ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 356

โหลชีมองพวกเขาอย่างเย็นชา คราวนี้สายตานางเย็นเยียบ สีหน้าเย็นชา แผ่รังสีออกมาทั่วร่าง ประดุจราชินีมิแยแสต่อทุกสิ่ง

บนตัวนาง พวกเขาเห็นความร้ายกาจ อาฆาตและความหยิ่งผยองทระนงตน กลับทำให้คนอยากศิโรราบอย่างทนไม่ไหว

ปกตินางอาจจะดูน่ารักขี้เล่น แกล้งโง่ เรียกพวกเขาว่า ใต้เท้าองครักษ์อิง ใต้เท้าองครักษ์เยว่ บางทีนางยังเลือดร้อน ด่าออกมาสองคำ ยังช่วยพวกเขาอย่างสุดความสามารถเมื่อเจออันตราย ดังนั้นในเมื่อยอมรับนาง ซาบซึ้งในบุญคุณนาง ยอมรับนางเป็นพระสนม แต่ในจิตใต้สำนึกของพวกเขานั้น ก็มิได้เห็นนางเป็นเจ้านายระดับเดียวกับเฉินซ่าจริงๆ

ดังนั้นเรื่องของเฟยฮวนนี่ พวกเขาไม่ได้รอบอกนางพร้อมกัน เพียงแค่บอกฝ่าบาทและไม่มีใครคิดด้วยว่านางถือสาไหม

ก่อนหน้าที่โหลชีจะปรากฏตัว พวกเขาไม่คิดเลยสักนิดว่าโหลชีจะถือสา หลังจากนางปรากฏตัวแล้ว ถึงพวกเขาจะแอบร้อนตัวเล็กน้อย แต่ที่จริงแล้วความคิดก็เหมือนกับเฟยฮวนเลย แค่นอนกับสตรีผู้หนึ่งเท่านั้นเอง วิธีแก้กู่เยี่ยงนี้ บุรุษใดบ้างจะไม่ยอม? ต่อให้เพื่อช่วยเฉินซ่า นางก็ไม่ควรห้ามนี่นา

เพราะยังไง ชีวิตของนายท่านสำคัญที่สุด

ไม่มีชีวิต เจ้าจะให้เขามีเจ้าเป็นสตรีผู้เดียวได้อย่างไร? ชีวิตไม่มีแล้วก็เท่ากับไม่เหลือสิ่งใดแล้วถูกไหม? หรือนางยอมเห็นนายท่านตาย ก็ไม่ยอมให้ชุ่ยฮวาช่วยเขา?

อย่าว่าแต่พวกเขาสองคนเลย ในใจคนส่วนใหญ่คงจะคิดแบบนี้ด้วยกระมัง

มีสิ่งใดสำคัญกว่าชีวิตกัน?

แต่ความคิดของโหลชีกลับไม่เหมือนพวกเขาคนใดเลย

"พระสนม..." เยว่มองโหลชี ด้วยสีหน้าดูสับสน "ข้าน้อยน้อมรับบัญชาพระสนม"

อิงถอยหลบหลังไปหนึ่งก้าว ก้มหน้าต่ำลงเล็กน้อย เขาตกใจนัก หากบอกว่าวันนี้ตอนเขาส่งกระแสจิตให้นาง ยังเรียกนางว่าโหลชี แต่บัดนี้เขาไม่กล้าเรียกแล้ว ไม่อาจเรียกชื่อนางออกมาได้อีก

"ดีมาก"

โหลชีเหล่พวกเขาหนึ่งที สีหน้าเย็นชาเข้มงวดพลางว่า "พวกเจ้ายืนดูอยู่ข้างๆ ดูว่าข้าจะ..สอบปากคำจำเลยเยี่ยงไร!" พอคำว่าจำเลยพูดจบ ร่างนางพลันปราดไปด้านหน้าเฟยฮวน มือหนึ่งคว้าพุ่งไปที่คอหอยนาง

เฟยฮวนตกใจมาก รีบปราดร่างหลบหลีก

"โหลชีเจ้าบ้าไปแล้ว!เจ้ากล้าเมินเฉยต่อความปลอดภัยของฝ่าบาท!"

"นั่นเป็นสามีของข้า ความปลอดภัยของเขาข้ารับผิดชอบอยู่แล้ว ต้องให้เทพธิดาแห่งซีเจียงอย่างเจ้ามาเดือดเนื้อร้อนใจอะไรด้วย!" โหลชีพูดด้วยน้ำเสียงเย็น บีบคั้นอีกครั้ง จนบีบเฟยฮวนออกจากศาลาไปเลย

เยว่และอิงตกใจนัก นางคือเทพธิดาแห่งซีเจียง?!

เฟยฮวนเองก็ตกใจไม่น้อย "เจ้ารู้ฐานะข้าได้ยังไง?"

"เดาน่ะ" โหลชีขยับเข้าใกล้บีบคั้นมากขึ้นเรื่อยๆ และตอบด้วยเสียงเรียบ การควบคุมฝันไม่ใช่ใครก็สามารถเรียนได้ แถมความฝันที่เฉินซ่าฝันนั่นก็ไม่ใช่ใครจะสืบได้ ไม่มีทางมายังเมืองพั่วอวี้คนเดียวแน่ เงื่อนงำต่างๆเหล่านี้รวมกันขึ้นมา ทำให้นางอดที่จะเดาถึงฐานะเทพธิดาแห่งซีเจียงไม่ได้

เทพธิดาแห่งซีเจียงเหมือนพึ่งจะนั่งครองตำแหน่งเทพธิดาได้ไม่นาน เฉินซ่าเคยบอกไว้ จะเป็นเทพธิดามันไม่ง่ายขนาดนั้น พอๆกับแย่งบัลลังก์เลย ดังนั้นเบื้องหลังเฟยฮวนต้องมีคนคอยสนับสนุนนางแน่ ที่ซีเจียง คนที่จะสนับสนุนเทพธิดาต้องเป็นองค์ชายแน่

เฟยฮวนกลับยอมรับออกมาเร็วเพียงนี้

"เทพธิดาแห่งซีเจียง!" เยว่และอิงรีบชักกระบี่ออกมาเข้าร่วมวงล้อม โหลชีปรายตามองไป พลางพูดอย่างเย็นชาว่า "สนมอย่างข้าให้พวกเจ้าดู ใครกล้าเข้ามา สนมอย่างข้าจะลงโทษคนนั้น"

น้ำเสียงของคำพูดนี้เย็นชาปนแรงอาฆาต ทำให้พวกเขาใจกระตุกวูบ และถอยออกไปพร้อมกัน

พวกเขาสบตากันหนึ่งครั้ง ต่างเห็นแววตกตะลึงในดวงตาอีกฝ่าย สายตาเมื่อครู่ของพระสนมน่าสะพรึงกลัวนัก! นี่ยังเป็นโหลชีคนนั้นในความทรงจำของพวกเขาอีกหรือไม่? และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่โหลชีเรียกตนเองต่อหน้าพวกเขาว่า "สนมอย่างข้า" !

"เหอะ โอหังยิ่งนัก! โหลชี ในเมื่อข้าเป็นเทพธิดาแห่งซีเจียงแล้วอย่างไรเล่า? ฝ่าบาทต้องการข้า ไม่มีข้า เขาต้องตายแน่นอน! ต่อให้เจ้าหากระสายยาทั้งหมดกลับมาได้แล้วอย่างไร? ไม่มีข้ายังไงก็ไม่ได้!"

"ต่อให้เจ้าตายเขาก็ไม่ตายดอก" โหลชีพูดอย่างเย็นชา "ต่อให้เขาต้องตาย ก็ไม่ต้องการเจ้า แก้กู่? ไม่ต้องเหนื่อยแล้ว"

นางพูด และยื่นมือคว้าไปที่คอนางอีกครั้ง เฟยฮวนรีบคว้าห่อยาสาดไปข้างหน้า ผงยาสีดำกระจายกลางอากาศ สองมือของนางวาดยันต์บางอย่างกลางผงยาพวกนั้น

โหลชีแค่นเสียงหึ "เจ้ายังคิดจะเล่นคำสาปยาต่อหน้าสนมอย่างข้าอีกรึ?"

นิ้วมือของนางวาดยันต์อย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผงยาเหล่านั้นกลับลอยไปรวมกันต่อหน้านาง จากนั้นว่ายวนนิ้วมือทั้งสิบของนางราวกับมีชีวิต

เฟยฮวนอึ้ง "ไม่ เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นผงยาที่ข้าทำขึ้นโดยเฉพาะ เหตุใดจึง..."

"ชุ่ยฮวา ใช้ศพของผีเสื้อลายดอกมาทำเป็นผงยา นี่ก็อาจารย์เจ้าสอนมาด้วยรึ? พูดแบบนี้ อาจารย์เจ้าคงมิใช่เทพธิดาคนก่อนกระมัง?"

"เจ้ารู้ด้วยว่านี่เป็นผงยาที่ทำจากศพของผีเสื้อลายดอก?" เฟยฮวนตกใจมาก

โหลชีวาดนิ้วมือทั้งสิบร่ายรำอย่างสบายๆ ผงยาสีดำนั่นร่ายรำระหว่างนิ้วนางอย่างกับมังกรที่เชื่อฟัง หากมันมีชีวิตจริง พวกมันต้องหักหลังเจ้านายเดิมอย่างเฟยฮวนแล้วแน่นอน

"ให้ข้าลองเดาดูหน่อย เฉินซ่าโดนกู่อะไร คนนอกไม่รู้ดอก แต่อาจารย์เจ้ากลับรู้ว่าเจ้าแก้กู่ของเขาได้ เช่นนั้น กู่นี่อาจารย์เจ้าเป็นคนลงกระมัง?"

เฟยฮวนระแวงขึ้นมาทันที "เจ้าอย่ามาเดามั่ว อาจารย์ข้าทำไมต้องลงกู่แก่เขาด้วย?"

"เหตุผลรึ ยากที่จะเดาได้จริงๆ ถ้าไง เจ้าบอกข้า?" หางตาโหลชีปรายไปทางเฉินซ่าอย่างรวดเร็ว เขาใส่เสื้อผ้า เลือดบนตัวดูไม่ค่อยออก แต่นางได้กลิ่นเลือดมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ดวงตาของเขามองมาทางนี้ตลอด แต่ดวงตาคู่นั้นกลายเป็นสีเลือดแล้ว นางนึกถึงครั้งนั้นที่ตนเองพึ่งมาถึงแล้วเรียกเขาว่าเจ้าตาแดง ตอนนี้ก็เห็นเขาในสภาพนี้อีกครั้ง นางรู้ดีว่าตอนนี้เขาต้องเจ็บปวดสุดๆแน่

โหลชีเองก็เดาได้ว่าทำไมเขายอมทนทุกข์ทรมานแบบนี้ และไม่ให้นางเปิดเผยตัวเอง เขาคงกลัวเฟยฮวนจะเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปกระมัง ถึงเวลานั้นคงมีคนมากมายพุ่งมาที่นาง นางจะกลายเป็นคนที่อำนาจมากมายต้องการกำจัด

แต่เขาลืมไปอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเฟยฮวนยังไม่มีโอกาสแพร่เรื่องนี้ออกไป

เฟยฮวนไม่รู้เลยสักนิดว่าโหลชีอยากฆ่านางนานแล้ว นางมั่นใจมาตลอดว่าพอคนของพั่วอวี้รู้ประโยชน์ของนางแล้วย่อมไม่ฆ่านางแน่ พวกเขาไม่กล้า นี่เป็นเหตุผลที่นางกล้ามาคนเดียว นางมีที่พึ่งนี้ที่ใหญ่ที่สุด

"อาจารย์ข้าอยู่ดีๆจะลงกู่อะไรกับเขา อีกอย่าง ที่อาจารย์ข้าถนัดที่สุดคือคำสาป ไม่ใช่กู่ โหลชี ต่อให้เจ้าจะใส่ร้ายป้ายสีก็หาให้มันดีๆหน่อย" เฟยฮวนพูดอย่างดูถูก

"เจ้าคงไม่ได้บอกว่าอาจารย์เจ้านอกจากคำสาปแล้วยังทำนายเป็นด้วยกระมัง? พอทำนายก็ทำนายได้ว่าเฉินซ่าโดนกู่ปลิดชีพ? พออาจารย์เจ้าทำนายได้เสร็จ ก็ให้เจ้าลอบเข้ามาพั่วอวี้และมอบพรหมจรรย์เจ้าให้กระมัง? พูดถึงตรงนี้ ข้าสงสัยนิดหน่อย" โหลชีปรายตามองนางจากบนลงล่าง "พรหมจรรย์เจ้ายังอยู่รึ?"

การสงสัยนี้ทำให้หน้าเฟยฮวนแดงเรื่อขึ้นทันที "โหลชี เจ้ารังแกกันมากเกินไป!" นางเขินอายจนโกรธ และเพราะร่างกายนางโดนซีฉางหลีลูบไล้ทั่วหมดแล้ว หากจะพูดถึงพรหมจรรย์ ถือว่าไม่มีแล้วจริงๆ แต่มาพูดจาสงสัยนางต่อหน้าเฉินซ่าและพวกเยว่เช่นนี้ มันทำให้นางอยากมุดดินหนีจริงๆ

โหลชีไม่คิดให้โอกาสนางพูดมากนัก เลยพูดต่อไปว่า "เจ้ามาเองถึงที่ก็ดี อย่างน้อยพวกเราก็ได้รู้ว่าอาจารย์เจ้าน่ะมีปัญหา อาจารย์ของเทพธิดาคนใหม่หาไม่ยากกระมัง? ไว้รอพวกเราว่างแล้ว ไปฆ่าล้างบางที่ซีเจียง จับอาจารย์เจ้ามาสับแล้วโยนให้หมากิน ดูสิว่านางยังจะกล้าลงกู่ใส่เฉินซ่าอีกไหม"

เฟยฮวนเริ่มทนไม่ไหว "อาจารย์ข้าไม่รู้เรื่องกู่! ท่านแค่รู้จักคนจากหนานเจียง..."

คำพูดนางหยุดชะงักไป ดวงตากลอกไปกลอกมา กัดฟันพูดว่า "ที่แท้เจ้าหลอกให้ข้าพูด น่าเสียดายเจ้าหาคนผิดไป ข้ากับอาจารย์ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น!"

ไม่แปลกเลยว่าโหลชีจะกล้าฆ่านางได้ยังไง! ที่แท้ก็แค่อยากหลอกให้นางพูดเท่านั้นเอง "ข้ายินดีช่วยฝ่าบาท..."

"ไม่ต้องแล้ว ผู้ชายของข้า ข้าช่วยเองได้!" โหลชีเห็นนางไม่มีอะไรจะพูดแล้ว รังสีอาฆาตที่เก็บกักมาตลอดถึงปล่อยออกมาหมด

เย็นชา อาฆาต ไร้ซึ่งความปรานีใดๆ

เส้นบางในใจเฟยฮวนพลันดึงตึง นางแทบจะร้องออกมาทันทีว่า "เจ้าฆ่าข้าไม่ได้..."

โหลชีพลันปราดร่างไปข้างเฉินซ่า ยื่นมือไปแตะไหล่เขา

เฉินซ่ากลัวนางเปิดเผย แต่เฟยฮวนไม่มีโอกาส

แทบจะในทันที เฉินซ่าที่เจ็บจนแทบด้านชามีชีวิตกลับมาแล้ว

ความเจ็บปวดที่ถาโถมราวน้ำหลากพลันถอยไป ดวงตากลบเลือดของเขาเริ่มคลายลง กลับสู่สภาพเดิม ดำลึกไร้ใครเทียม

เฟยฮวนเห็นฉากนี้เข้า ตกใจจนถอยหลังไปสองก้าว แทบจะหาเสียงตนเองไม่เจอ

"เจ้า เจ้าเจ้าเจ้า..."

โหลชีส่งสายตาหยามหยันให้นาง "เจ้าว่า ยังต้องการเจ้าไหม?"

เฉินซ่ายืนขึ้นมา ยื่นมือไปโอบเอวโหลชีเข้าหาตนทันที เขาไม่ได้สลบไป คำพูดพวกนั้นที่โหลชีพูดเขาได้ยินหมดแล้ว

ขอเพียงเขาแตะต้องสตรีอื่น นางจะสลัดเขาทิ้งทันที!

สตรีผู้นี้ สตรีผู้นี้ช่างบ้าอำนาจมากเสียยิ่งกว่าเขา แต่เพราะเหตุใด เขากลับยิ่งชอบนางมากขึ้นเรื่อยๆ? ชอบมากยิ่งนัก

และนางจงใจเปิดเผยความจริงเรื่องที่ตนสามารถควบคุมพิษกู่ได้ คงเพราะตัดสินใจจะฆ่าเฟยฮวนแล้ว

เฟยฮวนถอยหลังไปอีกสองก้าว

โหลชีไม่ได้มองนาง หากหันไปหาเฉินซ่า น้ำเสียงเย็นชาเล็กน้อย "ข้าจะฆ่านาง ท่านจะว่าไง?"

นางก็อยากรู้การเลือกของเฉินซ่า ถึงนางจะสามารถควบคุมพิษกู่กำเริบของเขาได้ แต่ตอนนี้นางไม่มีปัญญาแก้พิษกู่ให้เขา ใครก็รักชีวิตทั้งนั้น มีผู้หญิงมาให้แก้กู่ฟรีๆ ขอเพียงนอนกับนางเท่านั้น ใครจะปฏิเสธกัน?

ต่อให้เขาเชื่อว่ายังมีหนทางอื่น แต่อย่างน้อยก็ควรจะไว้ชีวิตนาง เผื่อเหลือทางรอดให้ตนเองสิ รักษาชีวิตนะ ใครจะฆ่าทิ้งได้ลงคอ?

เยว่กับอิงไม่กล้าออกเสียง แต่กลับมองเฉินซ่าด้วยสายตาตื่นเต้น

เฟยฮวนร้องขึ้นมา "ข้าเป็นหญิงธาตุหยิน เขาจะฆ่าข้าได้อย่างไร..."

"เหอะ ตอนนี้ข้าเปลี่ยนใจแล้ว จะฆ่าเจ้า แต่ไม่ให้เจ้าตายได้ง่ายๆหรอก" โหลชียังคงมองเฉินซ่า

นางจะบีบคั้นเขา

เลือก เขาจะอยู่กับนาง ก็ต้องเลือกแบบนี้ เส้นตายของนางก็บอกไปแล้ว สำหรับนางแล้วไม่มีทางมีคนที่สามอยู่ได้

ใครกล้ามา คนนั้นก็ตาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ