ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 447

ด้วงเกราะเหล็ก นั่นมันคือตัวอะไร!

"อ๊า!"

จู่ๆอิ้นเหยาเฟิงก็แวบไปอยู่หลังของเฉิงสิบ คว้าแขนเสื้อของเฉิงสิบเอาไว้ นิ้วหนึ่งชีไปทางดอกไม้ข้างหน้าที่อยู่ไม่ไกลออกไป "ดอกไม้นั่นไม่ใช่ดอกไม้!"

คำพูดนี้ฟังดูแปลกประหลาดเล็กน้อย ดอกไม้นั่นไม่ใช่ดอกไม้ แล้วมันจะเป็นอะไรได้? ถึงแม้จะไม่ใช่ดอกไม้ก็ไม่ต้องกลัวขนาดนี้ไหม?

เฉิงสิบก้มหน้ามองดูมือขาวเรียบที่อยู่บนแขนเสื้อของตัวเองข้างนั้น ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ดึงเสื้อออกมาทันที จากนั้นก้าวออกไปสองก้าวไปอยู่ข้างกายของโหลชี เดิมทีเขาก็อยู่ใกล้กับโหลชีมากอยู่แล้ว เดินเข้าไปอีกสองก้าวก็เข้าใกล้กับนางมากแล้ว โหลชีหันมามองเขาครู่หนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร

"แม่นางเหยาเฟิงไม่ต้องกลัว" โหลวซิ่นมองเฉิงสิบครู่หนึ่ง ย้ายไปอยู่ข้างกายของอิ้นเหยาเฟิงทันที ตบไปที่ไหล่ของตัวเองแล้วกล่าวว่า: "ข้าปกป้องเจ้าเอง"

อิ้นเหยาเฟิงกลับดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของเขา นางมองไปที่แผ่นหลังสูงใหญ่ของเฉิงสิบ สายตาดูเจ็บเล็กน้อย

"หลินเสิ้งเวยไปดูหน่อย"

หากเป็นเมื่อก่อน เวลาแบบนี้โหลชีจะไปตรวจดูด้วยตนเอง แต่ในเมื่อจะสอนพวกเขา นางก็จะพยายามให้พวกเขาอยู่ข้างหน้า

หลินเสิ้งเวยเดินเข้าไปใกล้ดอกไม้ต้นนั้น

นั้นเป็นดอกไม้ยืนต้นที่สูงครึ่งคนต้นหนึ่ง ใบขนาดเท่าฝ่ามือ ด้านบนสีเขียวด้านล่างสีแดง บนกิ่งก้านมีดอกสีขาวทับอยู่เป็นดอกๆ ทุกดอกล้วนมีขนาดใหญ่เท่าปากถ้วย กลีบดอกไม้ซ้อนกันเป็นชั้นๆ ดูแล้วสวยดี มองอย่างไรก็เป็นดอกไม้นี่นา ทำไมอิ้นเหยาเฟิงถึงบอกว่าไม่ใช่ดอกไม้?

เห็นหลินเสิ้งเวยเดินเข้าไปใกล้แล้ว อิ้นเหยาเฟิงรีบร้อนกล่าวขึ้นมา: "หัวหน้าระวังด้วย อย่าไปสัมผัสนะ เมื่อครู่ข้าเห็นกลีบดอกไม้พวกนั้นล้วนขยับด้วย"

กลีบดอกไม้ล้วนขยับ

"ถ้าหากมีลมพัดมา กลีบดอกไม้จะขยับก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนี่นา" เสี้ยวหยู่พูดออกมาคำหนึ่ง

โหลวซิ่นมองค้อนเขาครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า: "เจ้าคิดว่าแม่นางเหยาเฟิงจะแยกแยะไม่ออกหรือว่าเป็นลมพัดหรือเปล่า?"

เสี้ยวหยู่หุบปากเอาไว้ไม่พูดอะไรอีก

ในใจอวิ๋นเป็นห่วงอามู่และคนอื่นๆ แต่เห็นข้างหน้าไม่ไกลออกไปก็มีดอกไม้แบบนี้อีกสองสามต้น ถ้าหากไม่ดูให้ชัดเจน ไม่แน่ว่าระหว่างทางต่อจากนี้ของพวกเขาอาจจะพบเข้าอีก ก็ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่นัก เขาเลยระงับความกระวนกระวายใจเอาไว้ มองดูหลินเสิ้งเวยเดินไปด้านข้างดอกไม้ต้นนั้น

หลินเสิ้งเวยย่อมไม่ใช้มือไปสัมผัสอยู่แล้ว เขาเพียงแค่ก้มตัวลงไปมองดูใกล้ๆ แต่ทันทีที่เห็นก็ทำให้เขาขนหัวลุก รีบถอยหลังออกไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว กล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจ: "ไม่ใช่ดอกไม้จริงๆด้วย ล้วนแต่เป็นแมลงที่มีรูปร่างแบนราบทั้งนั้น!"

เมื่อครู่ทุกคนคิดอยู่ว่า ทำไมถึงได้มีแมลงที่มีรูปร่างแบนราบได้ ดอกไม้พวกนั้นถูกพัดปลิดปลิวกระจายออกไปราวกับกลีบดอกไม้ แต่กลับไม่ได้ร่วงหล่นลงไปบนพื้น แต่กลับรวมตัวกันบินไปทางหลินเสิ้งเวยที่อยู่ใกล้ที่สุด

แมลงกลีบดอกไม้พวกนั้นมาถึงตรงหน้าแล้ว หลินเสิ้งเวยถึงได้พบว่าบนขอบของพวกมันยังมีหนวดที่เหมือนขนปุยเล็กๆอยู่อีก ถึงแม้จะเล็กมาก กลับดูออกว่าแหลมคม บวกกับตัวของพวกมันเดิมทีก็แบนราบเป็นแผ่นบางอยู่แล้ว ทั่วทั้งตัวของมันเหมือนกับใบมีดที่มีฟันเลื่อยอยู่

สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก รีบใช้กำลังภายในถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว

ลมคาวพัดมาอีกระลอกหนึ่ง ครั้งนี้ลมพัดแรงมากยิ่งขึ้น ดอกไม้สองสามต้นที่อยู่ไม่ไกลออกไปพวกนั้น ก็กระจายออกไปเช่นนี้เหมือนกัน ทันใดนั้น ทั่วทั้งท้องฟ้ากลายเป็นสีขาว "กลีบดอกไม้" ล้วนบินมาทางพวกเขา

ดูแล้วเหมือนเบาบางมาก สังเกตดูดีๆกลับทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นวาบในใจ! มันบินหมุนเป็นวงเข้ามา ความเร็วไม่ช้าเลยจริงๆ มีสมาชิกในหน่วยคนหนึ่งหลบช้าไปหน่อย กลีบดอกไม้แผ่นหนึ่งก็ปาดผ่านจากแขนของเขาไป ถึงกับบาดแขนเสื้อของเขาจนขาด ตัดเข้าไปในเนื้อหนังของเขา

"อ๊ากก!" สมาชิกคนนั้นกรีดร้องขึ้นมา รีบยื่นมือจะไปดึงชิ้นส่วนนั้นออก กลับเห็นแมลงกลีบดอกไม้สีขาวแผ่นนั้นกลายเป็นสีแดงในชั่วพริบตา

นั่นคือดูดเลือดเข้าไป

พระเจ้า

"ลมที่กลิ่นคาวนั่นไม่ปกติ!"

โหลชีมองไปทางอวิ๋นด้วยความประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าชั่วครู่เดียวเขาก็สามารถหาจุดสำคัญเจอแล้ว

ความเร็วในการพูดของอวิ๋นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กล่าวอย่างรีบร้อน: "ถ้าหากบรรดาพี่น้องของข้าเคยอยู่ที่นี่ แมลงประหลาดพวกนี้กลับไม่มีปฏิกิริยา นั่นก็หมายความว่าไม่ใช่ว่ามีคนมาก็จะสามารถดึงดูดแมลงพวกนี้แน่ เมื่อครู่นี้ลมคาวนั่นพัดมา แมลงเหล่านี้ถึงได้มีการเคลื่อนไหว"

ทักษะการสังเกตและความคิดเชิงตรรกะของเขาถือว่าไม่เลวเลย

"ถูกต้อง น่าจะลมนั่นที่ผิดปกติ" ขณะที่โหลชีพูดไป ก็ก้าวเท้าเดินไปทางสมาชิกคนนั้นอย่างรวดเร็ว ยื่นมือไปแตะตรงส่วนบนของบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว และเห็นเลือดไหลออกมาจากบาดแผลนั่นมากยิ่งขึ้น จากนั้นนางถึงได้กล่าวกับสมาชิกอีกคนที่อยู่ด้านข้าง: "ทำแผลให้เขาตามที่ข้าสอนพวกเจ้า"

"ขอรับ"

มีสมาชิกสองคนรีบเข้าไปประคองสมาชิกที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้นถอยออกไปทันที ขณะเดียวกัน สมาชิกคนอื่นอีกสองสามคนก็รีบเข้าไปขวางอยู่ข้างหน้าของพวกเขา ด้วยท่าทางที่พร้อมจะปกป้อง ชักกระบี่ฟันแมลงกลีบดอกไม้ที่บินเข้ามาออกไป

เห็นพวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ประสานงานกันเป็นอย่างดี และเมื่อพบกับแมลงแปลกประหลาดที่อันตรายเช่นนี้ยังสามารถรับมือได้อย่างใจเย็น ในใจอวิ๋นก็รู้สึกประหลาดใจไม่สิ้นสุดเช่นกัน

โหลชีได้ให้เฉิงสิบหยิบถุงน้ำออกมาใบหนึ่งแล้ว แล้วก็เทผงยาเข้าไปอีกสองขวด เขย่าไปมาครู่หนึ่ง เฉิงสิบก็ยกถุงน้ำนั้นสาดไปทางแมลงกลีบดอกไม้สีขาวที่บินอยู่เต็มท้องฟ้าพวกนั้น และโหลชีก็ตามติดอยู่ด้านข้างของเขา ทันทีที่เขาสาดน้ำ มือเรียวของนางก็ดีดเบาๆ ตรงปลายนิ้วของนางมีเปลวไฟสีน้ำเงินเล็กๆโผล่ออกมาอย่างไร้เสียง ถูกนางดีดออกไปเช่นกัน เปลวไฟแต่ละลูกล้วนมีหยดน้ำพวกนั้นติดอยู่ด้วย เสียงตู้มดังขึ้นมาก็ก่อให้เกิดไฟสีน้ำเงินขนาดใหญ่ ทันทีที่แมลงกลีบดอกไม้สีขาวพวกนั้นสัมผัสประกายไฟก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านทันที

ระหว่างนางกับเฉิงสิบไม่ได้พูดคุยกันเลย แต่กลับร่วมมือกันได้อย่างเข้าขากันมาก และทุกย่างก้าวที่ทั้งสองเดินล้วนผสมผสานลงตัวกันพอดี ติดตามใกล้ชิดกันอยู่ตลอด บวกกับผู้ชายก็หล่อมาก ผู้หญิงก็สวยสุดๆ การเคลื่อนไหวก็งดงามอีก ดูแล้วเหมือนกำลังร่ายรำกันอยู่ ภาพนั้นงดงามมากจริงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ