ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 484

อันดับแรก คุณหนูรองชิวเป็นลูกสาวคนที่สองของภรรยาเอกในอุทยานเขาธนูเทพ มีพรสวรรค์อันนี้แต่เล็กอยู่แล้ว แต่กลับปกปิดทุกคนแอบฝึกธนูนำวิถี ต้องเป็นเพราะนางพบความลับของอุทยานเขาธนูเทพตั้งแต่ยังเล็กมากแน่ ความลับนี้ทำให้นางหวาดระแวงครอบครัวของตนเอง เลยตัดสินใจออกมา ฝึกธนูไปพลาง ใช้เทคนิคการดัดแปลงของตนที่มีต่อธนูมารักษาตำแหน่งฐานะไปด้วย นี่ช่างกล้าหาญกล้าคิดละเอียดรอบคอบเสียจริงๆ

นิสัยแบบนี้โหลชีชอบนัก อีกอย่างทั้งที่รู้ว่ามาเขาเวิ่นเทียนครั้งนี้คือมาเป็นของขวัญให้กับผู้อาวุโสใหญ่ นางก็ยังคงมาอยู่ดี แสดงว่านางถือโอกาสครั้งนี้เป็นโอกาสในการหนีจากอุทยานเขาธนูเทพ เดิมต้องวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ แต่เพราะพบว่าที่บ้านส่งจดหมายมา ยังไม่ทันรู้เนื้อหาจดหมาย ก็รีบเปลี่ยนแผนดำเนินการทันที วิ่งมาขอให้นางช่วยจัดงานแต่งให้ต่อหน้านาง ความกล้าและการตัดสินใจมั่นคงเด็ดขาดแบบนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาจะมีได้

นี่เป็นแค่สาวน้อยอายุสิบกว่าปีเท่านั้นเองนะ

ดังนั้นโหลชีชื่นชมคุณหนูรองชิวคนนี้มาก

"ข้ารับปากเจ้า" นางกะพริบตาให้เฉินซ่าก่อนจากนั้นหันไปทางคุณหนูรองชิว ดวงตาคุณหนูรองชิวมีน้ำเอ่อคลออย่างรวดเร็ว รีบคุกเข่าลงโขกศีรษะสามครั้ง "บุญคุณที่ช่วยชีวิตของฝ่าบาทและพระสนม ชิ่นเซียนจะขอเป็นทาสเป็นบ่าวรับใช้ตอบแทนทั้งสองท่าน!"

"ลุกขึ้น" โหลชีส่งสายตาให้เฉิงสิบ เฉิงสิบนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเข้าไปพยุงนางลุกขึ้น

โหลชีทนไม่ไหวหัวเราะออกมา พลางส่งสายตาหาเขา เฉิงสิบ "..."

แม่นาง ไม่ทำเยี่ยงนี้ได้หรือไม่?

นายบ่าวสองคนส่งสายตากันไปมา มีแต่เฉินซ่าที่มองเห็นแล้ว เขาเลิกคิ้ว ทนไม่ไหวเหล่มองอวิ๋น รู้สึกหน่ายใจอีก ชีชีของเขารักพวกพ้องเสมอมา มีของดีอะไรต้องเอาให้คนกันเองก่อน เห็นได้ชัดว่า เฉิงสิบกับอวิ๋น เฉิงสิบถึงจะเป็นคนกันเองกับนาง

เขาได้แต่ยอมตามใจนาง

คุณหนูรองชิวโดนเฉิงสิบพยุงขึ้นมา รู้สึกแต่ว่ามีความอบอุ่นมากแผ่ซ่านมาจากฝ่ามือเขาที่จับท่อนแขนนางไว้ ทำให้นางใจกระตุกวูบ ทนไม่ไหวหันมองเขาหนึ่งที

เฉิงสิบกลับปล่อยนางออกแล้วถอยไปหลายก้าว กลับไปยืนข้างหลังโหลชี คุณหนูรองชิวมองทั้งห้องโดยรอบ เฉินซ่าพูดเสียงเรียบ "พวกเจ้าถอยไป อวิ๋นกับเฉิงสิบอยู่ก่อน"

อิ้นเหยาเฟิงขบกัดริมฝีปากแผ่วเบา มองเฉิงสิบหนึ่งที ก่อนจะเดินตามอามู่ออกไป และช่วยพวกเขาปิดประตู

คราวนี้คุณหนูรองชิวถึงหายใจคล่องคอหน่อย พลางว่า "ข้ามิใช่ลูกสาวแท้ๆของเจ้าสำนักแห่งอุทยานเขาธนูเทพ อันที่จริงเขาเก็บพวกเรามาเลี้ยง อีกอย่าง ท่านพี่ใหญ่นาง...ก็รับใช้เจ้าสำนักตั้งแต่อายุสิบสี่ปีแล้ว..."

อะไรนะ?

โหลชีขมวดคิ้ว ตระกูลน่ารังเกียจอีกตระกูลละ พ่อในนาม กับลูกสาวในนาม...

และเพราะค้นพบความลับอันน่ารังเกียจเหล่านี้ ชิวชิ่นเซียนจึงเริ่มปกปิดตัวเอง และพยายามเพื่อให้สามารถหลุดพ้นจากอุทยานเขาธนูเทพ แต่คราแรกนางแสดงฝีมือการดัดแปลงขนลูกศรออกมาเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ ต่อมาจะจากไปมันก็ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว

ครั้งนี้ต้องโดนเอาไปส่งตัวให้ผู้อาวุโสใหญ่ ทำให้นางแทบอยากฆ่าตัวตาย แต่นางค้นพบในทันทีว่านี่ก็เป็นโอกาสที่ดีมากโอกาสหนึ่ง โดยเฉพาะหลังจากเกิดเรื่องมากมายขึ้นเมื่อคืน ถึงนางจะไม่มีหลักฐานะ แต่ก็ปักใจเชื่อไปแล้วว่าเป็นฝีมือของเฉินซ่าและโหลชี

ดังนั้นพวกเขาจึงมีความสามารถปกป้องคุ้มครองนางได้ คุณหนูรองชิวครุ่นคิดอยู่สองชั่วยามก็ตัดสินใจตัดทางรอดแล้วเดินหน้าเอาให้สำเร็จ

"บอกความลับที่เจ้ารู้มา" ถึงโหลชีจะชื่นชมผู้หญิงคนนี้ เฉินซ่ากลับไม่มีความอดทนเท่าไหร่ในการนั่งอยู่ที่นี่ฟังนางพล่าม มีเวลาเขาไม่สู้เอาไปอยู่บนเตียงกับชีชีดีกว่า

ได้ยินแววเย็นชาและรำคาญของเขา คุณหนูรองชิงสะท้านเยือก นางหวาดกลัวเฉินซ่าจริงๆ ดังนั้นเลยเลื่อมใสโหลชีเอามากๆที่สามารถอยู่กับเขาได้อย่างผ่อนคลายสบายเช่นนี้

"ความลับนั้น..." คุณหนูรองชิวสูดลมหายใจเข้าปอด และกดเสียงต่ำอีกครั้ง "เจ้าสำนักของอุทยานเขาธนูเทพมิใช่เจ้าสำนักแต่เดิม! ข้าไม่รู้ชื่อจริงของเขา แต่เขามาจากแผ่นดินใหญ่หลงหยิน เขาติดต่อเจรจากับคนที่เรียกว่าท่านอริยะมาตลอด"

เฉินซ่ากับโหลชีสบตากันอีก

"ท่านอริยะมีชื่อว่าจางมิ่ง?" โหลชีถาม

คุณหนูรองชิวอึ้งเล็กน้อย "พระสนมรู้?"

"เจ้าพูดต่อเลย"

"ข้าเคยแอบฟังพวกเขาคุยกันลับๆหนึ่งครั้ง วิทยายุทธ์ของเจ้าสำนักแห่งอุทยานเขาธนูเทพสู้จางมิ่งไม่ได้ ดูเหมือนจะเชื่อฟังคำสั่งของเขา พวกเขากำลังตามหากองทหารกองหนึ่งมาตลอด! ได้ยินว่า กองทหารกองนั้นมาจากแผ่นดินใหญ่หลงหยิน นั่นเป็นทหารของราชตระกูลเฉิน! ทหารห้าหมื่นนายนั้นมาตามหาองค์รัชทายาทของพวกเขา และพวกเขาก็รู้ร่องรอยของกองทหารกองนั้นแล้วด้วย พวกเขายังบอกอีกว่า"

นางเหลือบมองเฉินซ่าอย่างรวดเร็ว และพูดต่อว่า "ฝ่าบาทน่าจะเป็นสายเลือดราชตระกูลเฉิน! กองทหารกองนั้นมีห้าหมื่นนาย แต่ละคนโดนกักขังไว้ด้วยวิชาชนิดหนึ่ง พวกเขาไม่มีทางแก้ไขได้ ทหารที่แก้ไขไม่ได้ก็ไม่สามารถใช้การเพื่อพวกเขาได้ จางมิ่งบอกว่า บางทีอาจจะลองหลอกฝ่าบาทให้หลงกล บางทีอาจจะมีแต่สายเลือดราชตระกูลเฉินถึงจะแก้ไขการกักขังชนิดนั้นได้"

โหลชีเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง

ดังนั้นจางมิ่งหลอกพวกเขา?

ดังนั้นคือห้าหมื่นคน ไม่ใช่ห้าแสนคน?

โหลชีสบตากับเฉินซ่าหนึ่งครั้ง สมองทั้งคู่วิ่งวนอย่างรวดเร็ว และเอาข่าวที่ได้มาต่อกัน จางมิ่งเจ้าเล่ห์กว่าที่พวกเขาคิดมากนัก ต่อให้นางใช้ซือเอ๋อร์ไปล่อหลอกเขา ก็ยังถามเรื่องจริงออกมาไม่ได้ กลับโดนหลอกแทนซะอีก

อีกอย่างพวกเขาคงหากองทหารห้าหมื่นนายนั่นเจอแล้วแน่ และควบคุมไว้แล้วด้วย ในเมื่อทหารห้าหมื่นนายนี่โดนอะไรกักขังไว้ ต้องแสดงอานุภาพเดิมออกมาไม่ได้แน่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ