ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 470

โหลชีส่งเสียงร้องอินทรีออกมาสองสามเสียง แล้วใช้กำลังภายในส่งออกไปที่ไกล

จริงๆแล้วนางก็มิได้อ่อนแอเช่นนี้ ต้องอยู่ในความปกป้องของพวกเขา แต่เนื่องจากตอนนี้แยกออกจากเฉินซ่าไม่ได้ และนางก็มีความรู้เรื่องกลไกไม่เท่าเขาด้วย ก็เลยให้เขาจัดการเอาเอง ส่วนนางก็นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขารอเจ้าขาวมา การที่ปล่อยให้คนอื่นปกป้อง และก็มิต้องทำอะไรทั้งสิ้น มันก็สนุกดีอยู่นะ

อีกฝ่ายคิดไม่ถึงแน่นอนว่า กับดักที่ตัวเองวางแผนมาอย่างดี กลับถูกนางรู้สึกสนุก ถ้ารู้เข้าคงต้องโมโหมากแน่

ส่วนสีหน้าของเฉินซ่าแย่ลงเรื่อยๆ

พอเจ้าขาวบินมาถึง พวกเขาก็รีบกระโดดนั่งขึ้นไป คนที่ซ่อนอยู่ในป่าคิดจะออกมาห้ามแต่ก็ไม่ทันแล้ว ทำได้แต่ดูเจ้าขาวพาพวกเขาบินไปอย่างง่ายดาย รู้สึกโกรธขรึมมาก

"รีบกลับไปแจ้งจอมพลและกุนซือ แผนล้มเหลว จะให้ดำเนินแผนชุดที่สามหรือเปล่า!"เสียงที่เย็นชาดังก้องในป่า

"ขอรับ!"

พอพวกเฉินซ่ากลับมาถึงกองทัพ ก็รีบเข้าไปในกระโจม และเรียกอิงกับแม่ทัพท่านอื่นๆเข้ามาปรึกษา ส่วนโหลชีก็มีวิธีการรักษาเชื้อตัวนั้นแล้ว

พบต้นเหตุแล้ว ขอให้แยกผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกก่อน และอย่าเพิ่งตั้งไฟหุงข้าวก่อนก็จะไม่มีผู้ป่วยรายใหม่แล้ว

นางนำหนอนกู่ลักษณะคล้ายด้ายตัวบางๆหลายตัวนั้นกลับมาศึกษาครึ่งชั่วโมง อยู่ๆก็นึกถึงวู๊วู เห็นได้ชัดว่าวู๊วูมีความรู้สึกต่อเชื้อโรคแบบนี้ แล้วเป็นไปได้หรือเปล่าว่า มันสามารถยับยั้งเชื้อแบบนี้ล่ะ?

"วู๊วูมานี่สิ"

นางโบกมือใส่วู๊วู วู๊วูมองนางด้วยความกลัว จากนั้นก็ถอยไปสองก้าว โหลชีตะลึง รู้สึกว่าพฤติกรรมของวู๊วูคล้ายกับครั้งที่แล้ว ที่ตระกูลเซียวต้องการเลือดหลายหยดของวู๊วูไปหลอมอาวุธวิเศษ แล้วนางเตรียมจะไปเอาเลือดของมัน

นางเข้าใจขึ้นมาทันที จึงดึงพิชิตวันที่อยู่ข้างๆออกมา แล้วทำท่าชูใส่วู๊วู อย่างที่คิดวู๊วูหดตัวลงอย่างน่าสงสาร และหลบไปที่มุมห้อง

เห็นได้ชัดว่าจิ้งจอกม่วงตัวนี้รู้อยู่แล้วว่าเลือดของมันใช้รักษาเชื้อนี้ได้!แต่ถึงแม้มันรู้ว่าเลือดตัวเองใช้รักษาได้ มันก็ไม่อยากถูกดูดเลือดเพราะมันกลัวเจ็บ ดังนั้นก่อนหน้านี้ที่สนิทสนมกับเฉิงสิบ อาจจะเป็นเพราะความรู้สึกผิดแหละ และมันยังช่วยนางหาต้นเหตุติดเชื้ออีก เป็นเพราะอยากให้นางหาวิธีอื่นมารักษาใช่เปล่า?

โหลชีรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทอดถอนใจอีกทีว่าไอ่น้อยนี่อัจฉริยะจริงๆเลย

นางก็สงสารมัน แต่ตอนนี้เวลาไม่พอแล้ว คืนนี้พวกเขารอดพ้นจากกับดักของศัตรู พวกเขาจะต้องมีแผนอย่างอื่นตามมาแน่นอน ดีสุดตอนนี้นางควรรีบรักษาผู้ป่วยให้เร็วที่สุด

"เด็กดีนะ มานี่เร็ว"นางหยิบเม็ดยาที่ทำมาจากหญ้าเทียนจีที่มันชอบที่สุดออกมาขวดหนึ่ง แล้วโบกมือใส่นาง

ถึงแม้บรรดาแม่ทัพไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาประชุมอยู่ที่นี่ แต่พระสนมยังนั่งพิงฝ่าบาท แถมยังเล่นกับจิ้งจอกน้อยอีก แต่พวกเขาไม่กล้าเสือกไปถามหรอก เพราะความรักใคร่ที่ฝ่าบาทมีต่อพระสนมพวกเขาล้วนเคยเห็นกับตาแล้ว

เฉินซ่าหันไปเห็นจิ้งจอกม่วงสั่นหัวและกระดิกหางอยู่ที่เดิม เห็นได้ชัดว่ามันไม่อยากเข้าใกล้โหลชี ก็เลยตะลึง เมื่อก่อนมันชอบวิ่งเข้าหาอ้อมแขนของนาง แต่มักจะถูกเขาโยนออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า

"ข้าสงสัยว่าเลือดของมันรักษาเชื้อโรคนี้ได้"โหลชีเห็นเขาสงสัย เลยอธิบายเบาๆ

เฉินซ่ารู้สึกแปลกใจ ตะลึงและพูดต่อว่า"ผู้ป่วยนับพันคน หากต้องใช้เลือดของมันรักษา งั้นก็ต้องใช้เลือดทั้งหมดของมันอย่างนั้นหรือ?ช่างเถอะ คิดวิธีอื่นละกัน ถึงแม้ให้ผู้ป่วยพวกนี้อยู่รักษาก่อน ทหารที่เหลือก็พอสู้รบแล้ว"

ตอนนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นก็ดีแล้ว ถึงแม้เขาไม่ค่อยชอบจิ้งจอกน้อยตัวนี้ แต่ยังไงมันก็เป็นสัตว์อัจฉริยะ เติบโตถึงขั้นนี้ไม่ง่ายเลย ถ้าต้องใช้ชีวิตของมัน มาแลกกับชีวิตทหารของเขา เขาจะรู้สึกติดบุญคุณเจ้าน้อยตัวนี้ จะไม่ค่อยสบายใจ

มันเหมือนฟังออกคำพูดของเฉินซ่า คิดไม่ถึงว่าฝ่าบาทที่ทำตัวเย็นชากับมันในปกติกลับเมตตากับมันเช่นนี้ ไม่อยากใช้เลือดของมันไปช่วยคนเหล่านั้น ลูกตากลมของมันหมุนไปหมุนมา จนกระทั่งน้ำตาคลออยู่ในตา มองเขาด้วยดวงตาที่เปียกชื้น เห็นได้ชัดว่ามันซาบซึ้งใจแล้ว

โหลชีเห็นมันทำท่าแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมา"จุ๊ๆๆ ดีนะมันไม่ใช่ปีศาจที่สามารถแปลงร่างเป็นสาวงามได้ ดูสิมันซาบซึ้งใจแบบนี้ ถ้าแปลงร่างเป็นสาวงามได้ก็คงจะแต่งงานกับเจ้าเพื่อตอบแทนบุญคุณแล้วเนอะ?"

พอพูดเสร็จ นางก็โดนตบหัวทีหนึ่ง"เจ้านี่พูดเพ้อเจ้ออีกแล้ว"

เฉินซ่าทำหน้าบึ้งตึง อยากจะตีตูดนางจริงๆเลย

แม่ทัพแต่ละคนต่างก้มหน้ากัน พยายามลดตัวตนลง แกล้งทำเป็นว่าตัวเองไม่อยู่ในนี้

ฝ่าบาท พระสนม เจ้าสองคนสนิทสนมแสดงความรักกันต่อหน้าผู้ชายที่สู้รบอยู่ข้างนอกมาหนึ่งเดือน ยังไม่มีโอกาสได้ระบายความต้องการสักหน่อย แบบนี้มันดีจริงหรือ?

ต่อหน้าพวกเขาฝ่าบาทจะเป็นคนเย็นชาและพูดน้อยตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าอยู่ต่อหน้าพระสนมจะมีน้ำใจเช่นนี้

โหลชีไม่มีเวลาไปสนใจแม่ทัพพวกนี้คิดอะไรอยู่หรอก นางแค่รู้สึกว่าจิ้งจอกตัวนี้กับผู้ชายคนนี้ไม่เชื่อใจนางเลย เข้าใจผิดนางแล้ว นางทำหน้าจริงจังแล้วเอ่ยว่า"ในสายตาของพวกเจ้าข้าไร้ซึ่งน้ำใจอย่างงั้นหรือ?ข้าต้องการเลือดของวู๊วูก็จริง แต่ก็แค่เอาหน่อยเดียวมาวิจัยเท่านั้น ข้าจะหาสิ่งที่ทดแทนให้ได้ ถึงแม้ต้องใช้จริงๆ ข้าก็เอาไม่เยอะหรอก คิดว่าข้าจะดูดเลือดทั้งหมดของมันไป ให้มันกลายเป็นเนื้อจิ้งจอกแห้งอย่างงั้นหรือ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ