ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 357

เฉินซ่าส่งยิ้มบางให้นาง

พอเห็นรอยยิ้มของเขา โหลชีอึ้งไป ใต้เท้าบ้าอำนาจคนนี้ยิ้มอะไรออกมาในเวลาอย่างนี้เนี่ย?

แต่เฟยฮวนเองก็เห็นรอยยิ้มนี้

นางอึ้งตะลึง

นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าเฉินซ่าก็ยิ้มเป็น นางไม่เคยคิดมาก่อนว่า รอยยิ้มของเฉินซ่าจะแพรวพราวระยิบระยับดึงดูดสายตาเยี่ยงนี้ แต่เดิมนั้นประหนึ่งน้ำค้างแข็งในฤดูหนาว เย็นเยือกยิ่งนัก แต่เพราะรอยยิ้มนี้น้ำแข็งพลันละลาย ส่องแสงเจิดจ้าไปทั่ว

หากเขายิ้มอย่างนี้ตลอด เช่นนั้นฉายาบุรุษงามอันดับหนึ่งในใต้หล้า ก็มิมีผู้ใดมาแย่งชิงกับเขาได้แน่

เฉินซ่ามือหนึ่งโอบเอวโหลชีแน่น พูดเสียงอ่อนว่า "ใต้หล้านี้ เจ้าอยากฆ่าใครก็ฆ่า คนที่ฆ่าไม่ได้ ข้าจะฆ่าให้เจ้าเอง"

พอพูดจบ เขาทำท่าคว้ากลางอากาศ เฟยฮวนพลันรู้สึกมีพลังอันแข็งแกร่งโผเข้ามา นางควบคุมตนเองไม่ได้ ได้แต่ลอยเข้าหาเขา

รังสีอาฆาตแผ่ซ่านคับท้องฟ้าเต็มผืนดิน ใครจะทำเป็นไม่เห็นก็ไม่ได้

เฉินซ่าจะฆ่านางจริงๆ จะฆ่านาง และไม่ลังเลเลยสักนิด!

ทั้งๆที่นางเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้กู่ของเขา! เขาไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือไร?

เฟยฮวนร้องเสียงดังขึ้นมา "ฝ่าบาท! ข้าน้อยถอนตัวออกจากซีเจียงแล้ว มิเป็นเทพธิดาแล้ว ข้าน้อยจะเป็นนางบำเรอให้ท่าน มิต้องการตำแหน่ง แค่นี้คงได้กระมัง!"

"เจ้ามิคู่ควร" เฉินซ่าจับคนมาตรงหน้าแล้ว แต่ไม่ได้แตะต้องนางโดยตรง เขายกมือขึ้น เหมือนมีมือที่ไร้รูปร่างจับเฟยฮวนไว้ และยกนางขึ้นมาจนสองเท้าลอยเหนือพื้น

นางดิ้นรนอย่างสุดกำลัง ใบหน้าแดงก่ำ

แบบนี้ยิ่งเป็นการลบหลู่นาง ทั้งๆที่นางเป็นเทพธิดาแห่งซีเจียง ได้พูดออกมาแล้วว่าจะสละตำแหน่งเทพธิดา ขอเป็นเพียงนางบำเรอเล็กๆในตำหนักจิ่วเซียวนี้ กลับถูกบอกว่าไม่คู่ควร! และยังถูกยกขึ้นมาบีบคอไว้ราวกับตัวตลกเยี่ยงนี้ อีกทั้งมืออีกฝ่ายยังมิได้ถูกตัวนางแม้เพียงนิด ราวกับว่านางสกปรกสิ้นดี!

"ท่านไม่อยากแก้กู่รึ?" แรงที่บีบที่ลำคอนั้นเพิ่มมากขึ้น นางใกล้หายใจไม่ออกแล้ว ได้แต่กัดฟันพูดออกมาได้แค่คำนี้ ไม่ ไม่ควรเป็นเช่นนี้ ไม่มีทางเป็นเช่นนี้ได้ นางมั่นใจนักว่าที่นี่ไม่มีใครกล้าฆ่านาง และไม่มีใครกล้าทำให้นางลำบากใจ เพราะจะแก้กู่นั้นมิใช่ว่าแค่ครอบครองนางก็ได้แล้ว ระหว่างนั้นยังต้องให้นางร่วมมือด้วย แก่กู่ แน่นอนว่าไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น

"พิษกู่ของข้ามอบให้ชีชี นางรักษาหาย แก้ได้ นั่นย่อมดีที่สุด หากนางรักษาไม่ได้ แก้ไม่ได้" พูดถึงตรงนี้ เฉินซ่าชะงักไปชั่วครู่ เอียงหน้ามองโหลชี "เยี่ยงนั้นทางไปปรโลกก็มีนางไปกับข้าด้วย! ข้าไม่ขาดทุน"

โหลชีเหลือบตาขึ้นมองเขา เน้นย้ำทีละคำว่า "ดี ถ้าข้าช่วยท่านไม่ได้ ข้าจะตายเป็นเพื่อนท่าน" ต่อให้ตาย! นางก็ไม่ยอมให้เขาแตะต้องผู้หญิงคนอื่น! นางมีความเย่อหยิ่งของนาง ถ้าผู้ชายของนางยังต้องอาศัยร่างผู้หญิงคนอื่นมาต่อชีวิต นางยังจะกล้าเรียกตนเองว่าราชินีของดินแดนนั้นอยู่รึ?!

ถ้าพวกพ้องเมื่อก่อนได้ยินเจ้า คงหัวเราะนางจนฟันร่วงแน่!

บ้า! บ้าไปแล้ว!

"พวกเจ้าบ้าไปแล้ว!"

เฟยฮวนแทบจะไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน นางไม่เคยเจอสองคนเยี่ยงนี้มาก่อน คนหนึ่งไม่กลัวตาย อีกคนไม่กลัวคนรักตาย! ต่างไม่กลัวตาย!

เคียงคู่กันแค่สองคนมันสำคัญขนาดนั้นเลยรึ?

สำหรับบุรุษแล้ว มีสตรีเพิ่มอีกคนไม่ดีกว่ารึ? ใครจะทนกับการที่มีสตรีเพียงผู้เดียวตลอดชีวิตไหวกัน?

สำหรับสตรีแล้ว ต่อให้เจ้าถือสากับการที่มีสตรีอีกผู้หนึ่งเข้ามาแทรกกลางสามีภรรยาเพียงใด แต่การรักษาชีวิตสามีเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดมิใช่รึ? ต่อให้แค่เก็บนางไว้ก่อน ต่อให้ต้องคิดหาหนทาง ก็ต้องเก็บนางไว้เป็นเหลือทางออกสุดท้ายก่อนสิ จะฆ่านางเลยแบบนี้ มิใช่ตัดหนทางรอดหมดแล้วรึ?

ไม่มีผู้ใดโง่เยี่ยงนี้!

แต่นางปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า พอได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่แล้ว นางใจสะท้านจริงๆ สะท้านสะเทือนเลย

เป็นความรักเยี่ยงไรกัน ถึงทำให้เฉินซ่ายอมละทิ้งตัวล่อกู่ ละทิ้งโอกาสในการรอด เพื่อความอยากครอบครองอย่างรุนแรงของอีกฝ่าย มันเป็นความเชื่อใจเยี่ยงไรกันที่ทำให้เขาเชื่อมั่นยิ่งนักว่านางจะแก้กู่ของเขาได้ ภายใต้สถานการณ์ที่นางไม่มีตัวล่อกู่ที่เกิดยามวันหยินเดือนหยินปีหยิน

ความแข็งแกร่งและรุนแรงของโหลชีที่มีต่อความรักนั้นก็ทำให้นางสะท้านสะเทือน นี่คือรัก หรือการทำร้าย? นี่ถือว่ารักรึ? รักมิควรจะหวังให้อีกฝ่ายอยู่ดี ขอเพียงอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ ก็จะยอมรับความอยุติธรรมเยี่ยงไรก็ได้มิใช่รึ?

แต่โหลชีไม่

นางช่างบ้าคลั่ง ช่างเผด็จการยิ่งนัก!

ผู้ชายของข้า ต่อให้ต้องตาย ก็ห้ามแตะต้องสตรีอื่น!

เขาตาย นางก็ยอมตายด้วย!

นี่เป็นคนสองคนอะไรกันเนี่ย!

"พวกเจ้าบ้าไปแล้ว..." ใบหน้าแดงก่ำ นางยังสามารถพูดคำนี้ออกมาได้

เยว่และอิงรวมถึงหมอเทวดาพากันมองฉากนี้อย่างตะลึง

พวกเขารู้ พวกเขาผิดแล้ว พวกเขาทุ่มเททั้งจิตใจไปที่ตัวฝ่าบาท เอาแต่คิดว่าไม่ว่ายังไงต้องช่วยเขา ช่วยเขาช่วยเขา! แต่กลับละเลยความคิดของโหลชี

และในตอนนี้เองพวกเขาถึงได้เข้าใจว่า ฝ่าบาทมิใช่เพียงเจ้านายของพวกเขา อันดับแรก เขาเป็นผู้ชายของโหลชี!

เรื่องของเขา นางมีสิทธิ์ในการออกความเห็นมากกว่าพวกเขา มีสิทธิ์จัดการมากกว่าพวกเขา

อิงเองก็พบว่า ระหว่างโหลชีกับเฉินซ่า ไม่มีเรื่องใดหรือผู้ใดสามารถเข้าไปแทรกกลางได้เลย

ความคิดของโหลชีก็ทำให้พวกเขาสะท้านสะเทือนมาก โลกนี้มีสตรีเช่นนี้ด้วยรึ? หากพอพวกเขาสงบจิตใจลงมาคิด ก็จำต้องยอมรับว่า นางมีสิทธิ์ในการบ้าอำนาจเยี่ยงนี้ ใช่ นางมี!

พิษกู่ นอกจากบนตัวฝ่าบาทแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ได้พบเจอพวกนั้น มีครั้งไหนบ้างมิใช่นางจัดการ? ขนาดเทพธิดาแห่งซีเจียงคนนี้อยู่ต่อหน้านาง ยังโดนนางจัดการซะหมอบ งั้นคำสาปยาอะไรนั้นล้วนพ่ายแพ้เมื่ออยู่ต่อหน้านางทั้งสิ้น เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะถือสิทธิ์อะไรไม่เชื่อว่าสุดท้ายนางจะสามารถศึกษาวิธีแก้กู่ของกู่ปลิดชีพออกมามิได้เล่า?

อีกอย่าง โหลชีที่เย็นชาเยี่ยงนี้ พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจริงๆ

เยว่และอิงพร้อมใจกันถอยหลังไปหนึ่งก้าวอย่างเงียบเชียบ พวกเขาจะไม่เกลี้ยกล่อมฝ่าบาทให้เก็บสตรีผู้นี้ไว้แล้ว

โหลชีเหล่พวกเขาหนึ่งที แค่นเสียงหึในใจ พวกเขาคว้าโอกาสสุดท้ายไว้ได้ละ!

เฟยฮวนรู้ว่าพวกเขาจริงจังกันแล้ว นางไม่คิดให้ตนเองตายอยู่ที่นี่ นางไม่ควรจะแพ้นี่นา ตามหลักแล้ว ตามหลักจิตใจมนุษย์ นางไม่ควรจะแพ้นี่นา! คงได้แต่โทษว่าทั้งสองคนนี่เป็นสัตว์ประหลาด!

ตอนนี้นิ้วมือของนางพลันวาดยันต์ จะคำสาปต้องใช้คู่กับยันต์ นางยังเหลือยันต์ช่วยชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด คำสาปช่วยชีวิตของนางมิเคยมีผู้ใดแก้ได้

"ข้าอยากให้พวกเจ้าตายไปด้วยกัน!" นางสบถคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก พลันมีไอเย็นแผ่ออกมาจากพื้นใต้ฝ่าเท้านาง จากล่างขึ้นบน จนห่อหุ้มนางไว้ทั้งตัว ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็ได้ยินเสียงจิวจิวเล็กน้อย ถึงเสียงนี้จะไม่ดังมาก แต่ก็ทำให้จุดไท่หยางของพวกเขาเริ่มปวดขึ้นมา หมอเทวดาที่ไม่มีวิทยายุทธ์ไม่ไหวคนแรก เขาสองมือปิดหูฉับพลัน กระอักเลือดก่อนล้มลง

เยว่กับอิงสีหน้าก็ไม่สู้ดีนัก รีบเดินลมปราณสกัดกั้น น่าตายนัก นี่มันคำสาปอะไร?

แรงพลังที่บีบคอเฟยฮวนอยู่ พลันโดนสะท้านกระจาย

เฟยฮวนล้มลงพื้น ไออย่างรุนแรง แต่ไม่นานนางก็เงยหน้าขึ้น และลอยขึ้นจากพื้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และพุ่งเข้าหาโหลชีด้วยกงล้อลมใต้ฝ่าเท้า

เฉินซ่าแค่นเสียงหึ โอบโหลชีไม่ถอยเลยสักนิด แต่กลับยืนประจันหน้า "คำสาปยกให้เจ้า"

"ได้"

โหลชีเม้มปาก มือวาดยันต์อย่างรวดเร็ว และชี้ไปที่เฟยฮวนกลางอากาศ "ชุ่ยฮวา จะเล่าคำสาปกับข้า อาจารย์เจ้าไม่เคยสอนรึว่า หากยังเรียนไม่สำเร็จอย่าออกมาให้ขายหน้าคนน่ะ?"

พอนางพูดจบ ในอากาศก็มีแรงสองแรงปะทะกัน เกิดเสียงสนั่นกัมปนาทขึ้น ในเวลาเดียวกัน พลังฝ่ามือใบมีดของเฉินซ่าก็ตวัดเข้าที่หน้าเฟยฮวนอย่างแรง บางแผลนั้นเริ่มจากตาซ้ายนาง ผ่านคิ้ว จมูกไปจนถึงคางแก้มด้านขวา

เฟยฮวนรู้สึกปั่นป่วนที่หน้าอก นางกระอักเลือดคำโตออกมา นี่เป็นบาดแผลที่เกิดจากคำสาปถูกแก้แล้วย้อนกลับเข้าตัว จากนั้นก็มีเลือดไหลมาถึงปากนาง นางจับใบหน้าตนเองอย่างงงๆ และลูบโดนบาดแผลยาวนั้น พลันร้องกรี๊ดขึ้นมา

"พวกเจ้า พวกเจ้ากล้าทำลายรูปโฉมข้า!"

ใบหน้านี้ของนาง ใบหน้านี้พี่ฉางหลีก็ชอบมาก!

"กล้าหลอกข้าว่าเจ้าเป็นนางที่เติบใหญ่แล้ว ข้าก็ทำลายรูปโฉมเจ้าซะ!" เฉินซ่าพลันยกมือขึ้นอีกครั้ง ฝ่ามือกลายเป็นใบมีด ตวัดไปที่ใบหน้านางอย่างไม่ยั้งมือเลยสักนิด

เฟยฮวนถอยอย่างรีบร้อน กัดลิ้นก่อนกระอักเลือดคำโตออกมาอีก จากนั้นมือของนางก็ยกขึ้นกลางไอหมอกเลือดนั่น ราวกับจะวาดยันต์

พอโหลชีเห็น ก็เลิกคิ้วอุทานว่า "คำสาปเลือดส่งสาร?"

เฟยฮวนร่างสั่นสะท้าน ราวกับว่านางรู้สึกไม่ชอบมาพากลเมื่อโหลชีสามารถพูดชื่อคำสาปเลือดนี้ออกมาได้ ไม่ได้ ไม่ได้ คำสาปเลือดส่งสารของนางยังไม่สมบูรณ์ จะให้นางทำลายไม่ได้!

นางจะต้องส่งสาสน์ให้อาจารย์ ต่อให้ครั้งนี้นางต้องตาย ก็ต้องให้อาจารย์ล้างแค้นให้นาง!

โหลชีพลันหัวเราะเหอะเหอะ "แม่นางชุ่ยฮวา บอกเจ้าโง่เจ้าก็โง่จริงนะ เจ้าคิดว่า ในเมื่อข้าดูออกว่านี่คือคำสาปเลือดส่งสารแล้ว ยังจะให้เจ้าลงคำสาปสำเร็จอยู่รึ?"

พอคำว่ารึลงจบ มือนางลูบไปที่เอว ดึงเข็มละเอียดออกมากำหนึ่ง ยื่นให้เฉินซ่า เรื่องนี้ด้วยวิทยายุทธ์ของนางนั้นไม่แน่จะทำได้ แต่เฉินซ่าต้องทำได้แน่

"ลงแต่ละเข็มแทงลงไปที่ทุกนิ้วของนาง!"

พอนางพูดจบ เฉินซ่าก็สะบัดแขน เข็มกำนั้นพุ่งปักไปที่นิ้วของเฟยฮวนทันที!

เฟยฮวนร้องเสียงขรึมออกมา นิ้วมือทั้งสิบต่างโดนเข็มปักหมดอย่างไม่มีนิ้วไหนเหลือรอด! และพอเข็มนั้นสัมผัสโดนเลือดนาง พลันเปลี่ยนสี บนเข็มนั้นมีประกายสีฟ้าอ่อนแวววาว

พอเห็นสีฟ้าอ่อนนั่น สีหน้าเฟยฮวนเปลี่ยนทันที

"น้ำหญ้าปีศาจ!"

"ความรู้ไม่เลวนี่ แต่ว่า ก่อนหน้านี้ที่ไส้ศึกของซีเจียงลอบเข้ามา ไม่บอกพวกเจ้ารึว่าที่นี่มีหญ้าปีศาจ?"

โหลชีหัวเราะออกมา

ถึงนางจะไม่ชอบหญ้าปีศาจ แต่ก็ต้องยอมรับจริงๆว่า ประโยชน์ของหญ้าปีศาจนั้นมากนัก โดยเฉพาะสำหรับวิชาคำสาปซีเจียงแล้ว หญ้าปีศาจถือเป็นคู่ปรับกันเลย

โหลชีอดคิดไม่ได้ว่า นางต้องหาเวลาไปตามหาหญ้าปีศาจนี่สักหน่อยไหม?

วิทยายุทธ์ของเฉินซ่าดีกว่านางจริงๆ นิ้วทั้งสิบของเฟยฮวนโดนเข็มปักเข้าไปอย่างแม่นยำ และยังเข้าไปกว่าครึ่ง ถ้าเป็นนางลงมือคงไม่แน่ว่าจะสำเร็จไม่ผิดพลาดอย่างนี้

เฟยฮวนเดิมคิดว่าก็แค่เจ็บ แค่เข็มแทงนิ้วเท่านั้น แต่สิบนิ้วเจ็บถึงใจ ความเจ็บชนิดนี้แทบทำคนเป็นบ้าแล้ว แต่นางกลับทนไหว

ใครจะรู้ว่า โหลชีกลับวาดยันต์ด้วยสีหน้าเย็นชา เข็มสิบเล่มนั้นพลันมุดเข้านิ้วของนาง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ