ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 471

เกายู่หู่ตัดสินใจจะให้บทเรียนครั้งยิ่งใหญ่กับผู้มาเยือน ดังนั้นแพล็บเดียวก็เคลื่อนมือธนูพันนาย อย่าว่าแต่อย่างอื่น คันธนูเหล่านั้นของเขาล้วนทำจากเหล็กเย็น มากมายถี่ยิบเล็งขึ้นบนฟ้า แสงจันทร์ต้องหัวศร แสงเย็นยะเยียบยิบๆ อายสังหารพุ่งทะยานฟ้า

นี่ก็คือความภาคภูมิใจอีกอย่างหนึ่งของเกายู่หู่

หน่วยเทพเกาทัณฑ์ คันธนูล้วนทำจากเหล็กเย็นชั้นดี พันกว่าคนนี้ไม่ต้องสนใจอย่างอื่น วันๆ ฝึกแต่ทักษะการยิงธนู ของกินของใช้ล้วนเป็นมาตรฐานระดับสูง เป็นอาวุธลับที่เขาบ่มเพาะเป็นการเฉพาะ เวลานี้ผู้มาเยือนทำให้เขาโมโห ดังนั้นเขาจึงส่งหน่วยเทพเกาทัณฑ์นี้ออกไปทันที

"ท่าทางร้ายกาจมาก เพียงแต่พวกท่านกลางคืนได้กินมื้อดึกแล้วหรือยัง? อย่าได้หิวจนไม่มีเรี่ยวแรงง้างธนูเชียวล่ะ" บนฟากฟ้ามีเสียงหญิงสาวสดใสดังมาอีก แต่ฟังดูแล้วเจือการเสียดสีอย่างชัดเจน แถมยังกำลังหัวเราะ เสียงหัวเราะนั้นเกายู่หู่ฟังจนมีไฟสุมอยู่เต็มอก ทั้งฟังจากเสียงเป็นแค่ดรุณีน้อยนามหนึ่ง เสียงของนางยังสามารถอัดแน่นจนเกือบเป็นวัตถุจริง เสมือนพูดต่อหน้า กำลังภายในนี้ล้ำลึกกว่าเขาอีก! นี่มิใช่การตบหน้าเขาเพียะๆ หรือ?

เกายู่หู่อายุประมาณสี่สิบปีแล้ว อีกทั้งร่างกายสูงใหญ่มาก เพียงแต่ไม่ได้สูงใหญ่ล่ำไม่มีไขมันส่วนเกินเหมือนอย่างเฉินซ่า แต่เป็นความล่ำตัวหนา มีท้องกลมๆ ที่ใหญ่มากเป็นพิเศษ แถมยังดูอายุมากกว่าวัย บุรุษบางคนอายุสี่สิบแล้วยังเป็นท่านลุงรูปงาม ส่วนเขามีตีนกาอยู่ทั่วใบหน้า แต่เพราะเช่นนี้ ต่อหน้าผู้อื่นจึงมีท่าทางน่าเกรงขามผิดปกติ และเพราะเขามีวรยุทธ์เป็นเลิศ ดังนั้นผู้ใต้อาณัติจึงทั้งเคารพทั้งหวั่นเกรง ไม่เคยมีผู้ใดกล้ายั่วยุเขา

แต่เวลานี้เขาถูกดรุณีน้อยนามหนึ่งมายุแหย่ถึงที่ ขณะที่เขาส่งหน่วยเทพเกาทัณฑ์อันเป็นที่ภาคภูมิใจเป็นที่สุดของเขาออกไปก็ยังไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ เป็นการดูถูกเขาแล้วยังดูถูกความสำเร็จของเขาโดยแท้!

นางยังกล้าดูถูกเขาอีก?!

"แม่นางที่ไม่กล้าเผยตัว แน่จริงเจ้าก็อย่าหนี ลองดูสิว่ามือธนูของข้าจะยิงอินทรีของเจ้าเป็นอินทรีเดี้ยงได้หรือไม่!"

เขาตวาดเสียงหนัก

โหลชีหัวเราะชอบอกชอบใจ เสียงใสกังวานจนทำให้คนที่อยู่เบื้องล่างเริ่มจินตนาการรูปพรรณของนาง

"ผู้ใดไม่เผยตัว? แน่จริงท่านก็เหาะขึ้นมาดูสิ ข้ามิได้สวมผ้าปิดหน้า มิได้หลบซ่อน ที่แท้หน่วยเทพเกาทัณฑ์ของท่านต้องให้คนยืนนิ่งไม่ขยับจึงจะยิงถูกหรือ? ช่างเป็นเก่งกาจโดยแท้ เก่งกาจมาก! ข้านับถือเหลือเกิน!"

ดวงหน้าเกายู่หู่ขมึงตึงอีกหลายส่วน!

"ท่านจอมพล สั่งการมาเถอะขอรับ!" ทุกคนในหน่วยเทพเกาทัณฑ์ก็มีใบหน้าโกรธจัดเช่นกัน ถูกคนดูถูกดูแคลนอย่างนี้ พวกเขาที่ภาคภูมิจนเคยตัวทนได้ที่ไหน? ทนได้ที่ไหน?! เวลานี้พวกเขาจะไม่ยอมให้นางหนีแล้วค่อยยิงหรอก ยิงเลยเป็นอย่างไร!

"เตรียม!" เกายู่หู่ยกมือขึ้น

ยามนี้ ฮูหยินเกาฟื้นขึ้นมาแล้ว วิ่งล้มลุกคลุกคลานออกมา ครั้นเห็นคันธนูเล็งขึ้นบนฟ้า นางขวัญหนีดีฝ่อ กระโจนเข้าหาเกายู่หู่ "นายท่าน แบบนี้ไม่ได้นะ ถ้าไม่ระวังทำร้ายถูกอินอินจะทำอย่างไร?"

ครั้นจบวาจานี้ของนาง บนท้องฟ้าก็เป็นเสียงหัวเราะใสกังวานทำให้คนคันไม้คันมือ "นั่นสิ เกิดพวกเจ้ายิงไม่ถูกอินทรีตัวเบ้อเร่อนี้ของข้า แต่กลับยิงถูกคุณหนูเกา นั่นไม่น่าอับอายจนชนกำแพงหรือ? ใคร่ครวญให้ดีก่อนเถิด"

"จริงๆ เลย...น่าโมโหชะมัด! ยิง! ยิงๆๆ! ยิงไอ้อินทรีตัวนั้นให้ตาย!" เขาต้องการให้นังเด็กนั่งตกลงมา เขาต้องเหยียบนางให้แบนแน่!

หัวหน้าของหน่วยเทพเกาทัณฑ์คารวะฮูหยินเกาหนหนึ่ง "ฮูหยินโปรดวางใจ พวกข้าน้อยจะไม่พลาดทำร้ายถูกคุณหนูเด็ดขาดขอรับ! หากทำร้ายถูกคุณหนู ข้าน้อยจะมอบศีรษะของตัวเองเป็นการขอขมาขอรับ!"

ฮูหยินเกากำลังคิดว่าข้าจะเอาศีรษะเจ้าไปทำอะไร จู่ๆ อินทรีย์ยักษ์กลางเวหาก็โฉบบินเฉียงลงมา สยายปีกลาดเอียง หอบลมคลั่งหนึ่ง

ก็ขณะที่ทุกคนถูกพัดจนล้มระเนระนาด หัวหน้าหน่วยเทพเกาทัณฑ์ผู้นั้นที่เมื่อครู่ทำหน้าโกรธจัดรับประกัน รู้สึกเพียงแสงเย็นแวบผ่านตรงหน้า ลำคอเย็นวาบ เขาคล้ายเห็นเรือนร่างตัวเองล้มลง...แต่จะเป็นไปได้อย่างไร?

เขาก็ต้องไม่รู้อยู่แล้ว อาจเป็นเพราะศีรษะของเขาถูกตัดไปแล้ว!

ศีรษะนั้นปลิวออกไปอยู่เหนือศีรษะมวลชน เลือดที่ตกลงมาเป็นดั่งหยาดฝน การเปลี่ยนแปลงฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนต้องระทึก

อีกฝ่ายลงมือฉับไวเช่นนี้! เร็วจนพวกเขายังไม่ทันรู้สึกตัว! อินทรีตัวนั้นพุ่งขึ้นเวหาอีกครั้ง ช่วงเมื่อครู่นี้ ลากเกาอินอินครูดกับพื้นระยะหนึ่ง แล้วลากขึ้นไปอีก

โหลชีขึ้นเสียงหัวเราะ "ดูสิข้ามีเมตตาขนาดไหน ท่านนี้บอกว่าจะมอบศีรษะให้ฮูหยิน ข้าก็เลยช่วยเขา! ศีรษะนี้ ฮูหยินเกาต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีล่ะ!"

ครั้นสิ้นเสียง ศีรษะนั้นก็ตกลงจากฟากฟ้า กระแทกลงตรงหน้าฮูหยินเกา

ฮูหยินเกาตาโตเงยหน้าขึ้น สบกับดวงตาเบิกโพลงตายตาไม่หลับของหัวหน้าพอดี สีหน้าขาวเผือด หวาดกลัวหนัก

นางร้องเสียงหลง แล้วหมดสติไปอีกครั้ง

เกายู่หู่โมโหจนตัวสั่นเทา เลือดลมพุ่งขึ้นศีรษะ ตะคอกเอ่ย "ยิง!"

ลูกธนูคมกริบเป็นพันดอกพุ่งไปทางอินทรียักษ์ ราวกับทะเลลูกศรเนืองแน่นมิปาน แต่ที่ให้ประหลาดใจคือ พวกเขากลับสามารถหลบหลีกเกาอินอินที่อยู่กลางอากาศได้จริง! ทักษะการยิงธนูนี้เรียกได้ว่าเป็นเลิศในใต้หล้า!

เฉินซ่านั่งสบายอยู่บนแผ่นหลังอินทรี เงียบมาตลอด ยามนี้กลับพยักหน้าเอ่ย "หน่วยเทพเกาทัณฑ์ของเกายู่หู่ร้ายกาจจริงๆ หากคืนนี้เราไม่ได้มาสำรวจ ไม่แน่ว่าเผชิญกับกองทัพใหญ่จะเสียเปรียบมากได้"

"ร้ายกาจแล้วอย่างไร? ถ้าตอนนี้พวกเราอยู่ข้างล่าง เช่นนั้นบางทียังอาจหลบหัวซุกหัวซุนบ้างก็ได้ แต่เรามีเจ้าขาวนี่!" ไม่รู้ว่าตอนที่ยู่ไท่จื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองมอบราชันอินทรีเขาหิมะตัวนี้ให้นางจะเสียใจสุดซึ้งหรือเปล่า!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ