ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 334

"ไม่ว่าจะมีอันตรายหรือไม่ต้องเข้าไป"

โหลชีถือพิชิตวันเอาไว้ มือข้างหนึ่งฟันขวางออกไป เถาวัลย์สีเขียวที่กีดขวางอยู่ตรงหน้าถูกตัดลงมาทันที ร่วงหล่นอยู่บนพื้น พวกเขาเห็นสถานการณ์ที่อยู่ข้างใน

"ไป" เฉินซ่าจูงมือนางเดินเข้าไป

ถ้ำหินสีขาว ทั่วทั้งถ้ำเต็มไปด้วยหินสีขาว ไม่มีสิ่งเจือปนใดๆเลย หินทั้งหมดล้วนขาวเนียนราวกับหยก และบนหินก้อนหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง มีพืชสีขาวงอกขึ้นมาต้นหนึ่ง มีกิ่งก้านและใบที่เป็นสีขาว ดอกสีขาวราวกับดอกโบตั๋นราชาแห่งดอกไม้ดอกหนึ่ง แต่ว่า เมื่อมองดูอีกที กลีบดอกของมันความจริงไม่ได้เป็นสีขาวที่แท้จริง แต่ว่าเป็นสีขาวกึ่งหนึ่ง โปร่งแสงกึ่งหนึ่ง แกนของดอกไม้กำลังแตกหน่อแต่ยังไม่เบ่งบาน กลิ่นหอมแรงแบบนั้นแผ่ซ่านมาจากตรงนั้น

เหนือศีรษะ มีช่องเล็กๆสองสามช่อง มีแสงส่องเข้ามาจากช่องพวกนั้น เกิดเป็นเสาแสงจางๆหลายเสาในถ้ำหินสีขาวแห่งนี้ แต่กลับไม่ได้สาดส่องไปยังดอกไม้จริงๆ

"ช่างเป็นถ้ำที่พิเศษ ดอกไม้ที่พิเศษจริงๆ" โหลชีมองดูดอกไม้นั่น ถึงแม้ตาจะเป็นประกาย แต่ไม่ได้กระโจนเข้าไปขุดดอกไม้ในทันที

ไม่มีใครขยับเลย

กลับเป็นภรรยาของสือหมินจีที่มองดูดอกไม้นั่นอย่างลุ่มหลงเล็กน้อย

"มีแสง เวลาที่ฝนตกน้ำฝนก็สามารถหยดลงมาได้ แต่มันจะไม่สัมผัสกับดอกไม้นั่นโดยตรง เพราะหินสีขาวเหล่านี้เดิมทีก็สามารถกักเก็บแสง กักเก็บน้ำด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว จากนั้นดอกไม้นั่นก็จะค่อยๆดูดซึมช้าๆ" เฉินซ่ากล่าวอย่างราบเรียบ

ดวงตาของโหลชีที่มองดูเขากลายเป็นรูปหัวใจทันที: "นายท่านช่างมีความรู้!"

เฉินซ่าอดที่จะอยากดีดหน้าผากของนางไม่ได้

เวลานี้ จู่ๆร่างของเฉิงสิบก็แวบไปขวางอยู่ตรงหน้าดอกไม้ต้นนั้น มองดูภรรยาของสือหมินจี "เจ้าจะทำอะไร?"

พวกเขาถึงได้พบว่าภรรยาของสือหมินจีเข้ามาใกล้กับดอกไม้ต้นนั้นมากแล้ว

สือหมินจีมองดูนางอย่างตกตะลึง "เสี่ยวเซี่ยว นี่เจ้าจะทำอะไร?"

เสี่ยวเซี่ยวก้มหน้าลง กล่าวขึ้นมาอย่างขลาดกลัว: "ไม่ ไม่มีอะไร ข้าแค่อยากจะดูดอกไม้ดอกนั้น ดอกไม้ดอกนั้นสวยงามมาก"

เวลานี้หลูต้าลี่ก็กล่าวเสียงดังขึ้นมา: "ตอนที่เราเข้ามา ผู้นำเผ่าอาวุโสได้กล่าวเอาไว้แล้ว ของล้ำค่าที่อยู่ข้างในนี้ล้วน ล้วนเป็นของแม่นางของเราทั้งนั้น พวกเจ้าห้ามมาแย่งนะ หากพวกเจ้ากล้าแย่ง ข้าก็กล้าต่อยพวกเจ้าให้ตายในหมัดเดียว!" พูดจบ เขายังยกกำปั้นขึ้นมาแล้วเป่าไปหนึ่งที

ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสอนท่านี้ให้เขา

แต่ว่า สำหรับพฤติกรรมที่ปกป้องสมบัติเช่นนี้ของเขา โหลชีแสดงออกว่ายังต้องกดไลก์ให้เขา ถูกต้อง ควรต้องเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ผู้นำเผ่าอาวุโสรับปากไว้แล้ว สิ่งที่อยู่ข้างในนี้สามารถให้พวกเขาได้

เวลานี้ จู่ๆเสี่ยวเซี่ยวก็เงยหน้ามองไปทางเฉินซ่า: "ฝ่าบาท ข้าน้อยต้องการแค่ดอกไม้ดอกนี้ ดอกไม้ดอกนี้ให้ข้าน้อยได้ไหม?"

เฉินซ่าเหลือบมองนางครู่หนึ่ง

"พระสนม ดอกไม้นี้ให้ข้าน้อยได้หรือไม่? ได้ยินมาว่า ดอกไม้นี้กินแล้วดีต่อทารกในครรภ์มาก ตอนนี้พระสนมยังไม่ตั้งครรภ์ ให้ข้าน้อยก่อนได้หรือไม่......"

นางพูดไป ก็คุกเข่าลงไปด้วย

โหลชีมองดูนาง จู่ๆในดวงตาก็ประกายแวบขึ้นมา

เสี่ยวเซี่ยวที่คุกเข่าลงไปยังดึงแขนเสื้อของสือหมินจีให้เขาก็คุกเข่าลงมาอ้อนวอนขอความเมตตาด้วย และสือเฟยที่เดิมทียังคงนอนหลับอยู่บนหลังของสือหมินจี เวลานี้ก็สะดุ้งตกใจ ตื่นขึ้นมาในทันที

ดูออกได้ว่า สือหมินจีรักและตามใจลูกเมียมากมาตลอด ถึงแม้บนใบหน้าของเขาจะเผยสีหน้าของความสับสน แต่ก็ยังทำตามคำพูดของนาง แบกสือเฟยเอาไว้ก็คุกเข่าลงไปด้วย หลังจากที่คุกเข่าลงไปแล้ว เขาก็มองไปทางเสี่ยวเซี่ยว อดที่จะกล่าวถามไม่ได้: "เสี่ยวเซี่ยว เจ้ารู้จักดอกไม้แบบนี้หรือ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน?"

เสี่ยวเซี่ยวก้มหน้าเอาไว้แล้วกล่าวว่า: "ท่านก็ต้องไม่เคยได้ยินอยู่แล้ว ดอกไม้ดอกหญ้า พวกท่านผู้ชายจะมีความสนใจที่ไหนกัน แต่ว่า หมินจี ดอกไม้แบบนี้กินแล้วดีต่อทารกในครรภ์จริงๆนะ"

ดวงตาของสือหมินจีเป็นประกายขึ้นมา: "จริงหรือ?"

"อืม"

สือหมินจีหันไปทางเฉินซ่ากันโหลชีทันที หัวคารวะลงไปบนพื้นทันที: "ขอฝ่าบาทกับพระสนมได้โปรดช่วยให้สมปรารถนา! ให้ดอกไม้ดอกนี้กับภรรยาของข้าได้หรือไม่?"

เฉินซ่ายังคงแสดงออกอย่างเย็นชาไม่แยแสเหมือนเดิม โหลชีกลับเลิกคิ้ว ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน

จู่ๆเสี่ยวเซี่ยวก็กุมท้องเอาไว้กะทันหัน ร้องออกมาคำหนึ่งด้วยใบหน้าซีดเผือด "ปวดท้องจังเลย......"

สีหน้าของสือหมินจีเปลี่ยนไปทันที ประคองเอาไว้ด้วยความกังวล: "เสี่ยวเซี่ยว เสี่ยวเซี่ยวเจ้าเป็นอะไรไป?"

พ่อเฒ่าสืออุ้มสือเฟยลงมาจากหลังของสือหมินจี มองดูลูกสะใภ้ด้วยสีหน้ากังวลเช่นกัน

เสี่ยวเซี่ยวกล่าวออกมาอย่างไม่สามารถเก็บซ่อนความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าเอาไว้ได้: "หมินจี หมินจีข้าปวดท้อง......ข้ากลัวจริงๆ ข้ากลัวว่าจะปกป้องลูกในท้องไม่ได้......"

"เช่นนั้น เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี? เป็นเพราะว่าเมื่อวานตกลงไปในแม่น้ำเลยกระทบกระเทือนต่อเด็กในครรภ์หรือเปล่า?" สือหมินจีกังวลจนหน้าผากเหงื่อแตก

โหลชีเดินไปทางพวกเขา "ไม่งั้น ให้ข้าลองตรวจเสี่ยวเซี่ยวดูหน่อยไหม มากน้อยข้าก็พอจะมีทักษะทางการแพทย์อยู่บ้าง"

"ไม่!" จู่ๆเสี่ยวเซี่ยวก็ตะโกนขึ้นมาคำหนึ่ง ทุกคนต่างก็พากันมองไปที่นาง แล้วนางก็รีบร้อนอธิบาย "ข้าน้อย ความหมายของข้าน้อยคือ พระสนมฐานะสูงส่ง จะ จะลดตัวมาตรวจให้ข้าน้อยได้อย่างไร? พระสนมจะประทานดอกไม้ดอกนั้นให้ข้าน้อยได้หรือไม่? กินดอกไม้ดอกนั้นเข้าไป ลูกในครรภ์ของข้าน้อยจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน"

จู่ๆโหลชีก็เอามือกอดอกขึ้นมา เอียงหน้าเล็กน้อยแล้วมองดูนาง: "จริงหรือ? กินดอกไม้แล้วก็จะไม่เป็นไรหรือ?"

"จริงๆ ดอก ดอกไม้ดอกนี้มีชื่อว่าดอกบำรุงครรภ์......"

"พุด" โหลชีอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ "ดอกบำรุงครรภ์?"

สือหมินจีใบหน้าแดงก่ำ "พระสนม ในเวลาแบบนี้ทำไมท่านถึงยังหัวเราะออกมาได้อีก? หรือว่าท่านไม่มีความเห็นอกเห็นใจบ้างเลยหรือ? เสี่ยวเซี่ยวตั้งครรภ์ลูกคนที่สองไม่ใช่ง่ายๆ ตอนนี้ก็ปวดท้องอีก ดอกไม้นั่นไม่มีประโยชน์สำหรับท่าน ท่านจะให้นางกินไม่ได้เชียวหรือ?"

แน่นอนว่าหากนางไม่ให้ ก็จะเป็นบาปมหันต์

"สนมรักของข้า ไหนเลยที่จะให้เจ้ามาตำหนิได้?" เสียงเย็นชาของเฉินซ่าค่อยๆดังขึ้นมา "ภรรยาของเจ้าปวดท้องหรือไม่ปวดท้อง เกี่ยวอะไรกับนาง?" เขามองไปทางโหลชี เสียงอ่อนโยนลงมามากอย่างเห็นได้ชัด: "หากชีชีไม่ชอบดอกไม้นั่น ข้าเหยียบมันให้เจ้าเป็นเช่นไร?"

โหลชีปรบมือแล้วก็หัวเราะขึ้นมา: "ไม่ต้องเหยียบทิ้ง ข้าสามารถเด็ดลงมาให้วู๊วูเล่นได้"

"ฝ่าบาท พระสนม พวกท่าน ทำไมพวกท่านถึงทำเช่นนี้ ยอมที่จะทำลายดอกไม้ก็ไม่ยินดีที่จะมอบให้เสี่ยวเซี่ยวหรือ?"

โหลชีกะพริบตาแล้วกล่าวว่า: "ใช่ เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าไม่ยินดีจะมอบดอกไม้ให้กับนาง"

เสี่ยวเซี่ยวนั่นหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ดูท่าทางคงโกรธไม่เบา ถึงเวลานี้ในที่สุดก็ทนไม่ไหว สะบัดมือของสือหมินจีออกแล้วกระโดดขึ้นมาทันที จ้องมองโหลชีด้วยความโกรธเกรี้ยว ดวงตาแดงก่ำ ตะโกนขึ้นมา "โหลชี! ทำไมเจ้าถึงจงใจหาเรื่องกับข้าตลอดเลย? ห๊า?"

การกระทำที่เปลี่ยนไปกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ทุกคนต่างก็ตอบสนองกลับมาไม่ทันเล็กน้อย

นางตะโกนต่อไปอีกว่า: "ก่อนหน้านี้ผู้ชายที่ข้าถูกใจคนนั้น เจ้าก็เอาตัวเขาไป! ใช่ เจ้านั่นแหละ เจ้าอย่านึกว่าข้าไม่รู้ เจ้านั่นแหละที่เป็นคนช่วยไป!" นางชี้ไปทางเยว่

โหลชีนึกถึงครั้งนั้นเยว่โดนกู่ถูกสาวใช้คนหนึ่งของฮูหยินไป่ฮัวที่ชื่อเสี่ยวเหลียนพากลับไปเตรียมจะให้ไปเป็นสนมชายของฮูหยินไป่ฮัว อดที่จะกระตุกมุมปากขึ้นมาไม่ได้ เหล่มองเยว่อย่างล้อเลียนครู่หนึ่ง

เห็นได้ชัดว่าเยว่ก็นึกถึงเรื่องในครั้งนั้นเช่นกัน สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย "เจ้าไม่ใช่ภรรยาของสือหมินจี เจ้าคือฮูหยินไป่ฮัว?"

"อะไรนะ? ไม่ใช่เสี่ยวเซี่ยว?"

โหลวซิ่นดึงพ่อเฒ่าสือและสือเฟยถอยออกไปแล้ว สือหมินจีก็ลุกยืนขึ้นมา มองดูภรรยาของตนเองอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา "ไม่ใช่เสี่ยวเซี่ยว เป็นไปได้อย่างไรกัน?"

"เสี่ยวเซี่ยว" เช็ดไปบนใบหน้าสองครั้ง ตอนที่วางมือลงมาใบหน้านั้นก็เปลี่ยนไปเป็นอีกหน้าหนึ่ง นั่นคือฮูหยินไป่ฮัวจริงๆ

ในความงดงามมีท่วงท่าสง่างามเล็กน้อย ในสายตากลับเต็มไปด้วยความโกรธ นางจ้องมองโหลชี "ถูกต้อง ข้าคือฮูหยินไป่ฮัว! โหลชี ต่อมาข้าก็ถูกใจผู้ชายที่อยู่ข้างกายเจ้าคนนั้นอีก เขาดูดีมากจริงๆ คิ้วนั่น สายตานั่น จมูกนั่น ริมฝีปากนั่น แม้กระทั่งคางก็ยังดูดีสุดๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาสูงใหญ่ กำยำ รูปร่างนั่นแค่เห็นก็ทำให้คนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว......" ฮูหยินไป่ฮัวมองดูเฉินซ่า ในดวงตาเผยความลุ่มหลงออกมาเล็กน้อย จู่ๆก็จ้องมองไปทางโหลชีด้วยความโกรธอีกครั้ง "แต่ว่า ผู้ชายคนนี้ก็เป็นของเจ้าเช่นกัน!"

เยว่เหงื่อตก อะไรที่เรียกว่า "เป็นของนางเช่นกัน" ? เขาไม่ใช่นะ!

"จักรพรรดิแห่งพั่วอวี้ ข้ารู้ จะกินเขา มันยาก ข้ายอมแพ้แล้ว ผู้ชายดีๆขนาดนี้ให้ข้ายอมแพ้ เจ้ารู้หรือเปล่าว่ามันทุกข์ทรมานแค่ไหน?"

"เช่นนั้นเจ้าก็แกว่งเท้าหาเสี้ยนจริงๆนั่นแหละ" โหลชียักไหล่

"ข้าละทิ้งผู้ชายสองคนนี้ บังเอิญได้ยินมาว่าในเขตต้องห้ามของเผ่าชักมังกรมีผลไม้สาวงาม ตอนนี้เจ้าก็โผล่มาแย่งกับข้าอีก!"

"ผลไม้สาวงาม?" โหลชีจับสามคำที่สำคัญที่สุดในคำพูดของนางเอาไว้ ผลไม้สาวงาม คงไม่ใช่ดอกไม้ดอกนั้นหรอกนะ? นั่นคือดอกไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงกลายเป็นผลได้?

จู่ๆสือหมินจีก็กระโจนไปทางฮูหยินไป่ฮัว: "เจ้าทำอะไรกับเสี่ยวเซี่ยว? เจ้าเอานางไปไว้ไหนแล้ว!"

ฮูหยินไป่ฮัวสะบัดมือ สือหมินจีก็ถูกโยนออกไปทันที ร่างกายกระแทกกับก้อนหิน เสียงพุดดังขึ้นพร้อมกับกระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ

"ท่านพ่อ!" สือเฟยตะโกนเสียงดังขึ้นมา พ่อเฒ่าสือรีบพาเขาวิ่งไปทางสือหมินจี แล้วประคองเขาลุกขึ้นมา

"ท่านพ่อ นั่นไม่ใช่ท่านแม่หรือ? ทำไมหน้าตาท่านแม่ถึงเปลี่ยนไป? ทำไมท่านแม่ถึงได้ทำร้ายท่านพ่อ?" สือเฟยร้องไห้ออกมา

ฮูหยินไป่ฮัวขมวดคิ้ว ดุออกมาคำหนึ่ง: "หนวกหูจริงๆ! ถ้าร้องไห้อีกข้าจะฆ่าเจ้าซะ!" โหลวซิ่นกับหลูต้าลี่รีบบังอยู่ข้างหน้าครอบครัวสามคนนั้นทันที

"เผ่าชักมังกรช่างเป็นพวกโง่เง่าโบราณคร่ำครึที่ไม่รู้จักการยืดหยุ่นจริงๆ แม้แต่สือหมินจีคนนี้ หน้าตาก็พอใช้ได้ ข้าอุตส่าห์แต่งตัวเป็นเมียของเขาแล้ว อยากจะพลิกฟ้าคว้าฝนหลับนอนกับเขาครั้งหนึ่ง เขายังบอกว่าจะทำร้ายเด็กในท้องไม่ได้ ฮ่าๆๆ ช่างตลกจริงๆ" ฮูหยินไป่ฮัวเงยหน้าหัวเราะขึ้นมา

เฉิงสิบกับโหลวซิ่นได้ยินคำพูดประโยคนี้หูก็แดงขึ้นมาเล็กน้อย

สือหมินจีก็ยิ่งทั้งโกรธทั้งเกลียดทั้งอับอายแล้วก็กระอักเลือดออกมาอีกหนึ่งคำ

โหลชีเบ้ปาก ขัดจังหวะการพูดของนาง: "ข้าว่า เจ้าจะพูดเรื่องไร้ประโยชน์มากมายขนาดนี้ไปทำไม? ถ้าอย่างไรก็บอกข้ามาดีกว่า ว่าอะไรคือผลไม้สาวงาม"

"ผลไม้สาวงามเจ้ายังไม่รู้ จิ๊จิ๊ พระสนม? ข้ายังไม่เคยเห็นจริงๆ พระสนมที่ยังเป็นสาวบริสุทธิ์......" คำพูดของนางยังไม่พูดไม่ทันจบ ลมฝ่ามือที่ดุเดือดรุนแรงก็ตบไปทางหัวของนางทันที ไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย! ทันทีที่ร่างกายของเฉินซ่าขยับ กระบี่เล่มนั้นก็ออกมาจากฝักแล้ว จิตสังหาร จิตสังหารที่เย็นยะเยือกปกคลุมไปทั่วทั้งถ้ำหินสีขาวแห่งนี้ในทันที

สีหน้าของฮูหยินไป่ฮัวเปลี่ยนไปอย่างมาก "นี่ นี่คือกระบี่อะไร?"

"คำพูดของเจ้า มากเกินไปแล้ว" เฉินซ่ากล่าวออกมาอย่างเย็นชา ปลายกระบี่ปาดผ่าน นำมาซึ่งหมอกดำที่หนาทึบ

ในใจฮูหยินไป่ฮัวรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา เพราะนางสัมผัสได้ว่า นางกำลังจะตายแล้ว นางจะต้องตายด้วยกระบี่เล่มนี้แน่นอน เพราะกระบี่เล่มนี้ทำให้นางตัวสั่นสะท้าน

รูม่านตาของนางสะท้อนเงาของกระบี่เล่มนั้น ไอสังหารตรงเข้าไปยังนัยน์ตาของนาง

"อย่า อย่าฆ่าข้า! ข้าสามารถเล่าเรื่องของผลไม้สาวงามให้พวกท่านฟังได้......"

"อย่าฆ่านาง ข้าจะถามว่าเสี่ยวเซี่ยวอยู่ที่ไหน!"

เสียงของฮูหยินไป่ฮัวและสือหมินจีดังขึ้นมาพร้อมกัน

กระบี่ยังคงค่อยๆปาดลงต่อไป แฝงไปด้วยความกดดันที่ทำให้คนสิ้นหวังอย่างหนึ่ง จนกระทั่ง จู่ๆมือของโหลชีก็ยื่นเข้ามากะทันหัน ปิดอยู่บนหลังมือที่ถือกระบี่เอาไว้ของเฉินซ่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ