ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 455

รอขณะที่อวิ๋นตกใจได้สติ เขาพบว่าตัวเองกลับโอบอามู่แน่น

โครมเสียงหนึ่ง สมองเขาว่างเปล่า

เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร? เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร!

เขาไม่เคยเป็นคนลุ่มหลงนารี ผู้หญิงทุ่งหญ้าโดยมากมักเปิดเผย อยู่ทุ่งหญ้ามานานขนาดนั้น ด้วยความห้าวหาญของเขา สตรีที่เสนอตัวเข้าอ้อมกอดของจึงมีจำนวนไม่น้อย แต่เขาไม่แปดเปื้อนสักคน เพราะในใจเขามีเส้นขีดอยู่ คิดว่าต่อไปจะหานางในดวงใจ อ่อนโยนมีคุณธรรมดีงามจริงจังสักคนแล้วแต่งงาน ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หญิงผู้นั้นต้องมีลูกเก่ง ให้กำเนิดลูกชายอ้วนจ้ำม่ำอย่างน้อยสามคน เพราะเขาเป็นเด็กกำพร้า แต่เล็กชอบดำรงชีวิตในครอบครัวที่คึกคักอบอุ่น

หลังจากแต่งงาน ฮูหยินของเขาน่าจะดูแลบ้านได้ทันที ขณะเขาออกไปสู้รบฟาดฟันกับนายท่าน เข้าประตูบ้านมาก็มีอาหารควันฟุ้งหอมกรุ่นรอเขา

ยามว่างหากเขาไม่ออกไป ฝึกฝนวรยุทธ์ในลานบ้าน นางก็ปักถักร้อยอยู่ริมหน้าต่างในห้อง

อามู่ไม่เข้ากับเงื่อนไขของเขา

นางเรือนร่างบอบบาง ท่าทางอ้อนแอ้นมาก ที่สำคัญที่สุดก็คือ นางยังเด็ก ในสายตาของเขายังเป็นเด็กอยู่

ถึงเขาจะแต่งกับนาง นางก็ยังให้กำเนิดบุตรไม่ได้ นางเองก็ยังไม่เจริญวัย แถมนางทำอาหารไม่เป็น เย็บชุนเสื้อผ้าก็ไม่เป็น เขาจินตนาการไม่ออก หาเขาแต่งงานกับนาง ตัวเองจะเป็นสามีนางหรือเป็นบิดาพี่ชายนางกันแน่?

นั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการจริงๆ

แต่เขากลับทำเรื่องเช่นนี้กับนางไปแล้ว

นี่เป็นเรื่องที่มีแต่สามีภรรยาถึงทำได้!

หลังจากอวิ๋นตื่นตระหนกแล้วก็อยากผลักนางออก แต่เขาเพิ่งขยับ อามู่กลับออกตัวจับเขาไว้ "พี่อวิ๋น อามู่ยินดี..."

"อามู่..."

อวิ๋นออกแรง ชักมือออกมา ถอยหลังสองก้าว ดึงระยะห่างออกจากนาง "ข้า ขอโทษเจ้า..." ขณะที่เขากล่าวสมองยุ่งพัลวัน ตัวเองยังแยกแยะไม่ชัดเจนว่าหมายความว่าอะไร การขอโทษก็เพราะความหุนหันและการเสียกิริยาเช่นนี้ของตัวเอง อย่างไรก็ควรขอขมากระมัง?

ที่จริงเขาไม่ค่อยแน่ชัด

อามู่กลับนิ่งค้าง จากนั้นก็กัดริมฝีปาก หันตัววิ่งจากไป

"อามู่!"

อวิ๋นจะตามไป แต่กลับชนกับพวกพ้องอีกสองสามคน พวกเขาดึงเขาไว้ ต่างถามเขา "ลูกพี่อวิ๋น พี่เห็นอามู่หรือไม่? เมื่อครู่นางยังอยู่กับพวกเราอยู่เลย พริบตาเดียวก็ไม่เห็นแล้ว"

"นั่นสิ ที่นี่อัปมงคลอยู่บ้าง หวังว่าอามู่จะไม่เดินหลงไป"

อวิ๋นฟังพวกเขาแย่งกันพูด ฉงนใจขึ้นทันใด เมื่อครู่อามู่บอกว่าพวกเขาอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว หรือจะไม่เห็นเขากับอามู่...

และไม่ได้ยินเสียงพวกเขาด้วยหรือ?

ยามนี้เขาสะดุ้งขึ้นอีก นายท่านกับพระสนมเล่า?

"พวกเจ้ารวมกลุ่มอย่าแยกจากกัน อยู่ที่นี่อย่าขยับ!" จิตใจเขาร้อนรน รีบกำชับพวกเขา จากนั้นก็อยากหันไปหาเฉินซ่า แต่ท่าทางอามู่แวบเข้าสมองเขา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอารมณ์ซับซ้อนไม่สงบ

อามู่ในเวลานี้กำลังเอาศีรษะโขกกับเสาหิน ดังตึงเสียงหนึ่ง รู้สึกเพียงเวียนศีรษะตาลาย นวดหน้าผากล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น น้ำตาจะเล็ดออกมา

เมื่อน้ำตาหยดแรกหลั่งออก ถัดจากนั้นก็ควบคุมไม่อยู่บ้างแล้ว หยดลงติ๋งๆๆ นางนึกถึงปฏิกิริยาของอวิ๋นเมื่อครู่

ที่จริงเข้าตรงนี้มาจะมึนงงอยู่พักหนึ่ง นางรู้ ขณะที่พวกเขาเพิ่งเข้ามาก็เหมือนกัน เบื้องหน้ายังพร่าเบลอไม่ชัดเจน แต่ที่แปลกก็คือเดี๋ยวเดียวก็ดีแล้ว นางคิดไม่ถึงว่าขณะพี่อวิ๋นมึนงงจะทำเรื่องเช่นนี้กับนาง

ก็ได้ ที่จริงทีแรกนางหลบได้ เพียงแต่นางมีใจให้พี่อวิ๋นอยู่แล้ว ดังนั้น...

ทีแรกในใจนางยินดีมาก นางชอบพี่อวิ๋นแบบนั้นมาก...เพราะนางชอบ นางจึงชอบใกล้ชิดกับเขาเช่นนี้

แต่เมื่อเห็นความตะลึงและตื่นตระหนกจากสายตาหลังจากเขาได้สติแล้ว เห็นความตกใจลนลานและการหลบหลีก คิดว่าเป็นความเสียใจของเขาแล้ว หัวใจของนางก็ท้อแท้

พี่อวิ๋นไม่มีความรู้สึกแบบนั้นกับนาง ไม่มี

อามู่ที่กำลังร้องไห้ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงหญิงนางหนึ่ง ถัดมานางก็ได้ยินเสียงชายที่ทุ้มต่ำแหบแห้งอีกเสียง ราวกับกำลังปลอบหญิงผู้นั้น

อามู่เงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกตะลึง ท่ามกลางสายหมอกจางๆ ห่างไปสิบกว่าก้าวด้านหน้า มีชายหญิงคู่หนึ่งกอดกันแน่น ชายรู้ร่างสูงใหญ่ล่ำ หญิงเส้นโค้งเว้าอรชรดึงดูดคน ราวกับถูกฝังอยู่ในอ้อมอกผู้ชายอย่างนั้น มือของนางประทับอยู่กับแผ่นอกของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ