"ลึกขนาดนี้ จะลงไปอย่างไร?" โหลวซิ่นกล่าวถาม
"เอาอย่างนี้แล้วกัน เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว พักผ่อนที่นี่สักครึ่งคืนก่อน ตอนฟ้าใกล้จะสางค่อยลงไปแล้วกัน" โหลชีกล่าว
"ได้" เฉินซ่าออกคำสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปเอนกายพักผ่อนกันอยู่ใต้แสงไฟ เช่นนี้จะอบอุ่นมากกว่า
เฉินซ่ากับโหลชีพิงอยู่ข้างกำแพง เขาโอบนางเข้าไปในอ้อมแขน กอดเอาไว้ตรงหน้าอก ฝังศีรษะเอาไว้ระหว่างซอกคอของนางแล้วหลับตาพักผ่อน
บางครั้งก็มีเพียงเสียงไส้เทียนแตกเบาๆเป็นครั้งคราว กลางคืน ดูเงียบสงัดมาก
มีเพียงโหลชีที่นอนหลับได้ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่นัก ตรงหน้าเต็มไปด้วยหมอก สายน้ำไหลช้าๆ กลางคืนที่เงียบสงบคลื่นน้ำจะเบามากๆ เรือเล็กสั่นไหวเบาๆ นางเห็นเฉินซ่ากำลังเดินไปทางเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนเรือเล็กคนนั้น
.......
ตำหนักจิ่วเซียว หน้าประตูตำหนักสาม อิงมองดูสาวน้อยที่สวมชุดสีดำทั้งชุดที่อยู่ตรงหน้า "แม่นางเฟยฮวน ดึกดื่นขนาดแล้ว ทำไมท่านถึงยังไม่พักผ่อนอีก?"
สาวน้อยที่บอบบางราวกับดอกไม้สีขาวดอกเล็กๆถึงแม้จะใส่ชุดดำ แต่ผิวขาวราวกับหิมะกลับเปล่งประกายจางๆอยู่ใต้แสงจันทร์ ผิวของนางเรียบลื่นมากๆ ความเรียบลื่นแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้มือไปสัมผัส ใช้เพียงแค่ตามองก็สามารถมองออกมาได้แล้ว
ดวงตาสุกสกาวสดใสคู่หนึ่ง เปล่งประกายแวววาวราวกับแสงที่สะท้อนบนผิวน้ำ
ถึงแม้นางจะไม่ใช่สาวสวยไร้ที่เปรียบ แต่กลับสามารถปลุกเร้าความปรารถนาอยากปกป้องในใจของผู้ชายขึ้นมาได้ ไม่ว่าใครก็อยากจะกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน ดูแลปกป้องอย่างดี
แต่ว่า อิงกลับขวางเอาไว้หน้าประตูตำหนักสาม ไม่ได้มีความหมายว่าจะยอมถอยเพราะความงดงามอ่อนหวานทำให้หวั่นไหวของนางเลยแม้แต่น้อย
สาวน้อยในชุดดำคนนี้ก็คือซีเฟยฮวน
"ใต้เท้าองครักษ์อิง เฟยฮวนนอนไม่หลับ ออกมาเดินเล่นที่สวนดอกไม้ เดินมาถึงที่นี่โดยบังเอิญ แค่คิดว่าฝ่าบาทไม่รู้จะกลับมาเมื่อใด"
"ฝ่าบาทไปครั้งนี้ ไม่ได้บอกไว้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่"
"เช่นนั้น ใต้เท้าองครักษ์อิงได้ส่งจดหมายไปให้ฝ่าบาทแล้วหรือยัง?" ซีเฟยฮวนก้มหน้าลงเล็กน้อย
อิงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า: "เมื่อวานส่งจดหมายออกไป เพียงแต่ว่า ตอนนี้ไม่รู้ว่าฝ่าบาทอยู่ที่ใด ดังนั้น ไม่แน่ใจว่าจดหมายจะถึงมือฝ่าบาทเมื่อไหร่"
"ออ" ดูเหมือนสีหน้าท่าทางของซีเฟยฮวนจะเผยความผิดหวังออกมาเล็กน้อย เห็นก็ทำให้คนอยากจะรีบเข้าไปปลอบโยน ปากของอิงขยับเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
ในดวงตาของซีเฟยฮวนมีประกายความหมายที่ไม่ชัดเจนแวบผ่านไปเล็กน้อย "เช่นนั้น ใต้เท้าองครักษ์อิง เฟยฮวนขอตัวกลับก่อน"
"แม่นางเฟยฮวนเดินทางดีๆ"
อิงมองดูแผ่นหลังของซีเฟยฮวน จู่ๆเทียนอิ่งก็แวบออกมาปรากฏตัวอยู่ข้างกายของเขา กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ: "ข้าไม่ชอบผู้หญิงคนนี้"
"ชิ" อิงกลอกตามองบน "เทียนอิ่ง เมื่อก่อนในสายตาของเจ้าก็ไม่เคยมีผู้หญิงมาก่อนอยู่แล้ว ตอนนี้ในสายตาของเจ้าก็มีแค่โหลชีคนเดียวเท่านั้น นอกจากนางแล้ว ก็ไม่มีผู้หญิงคนไหนดีหรอก"
"คือพระสนมต่างหาก"
เทียนอิ่งเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง
อิงถอนหายใจ "ได้ได้ได้ พระสนม พระสนม" เขากล่าวพึมพำ: "ข้านึกไม่ถึงจริงๆ ผู้หญิงที่ปรากฏตัวขึ้นมาจากไหนไม่รู้ในตอนนั้นจะกลายมาเป็นพระสนมได้......"
ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นคนที่ทำให้ฝ่าบาทละทิ้งสาวงามคนอื่นๆ และมีเพียงแค่พระสนมเพียงคนเดียวคนนั้นอีกด้วย
ไม่รู้ว่าทำไมในใจอิงรู้สึกเศร้าหมอง และจู่ๆอารมณ์ก็หดหู่ขึ้นมา "ก็ไม่รู้ว่าฝ่าบาทกับพระสนมจะกลับมาเมื่อไหร่ หลังจากที่ฝ่าบาทกลับมาแล้ว เห็นแม่นางเฟยฮวน คงจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?"
เทียนอิ่งฮึออกมาคำหนึ่ง: "ใครใช้ให้เจ้าตัดสินใจให้ผู้หญิงคนนั้นอยู่ต่อโดยพลการเองล่ะ?"
"อะไรที่เรียกว่าข้าตัดสินใจโดยพลการ? นางกล่าวถึงความฝัน เรือลำเล็ก แม่นางน้อย ข้าจะไม่ให้นางอยู่ต่อได้หรือ? ความฝันนั่นของฝ่าบาท นอกจากข้ากับเยว่ อวิ๋น ก็มีแต่เจ้าที่รู้ แม้แต่เสวี่ยก็ยังไม่รู้ ในบรรดาพวกเราไม่มีใครพูดออกไปอยู่แล้ว นางบอกว่านางกับฝ่าบาทพบกันบนเรือในความฝันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ข้าจะไม่ให้นางอยู่ต่อได้หรือ?"
สีหน้าของเทียนอิ่งไม่ค่อยน่าดูเล็กน้อย "อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่ว่านางจะเป็นใคร หากพระสนมไม่ชอบใจ นางก็ต้องไสหัวออกไป" เทียนอิ่งกล่าวไป ร่างก็แวบหายกลับเข้าไปในตำหนักสาม
อิงต่อยหมัดไปในอากาศ
เขานึกถึงเชิงเขาจิ่วเซียวเมื่อสามวันก่อน เฟยฮวนในชุดดำ เสื้อคลุมสีแดงพลิ้วไหวในสายลม ควบม้ามาถึงหน้าเขา ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนบานสะพรั่ง กล่าวกับเขาว่า: "ข้าคือเฟยฮวน ที่นี่คือพระตำหนักของพี่ชายหรือ? เฟยฮวนทำตามสัญญาในความฝัน มาหาเขาแล้ว เรือเล็กที่เฟยฮวนมอบให้พี่ชายยังอยู่หรือไม่?"
ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับเรือเล็กนั่นมากแค่ไหน พวกเขาต่างก็รู้ดี ตอนนั้นเสวี่ยชนชั้นวางล้มไปโดนเรือเล็กลำนั้น ฝ่าบาทเกือบจะฆ่านางไปแล้ว และเขาก็รู้ว่าฝ่าบาทตามหาคนที่มอบเรือเล็กให้เขาคนนั้นมาโดยตลอด น่าเสียดายที่ไม่มีข่าวมาตลอด ตอนนี้คนมาถึงที่ด้วยตนเองแล้ว?
ด้วยเหตุผลนี้ ไหนเลยที่เขาจะยังกล้าไล่นางไปอีก?
แม้แต่เสวี่ยที่เคยไม่เห็นโหลชีอยู่ในสายตา กับท่านผู้นี้ก็ยังสุภาพนอบน้อม ถึงแม้ลับหลังจะอิจฉาจนแทบจะเป็นบ้า เห็นนางแล้วก็ยังต้องลดระดับฐานะของตนเองไปเป็นสาวใช้โดยตรง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีท่านนี้อยู่ ฝ่าบาทจะยังสามารถยืนหยัดอย่างแน่วแน่ว่าชาตินี้จะมีเพียงสนมคนเดียวอยู่อีกไหม?
เขาถอนหายใจอย่างแผ่วเบา
และในเวลานี้ ซีเฟยฮวนก็กลับเข้าไปในเรือนรับรองแล้ว สั่งให้สาวใช้สี่คนที่องครักษ์เสวี่ยจัดเตรียมให้นางถอยออกไป ฟังเสียงฝีเท้าของพวกนางไกลออกไป สะบัดแขนเสื้อกวาดเก้าอี้ล้มไปสองตัว
บนใบหน้างดงามคือความโกรธเกรี้ยว
นางเข้ามาในตำหนักจิ่วเซียวได้อย่างราบรื่นแล้วก็จริง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่ตำหนักสามนางก็เข้าไปไม่ได้ด้วยซ้ำ
"ไม่ได้ จะมามัวเสียเวลาไม่ได้ ไม่กลับมาแล้วอย่างไร ข้าก็ยังสามารถรุกล้ำเข้าไปในความฝันของท่านได้อีกครั้ง กระชับความสัมพันธ์กับท่านให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น......"
ใบหน้าของซีเฟยฮวนเปิดเผยรอยยิ้มที่แน่วแน่ว่าจะเอามาให้ได้ เริ่มจัดเตรียมโต๊ะบูชา วางกระถางธูปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ