างรวดเร็ว ดึงมีดสั้นออกมา รีบตัดเสื้อผ้าบริเวณหน้าอกของนางออก อยากจะฉีกเสื้อผ้าทิ้ง แต่คาดไม่ถึงว่าพิษนั่นจะลุกลามอย่างรวดเร็ว คาดไม่ถึงว่าจะกัดกร่อนไปถึงด้านในแล้ว นางใช้แรงตัด ถึงแม้ว่าจะฉีกเสื้อผ้าออกแล้ว แต่ก็ได้กรีดบริเวณหน้าอกของสาวใช้จนมีบาดแผลเป็นทางยาว หัวใจของนางเต้นแรง แต่ก็รู้ว่าไม่อาจลังเลได้ รีบใช้มือจับไปที่ผ้าที่ตัดด้วยมืออีกข้างแล้วดึงออกอย่างรุนแรง
"โอ๊ย คุณหนู----"
สาวใช้เกือบจะเป็นลมไปเนื่องจากความเจ็บปวด
เมื่อซู่อวิ๋นซิงได้มองเห็นผ้าผืนใหญ่ที่ตนเองได้ใช้แรงฉีกออกอย่างรุนแรง ก็กรีดร้องออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ และโยนของสิ่งนั้นออกไปราวกับว่าถูกลวกยังไงอย่างนั้น
ในตอนนั้น นางมองเห็นชัดเจนแล้ว ว่าที่ฉีกออกมามันใช่ผ้าผืนใหญ่ที่ไหนกัน! มันคือผิวหนังผืนใหญ่ชัดๆ! เลือดหยดติ๋งๆ น่าสยดสยอง!
นางมองไปยังสาวใช้อย่างสั่นเทา บริเวณทรวงอกของนางเต็มไปด้วยเลือดน่าสยดสยองทั้งแผ่น มองไม่เห็นผิวหนังเลยสักนิดเดียว!
เสื้อผ้าในตอนแรกนั่นถูกกัดกร่อนจนไม่เหลือไปตั้งนานแล้ว สิ่งที่มีดสั้นของนางกรีดออกมาแท้จริงแล้วไม่ใช่ผ้า แต่มันคือผิวหนัง!
"ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ......" ซู่อวิ๋นซิงสั่นเทาไปทั้งตัว ในตอนนี้เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพกยาห้ามเลือดบาดแผลติดตัวมาด้วย รีบหยิบออกมาทันที เปิดฝาออกด้วยมือที่สั่นเทา สาดยาผงทั้งขวดลงไปที่บริเวณหน้าอกของนาง แต่ว่า ขนาดของบาดแผลใหญ่เกินไป ยาผงขวดนั้นก็ไม่เพียงพอ ไม่เพียงพอ นางจี้จุดบนบริเวณร่างกายของสาวใช้ไปหลายจุด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะต้องห้ามเลือดให้ได้
แต่ในเวลานี้ ตั้งแต่บริเวณคอจนถึงทรวงอกของสาวใช้ที่เคยสวยสดงดงามได้กลายเป็นเนื้อที่เต็มไปด้วยเลือดผืนใหญ่แล้ว และเมื่อผสมเข้ากับยาผงสีน้ำตาล กลายเป็นความสยดสยองได้ง่ายๆ
ในตอนนี้ซู่อวิ๋นซิงรู้สึกเสียใจเล็กน้อย
เดิมทีนางคิดเอาไว้ว่าน่าจะมีกลไก ไม่น่าจะหยิบโคมไฟดวงนั้นได้ออกมาอย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีคนตายนั่นด้วย ถ้าหากว่าสิ่งของหยิบได้ง่าย จะมาตายอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร?
แต่ว่าในตอนนั้นนางมีความคิดบางอย่าง บางทีถ้าบอกเรื่องนี้กับสาวใช้แล้ว เกรงว่านางจะเกิดกลัวขึ้นมาจนไม่กล้าหยิบโคมไฟ แล้วถ้าหากว่าไม่ลองก็คงจะไม่มีโอกาสอีกตลอดไปไม่ใช่หรือ?
ดังนั้น นางจึงเก็บความคิดที่โชคดีโดยไม่คาดคิดเล็กๆ เอาไว้
บางทีอาจจะเป็นเพียงแค่กลไกเล็กๆ? บางทีอาจจะได้รับบาดเจ็บแค่เพียงเล็กน้อย?
ยังมีความคิดอีกเล็กๆ อีกอย่างคือ นี่เป็นสาวใช้ของนาง หลายปีมานี้คนที่สามารถเชื่อถือได้รอบๆ ตัวนางก็มีไม่มากนัก ค่อนข้างตามใจสาวใช้คนนี้พอควร บางครั้งก็เกือบจะเหมือนว่านางเป็นดั่งพี่สาวน้องสาว ตอนนี้มีความจำเป็น เดิมทีนางก็ควรจะทำออกมาให้ดีๆ เพื่อตัวเอง
ผลลัพธ์ ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้
ซู่อวิ๋นซิงมองไปยังสาวใช้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว อยากจะร้องไห้ออกมา
หลังจากนี้ นางจะยังสามารถอยู่ข้างกายตนเองเพื่อเป็นธุระให้ตนเองหรือไม่? ทำสาวใช้จนเป็นแบบนี้ คนอื่นจะมองนางอย่างไรกัน? ซู่หลิวอวิ๋นน่าจะอิ่มอกอิ่มใจตายละมั้ง?
ซู่อวิ๋นซิงจิตสังหารปรากฏขึ้นในดวงตาแวบหนึ่ง
แต่ในเวลานี้ นางมองเห็นว่าที่มุมนั้นมีแผ่นกระดานของห้องในเรือยื่นออกมา มีช่องแตกหักที่มีปากแหลมคม ด้านบนนั้นมีเศษผ้าเล็กๆ อยู่ผืนหนึ่ง
สีของเศษผ้าผืนนั้น ทำไมนางมองดูแล้วรู้สึกคุ้นตา?
นางไม่หยิบกล้าโคมไฟนั่นอีกแล้ว เศษผ้านั่นนางนึกออกแล้ว นั่นคงเกี่ยวออกมาจากกระโปรงของใครสักคน ในเมื่อสองคนนั้นมาถึงที่นี่แล้วแต่กลับไม่หยิบโคมไฟโคมไฟงามบวรนี่ไปด้วย นี่ไม่ใช่หมายความว่า พวกเขารู้ว่าแท้จริงแล้วนำออกไปไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ