ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 335

ไอสังหารหายไปในชั่วพริบตา

เฉินเฉินมองไปทางนาง "ชีชีไม่อยากฆ่านาง?"

"ให้ข้าลองฟังเรื่องของผลไม้สาวงามที่นางพูดถึงดูก่อนว่ามันเป็นอย่างไร" โหลชีเหลือบเห็นแสงที่แวบผ่านในสายตาของฮูหยินไป่ฮัว มุมปากเกี่ยวขึ้นมาเล็กน้อย "แต่ว่า ท่านสามารถทำลายวรยุทธของนางก่อนได้"

ฮูหยินไป่ฮัวจ้องมาทางนางในทันใด: "ไม่ได้! ทำลายวรยุทธข้าแล้วข้าจะไม่......"

ยังไม่ทันพูดจบ เฉินซ่าก็ดีดนิ้วขึ้นมาอย่างแรง สกัดไปโดนจุดชาของนาง "พูดได้ดี ข้าพิจารณาไม่ทำลายวรยุทธเจ้า"

ฮูหยินไป่ฮัวตกใจจนหวาดกลัว ตัวนางเองเดิมทีก็เป็นบุคคลที่อารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอนเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาคนหนึ่ง เมื่อก่อนอยู่ต่อหน้าสาวใช้และสนมชายเคยเป็นเหมือนดั่งราชินี แต่นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า จักรพรรดิแห่งพั่วอวี้องค์นี้จะมีอารมณ์แปรปรวนไม่แน่นอนยิ่งกว่านางเสียอีก พูดไม่ถูกใจเขาคำเดียวก็จะลงมือฆ่า อีกอย่าง วรยุทธของเขาก็แข็งแกร่งจนถึงระดับนี้! ยังมี กระบี่เล่มนั้นอีก กระบี่เล่มนั้นทำให้คนตัวสั่นจริงๆ!

คนส่วนใหญ่มักจะข่มเหงคนดีหวาดกลัวคนชั่ว นางสามารถหยาบคายไม่มีเหตุผลต่อคนอื่นได้ หลังจากที่ได้เห็นท่าไม้ตายของเฉินซ่าแล้วก็ไม่กล้าโอหังอีก

"ข้า ข้าพูด ข้าพูด"

หน้าผากของฮูหยินไป่ฮัวมีเม็ดเหงื่อเล็กๆผุดขึ้นมา ตัวแข็งทื่อยืนอยู่ตรงนั้น น้ำเสียงฟังดูสั่นเทาเล็กน้อย "ข้าบังเอิญได้ยินมาจากคนของลัทธิดอกงู ลัทธิดอกงู ฝ่า ฝ่าบาทเคยได้ยินหรือไม่?"

สายตาของเฉินซ่าไม่แม้แต่จะกวาดตามองไปด้วยซ้ำ เยว่เคยเกือบจะถูกผู้หญิงคนนี้ลากตัวไปเป็นสนมชาย รังเกียจนางมากเช่นกัน "มีอะไรก็พูดมา ลัทธิดอกงู กับเจ้าก็ถือเป็นพวกงูเห็นนมไก่ ไก่เห็นตีนงูอยู่แล้ว มิน่าพวกเจ้าถึงได้สนิทสนมกัน"

ลัทธิดอกงูหนานเจียง ตอนที่อยู่ในทุ่งน้ำแข็งพวกเขาเคยพบครั้งหนึ่ง ลัทธิดอกงูพวกนั้นมีแต่ผู้หญิงทั้งนั้น แต่ละคนงดงามหาที่เปรียบมิได้ แต่งตัวเย้ายวนดึงดูดใจ นุ่งน้อยห่มน้อย รูปร่างดีมีเสน่ห์ ท่วงท่าลีลาไม่จำกัด ถูกใจผู้ชายคนไหน พวกนางยินดีก็สามารถมีความสัมพันธ์กันชั่วคราวได้ ถึงแม้จะอยู่ในหนานเจียงถิ่นกำเนิด ลัทธิดอกงูก็เป็นพรรคที่ทำให้คนรังเกียจเดียดฉันท์ไร้ที่เปรียบพรรคหนึ่งเช่นกัน ระหว่างข้อมือของพวกนางล้วนมีงูพิษหลากสีตัวหนึ่งพันรอบอยู่ โสมมยิ่งกว่าโสเภณีในหอนางโลมเป็นร้อยเท่า หญิงสาวสกุลดีเหล่านั้นย่อมต้องเกลียดชังอยู่แล้ว แม้แต่ผู้ชายก็ไม่แน่ว่าจะชอบกันทุกคน เพราะพวกนางยังมีชี่พิฆาตอยู่ ไม่แน่ว่าในตอนที่กำลังมีความสุขกันอยู่จะโมโหขึ้นมาฉับพลัน แล้วก็ฆ่าเจ้าซะ

ฮูหยินไป่ฮัวต้องการจะส่ายหน้า ถึงได้พบว่าตนเองไม่สามารถขยับได้เลย เลยได้แต่กล่าวว่า: "ความจริงข้ากับพวกนางไม่ได้มีความสนิทสนมกันเท่าไหร่นัก เพียงแต่ว่า ผู้คนในใต้หล้าเรียกข้าว่าฮูหยินไป่ฮัว ในนั้นยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ข้ามีพรสวรรค์ในการจำแนกกลิ่นดอกไม้ บางครั้งพวกนางต้องการให้ข้าช่วยหาดอกไม้ที่งูที่พวกนางเลี้ยงเอาไว้ชอบ ดอกไม้พวกนั้นเอาละอองออกไป รวมเข้ากับงูพิษ เป็นสิ่งที่พวกนางต้องการ ยาที่ดีที่สุดในการฆ่าผู้ชายตอนที่ทำอะไรอย่างนั้นอยู่"

โหลชีมองไปที่สือเฟยครู่หนึ่ง ขัดจังหวะการพูดของนาง: "เจ้าก็พูดเรื่องผลไม้สาวงาม พูดอะไรมากมายขนาดนั้นทำไม?"

"เพคะ พระสนม" ตอนนี้ฮูหยินไป่ฮัวรู้แล้วว่าหากพูดอะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับโหลชีอีกแค่คำเดียว เฉินซ่าจะต้องฆ่านางทันทีแน่นอน ดังนั้นตอนนี้จึงไม่กล้าพูดไปเรื่อยเลย "หนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ เจ้าสำนักของลัทธิดอกงูมาหาข้าด้วยตัวเอง ให้ข้าช่วยนางหาดอกไม้ที่มีความพิเศษหน่อย จากนั้นตอนที่สนทนากันอยู่นางก็เอ่ยถึงผลไม้สาวงามในตำนานขึ้น"

ผลไม้สาวงาม ไม่ใช่ดอกสาวงาม

"ผลไม้สาวงาม หอมสาวงาม ว่ากันว่า ผลไม้สาวงามจะเติบโตในแกนดอกไม้ ทั่วทั้งผลแวววาวราวกับหยก แผ่ซ่านกลิ่นหอมประหลาด เอาผลไม้เม็ดนั้นแช่เข้าไปในสุราดอกท้อสิบปี ผลไม้สาวงามจะละลายไปในสุราดอกท้อ ดื่มสุราจอกนั้นเข้าไป สาวงามจากใบหน้าแดงราวกับดื่ม ดวงตาสดใสราวกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ริมฝีปากบอบบางและสวยงาม ใบหน้าสามารถอยู่ได้นานโดยไม่จืดจาง นอกเหนือจากนี้ ยังสามารถมีกลิ่นหอมประหลาดติดตัวนับจากนั้น กลิ่นหอมนั่นจะพอเหมาะพอดี ทำให้คนเกิดความอยากใกล้ชิดอย่างควบคุมไม่ได้"

ทุกคนได้ยินต่างก็มองหน้ากันไปมา ผลไม้เช่นนี้ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงในใต้หล้าต่างก็ต้องการหรอกหรือ? สามารถทำให้ใบหน้างดงามมากยิ่งขึ้น ยังสามารถต้านทานความเสื่อมโทรมตามกาลเวลา ใครไม่อยากได้?

"ดอกไม้ดอกนั้น ความจริงไม่มีประโยชน์อะไร ที่มีประโยชน์คือผลที่อยู่ในแกนดอกไม้เม็ดนั้น ผลเม็ดนั้นก็คือผลไม้สาวงาม แต่ว่าผลไม้สาวงามหากไม่ได้ใช้ในทันที เก็บรักษาต้องการดอกเดิมของมันด้วย ซึ่งก็คือต้องตัดทั้งดอกลงมา แล้วก็ ต้องขุดหิมะที่ก่อกำเนิดผลไม้สาวงามมาด้วยหนึ่งก้อน แกะสลักเป็นกล่อง ใช้สำหรับเก็บรักษาผลไม้สาวงาม เช่นนี้แล้ว ก็จะรักษาความสดใหม่ของผลไม้สาวงามเอาไว้"

โหลชีฟังอย่างจิ๊ปากชื่นชมความอัศจรรย์ของมัน เข้าไปมองดูดอกไม้นั่นใกล้ๆ ดอกไม้นั่นสวยมาก เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าในแกนดอกไม้ยังสามารถเกิดเป็นผลขึ้นมาได้เม็ดหนึ่ง

นางยื่นนิ้วมือออกไป ค่อยๆเปิดกลีบที่มีอยู่ในแกนดอกไม้ออก เห็นผลที่ขาวเนียนราวกับหยกจริงๆ กึ่งโปร่งแสง ข้างในยังมีเส้นสีขาวของผลไม้อยู่เล็กน้อย กลิ่นหอมประหลาดกระทบจมูก

ผลไม้นี้สวยงามมาก คิดไม่ถึงว่ายังมีคุณประโยชน์เช่นนั้นด้วย

เฉินซ่าหยิบพิชิตวันออกมา ขุดไปที่หินก้อนใหญ่ที่ถูกขนานนามว่าเป็นหินหิมะพวกนั้นออกมาก้อนหนึ่ง เพิ่มกำลังภายในเข้าไปเล็กน้อย พิชิตวันตัดหินราวกับการหั่นเต้าหู้ ชั่วครู่เดียวกล่องหินง่ายๆก็ถูกสลักออกมา

จากนั้นก็กล่าวกับโหลชี: "เด็ดดอกไม้"

เขาไม่ได้มีความเกรงใจเลย

โหลชีก็เป็นคนไม่เกรงใจเช่นกัน แต่ว่า นางก็ยังอดเหล่มองเขาครู่หนึ่งไม่ได้: "ทำไม ท่านรังเกียจว่าตอนนี้ข้ายังสวยไม่พอหรือ?"

เขาไม่เคยคิดรังเกียจว่านางสวยไม่พอมาก่อน ในความเป็นจริง ในสายตาของเขาโหลชีงดงามมากที่สุด ผู้หญิงคนอื่นๆในสายตาของเขาล้วนมีการแสดงออกที่แข็งทื่อล้าสมัย ในสายตาของเขามีเพียงแต่โหลชีเท่านั้นที่มีชีวิตชีวา เขาเห็นเพียงรอยยิ้มของนางความโกรธของนางเท่านั้น จะรังเกียจคิดว่านางสวยไม่พอได้อย่างไร?

เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย "เจ้าไม่เอา?"

โหลชีหัวเราะคิกคักขึ้นมาทันที: "จะเป็นไปได้อย่างไร ตัวเองไม่กินก็สามารถเอาไปประมูลขายได้นี่นา"

นางชอบสภาวะสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ของตนเองมาก หากกินผลไม้นี้แล้วจู่ๆก็สวยสดใสขึ้นเล็กน้อย ตัวนางเองอาจจะรู้สึกยอมรับไม่ได้เล็กน้อย

แต่ว่า ของสิ่งนี้มีคนอยากได้มากมาย หากนางเอาไปประมูลขาย นั่นต้องเป็นเงินจำนวนมหาศาลแน่นอน

ผู้หญิงคนหนึ่งได้ของแบบนี้ยังคิดจะขายทิ้ง คาดว่าคงมีแค่นางเท่านั้น

ฮูหยินไป่ฮัวได้ยินคำพูดประโยคนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว "พระสนม หากพระสนมไม่ต้องการ ขายให้ข้าได้หรือไม่?"

"ไม่ขาย" โหลชีเด็ดดอกไม้ ใส่เข้าไปในกล่องหินหิมะอันนั้น ยัดเข้าไปในถุงผ้าที่ตนเองใส่ปิ่นระย้าหงส์สีรุ้งอันนั้น

ตอนนี้ถุงผ้าใบนี้ล้ำค่ามากยิ่งนัก

"เอ๋? แม่นาง ที่นี่มีกล่องเด้งออกมาใบหนึ่ง"

จู่ๆกำแพงหินข้างกายของเฉิงสิบก็มีกล่องเด้งออกมาใบหนึ่ง กล่องใบหนึ่งดูแล้วก็น่าจะเป็นกล่องที่แกะสลักออกมาโดยตรงจากหินหิมะที่เอาออกมาจากที่นี่เช่นกัน

เขาหยิบกล่องใบนั้นออกมา ยื่นให้กับโหลชี

โหลชีรับมาแล้วเขย่า ข้างในดูเบาๆว่างๆ น่าจะเป็นแค่พวกจดหมายอะไรทำนองนั้น

นางเปิดออกมาดู ข้างในคือผ้าไหมสีขาวที่พับเอาไว้ผืนหนึ่ง

"คิดว่า นี่เป็นสิ่งที่ผู้วางค่ายกลทิ้งเอาไว้" เฉินซ่ามองดูครู่หนึ่ง

โหลชีหยิบผ้าไหมสีขาวนั่นขึ้นมา ลังเลไม่ถึงสองวินาที ก็เปิดผ้าไหมออก ข้างในมีตัวอักษรที่เขียนด้วยหมึกสีทองสองสามบรรทัด แค่เห็นลายมือก็รู้แล้วว่าผู้ชายเป็นคนเขียน แข็งแรงมีพลัง

ผู้ที่สามารถเข้าถ้ำหินขาวแห่งนี้ได้ ต้องเป็นทายาทของตระกูลซวนหยวนข้าแน่ ซวนหยวนจ้านมีคำขอข้อหนึ่ง โปรดส่งผลไม้สาวงามไปยังตระกูลโหล มอบให้กับฮูหยินน้อยโหลหยุนโยว มอบตำรากระบี่หนึ่งเล่มเป็นการตอบแทน

ซวนหยวนจ้าน?

โหลชีมึนงงเล็กน้อย

ซวนหยวนจ้าน ซวนหยวนคง สองคนนี้มีความเกี่ยวข้องอะไรกันไหม? แล้วก็ นางไม่ใช่คนของตระกูลโหลหรือ? ฮูหยินน้อยตระกูลโหลหยุนโยว โหลฮ่วนเทียนบอกแล้ว หยุนโยวคือชื่อของท่านแม่พวกเขา เช่นนั้น พ่อของเขาน่าจะเป็นคุณชายตระกูลโหลนี่นา ทำไมถึงมีซวนหยวนจ้านโผล่มาอีกคน?

หรือว่า ท่านแม่ของนางไม่ได้รักท่านพ่อของนาง แต่รักซวนหยวนจ้านคนนี้ สุดท้ายสองคนรักกันแต่กลับไร้วาสนา ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้? ไม่ถูก ปิ่นระย้าหงส์สีรุ้งก่อนหน้านั้น เจ้าน้อยโหลฮ่วนเทียนบอกว่าเป็นของขวัญที่พ่อเขามอบให้ไม่ใช่หรือ? ตอนที่ท่านแม่นางอุ้มนางไปดูเซวี่ยนจื่อ บอกว่าเดิมทีพ่อนางต้องการจะวาดภาพของนาง ฟังจากน้ำเสียงของนาง ดูจากดวงตาที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มคู่นั้น เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับพ่อของนางนี่นา

ยังมีอีกข้อหนึ่ง ปิ่นระย้าหงส์ ของแบบนี้โดยทั่วไปมีเพียงฮองเฮาที่ใส่กันไม่ใช่หรือ? ฮูหยินน้อยคนหนึ่งของตระกูลโหล สามารถใส่ปิ่นระย้าหงส์เก้าหางหรือ?

อีกข้อหนึ่ง เมื่อก่อนตอนที่นางฝันเห็นนักพรตเลว เขาเคยสวมเสื้อคลุมมังกรสีเหลืองสดใส ลักษณะเช่นนั้นเหมือนจะเป็นฮ่องเต้ หรือว่าตระกูลซวนหยวนจะเป็นราชวงศ์?

ชั่วขณะหนึ่ง โหลชีรู้สึกว่าสมองใกล้จะไม่พอใช้แล้ว สถานการณ์มันซับซ้อนเกินไปหน่อยไหม?

แต่ว่า หากผลไม้สาวงามผลนี้จะมอบให้กับท่านแม่ของนาง นางก็สามารถที่จะช่วยได้ แต่ก็ยังต้องดูสถานการณ์ในภายภาคหน้าด้วย ตระกูลโหลนั่น ท่านแม่ของนาง เป็นอย่างไร นางยังไม่รู้ชัดเจนเลย

"ตระกูลโหล เจ้าต้องไปสักครั้งแล้ว" เฉินซ่ามองดูผ้าไหมนั่นพร้อมกับนาง พอเห็นนางตะลึงงันไม่พูดอะไรหลังจากที่เห็นมัน ก็ลูบหัวของนางแล้วกล่าวเสียงเบาขึ้นมา

โหลชีพยักหน้า

"รอให้ทางพี่ใหญ่มีผลสรุปออกมาแล้วค่อยว่ากันเถอะ"

โหลฮ่วนเทียนบอกแล้วว่าถึงเวลาที่ผลสรุปออกมาแล้ว เขาจะรีบควบม้าเร็วลงแส้เร่งไปหานางที่พั่วอวี้ด้วยตัวเอง

ใต้ผ้าไหมก็คือตำรากระบี่เล่มหนึ่ง ตัวอักษรสี่ตัวที่อยู่ข้างบนทำให้ดวงตาของโหลชีเป็นประกายขึ้นมาทันที

เพลงกระบี่สังหารเทพ

เฉินซ่าเลิกคิ้ว "ของดี"

"ท่านเคยได้ยิน?"

เฉินซ่าเปลี่ยนมาส่งกระแสจิต: "เพลงกระบี่สังหารเทพคือเพลงกระบี่ชุดหนึ่งในตำนาน ดูเหมือนว่าไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน แต่ว่าผู้คนมากมายต่างก็กล่าวกันอย่างมั่นใจว่า นี่คือเพลงกระบี่ที่ดีที่สุด หากสามารถจับคู่กับกระบี่ดีๆ เช่นนั้นเพลงกระบี่ชุดนี้ก็จะไร้ผู้ต่อกรในใต้หล้า"

โหลชียัดตำรากระบี่เล่มนั้นเข้าไปในอกของเขาทันที

"หืม?" เขามองดูนาง

"ข้าไม่ได้ฝึกกระบี่ ท่านมีกระบี่อยู่พอดี ให้ท่านฝึกแล้วกัน"

"ได้" เฉินซ่าก็ไม่ได้เกรงใจต่อนาง นางเป็นของเขา เขาเป็นของนาง เขารู้สึกว่าแบบนี้ดีที่สุด รู้สึกสบายใจอย่างมาก

ได้ตำรากระบี่เล่มนี้ คือผลตอบแทนที่ดีที่สุดที่พวกเขาคิดเอาไว้แล้ว

ถ้ำหินขาวแห่งนี้ ดูท่าจะแค่มอบของล้ำค่าเท่านั้นจริงๆ ไม่มีอันตรายแม้แต่น้อยจริงๆ

"ข้าพูดออกไปหมดแล้ว สามารถปล่อยข้าไปได้แล้วใช่ไหม?" ฮูหยินไป่ฮัวตะโกนขึ้นมา

"เสี่ยวเซี่ยวล่ะ?" โหลชีกล่าวถาม

"เจ้าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นหรือ? ข้าไม่ได้ฆ่านางสักหน่อย ตอนที่เราจากมาข้าจับนางยัดเข้าไปในตู้ไม้ขนาดใหญ่ในบ้านของพวกเขาก็เท่านั้นเอง"

สือหมินจีโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แต่ทันทีที่หลังจากนั้นก็กังวลขึ้นมา "นี่ถ้าหากไม่มีคนพบนาง หรือว่านางยังไม่ได้สติ เช่นนั้นนางจะหายใจไม่ออกหรือไม่ก็อดตายหรอกหรือ? ไม่ได้ไม่ได้ เร็วเข้า เราต้องรีบออกไป!"

......

ออกจากถ้ำหินขาวแห่งนี้ง่ายดายมาก เพราะด้านล่างของผ้าไหมมีการทำเครื่องหมายทางออกกับกลไกเอาไว้แล้ว แต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่า ทันทีที่ออกมาก็เห็นน้ำพุวิเศษเลย!

แล้วก็ ต้นผลไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากน้ำพุวิเศษต้นนั้น

เพียงแต่ว่า สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงคือ ใต้ต้นผลไม้ต้นนั้น นกอินทรีกลายพันธุ์ที่ล้มอยู่บนพื้นไม่ขยับเขยื้อนตัวนั้น ยิ่งกว่านั้น ปีกข้างหนึ่งของมันหักไปครึ่งหนึ่ง เลือดไหลไม่หยุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ