ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 502

หญ้าปีศาจ กลิ่นของหญ้าปีศาจในที่หยิน!

ในวังใต้ดินแห่งนี้ ในขณะที่ทหารราชาอสูรเทพเหล่านี้ค่อยๆลืมตาขึ้นมา ปากถ้ำที่อยู่ลึกที่สุดก็เปิดออก ข้างล่างมีเครื่องเป่าลม เป่าผงหญ้าปีศาจจำนวนมากลอยขึ้นมา

ทันใดนั้นกลิ่นก็ลอยคละคลุ้งไปทั่ว

หญ้าปีศาจในที่หยิน บดเป็นผงแล้วบวกอะไรลงเล็กน้อย ก็จะสามารถทำผงยาที่แข็งแกร่งที่สุดในการทำหุ่นเชิดได้แล้ว ในช่วงเวลานี้ ในที่สุดโหลชีก็รู้แผนการของพวกเขาแล้ว

มีเพียงแต่ตอนที่เฉินซ่ากำลังทำการปลดปล่อยอยู่ การระมัดระวังตัวของทุกคนจะอ่อนแอที่สุด ต่างก็กำลังตั้งหน้าตั้งตารอกันอย่างตื่นเต้นดีใจกันอยู่ ในตอนที่บรรดาทหารชั้นยอดเหล่านี้ยังไม่ตอบสนองกลับมา ในเวลานี้แหละ ใช้ของแบบนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว

พวกเขาจะทำให้ทหารราชาอสูรเทพนับหมื่นๆกลายเป็นหุ่นเชิด! เป็นเช่นนั้นจริงๆ ของที่ไม่ใช่ของพวกเขาสามารถแย่งชิงได้ แต่ว่าทหารที่ไม่ใช่ของพวกเขาจะทำอย่างไรได้? เช่นนั้นก็ทำได้เพียงชิงสติของพวกเขา แล้วทำให้พวกเขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิดใดๆนอกจากทำตามคำสั่งเท่านั้น

นี่มันไร้ยางอายชัดๆ ทำเกินไปแล้ว!

ไม่ นี่มันสมควรตายชัดๆ!

โหลชีคำรามออกมาอย่างโกรธเคืองทันที: "ถอยไปให้หมด!" ขณะเดียวกัน นางก็บินโฉบไปทางเฉินซ่า กดไหล่ของเขาเอาไว้ "หญ้าปีศาจในที่หยิน หุ่นเชิดติดอยู่ในค่ายกล! พวกเขาต้องการจะทำให้ทหารหลายหมื่นนายนี้เป็นเหมือนคนตายเดินได้!"

ลมหายใจของเฉินซ่าเยือกเย็นลงมากะทันหัน แต่ว่าเขาเชื่อมั่นในความสามารถของโหลชีมาโดยตลอด ไม่ได้พูดอะไรมาก รีบกล่าวถามขึ้นมาทันที: "ทำลายได้ไหม?"

"เยอะเกินไป คนเยอะเกินไป ผงหญ้าปีศาจก็เยอะเกินไป เวลาไม่เพียงพอ" โหลชีขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สาเหตุที่อีกฝ่ายฝังผงหญ้าปีศาจไว้ด้านล่าง ก็เพื่อขวางกั้นความเร็วในการทำลาย เพิ่มความยากให้มากขึ้น เพราะยังต้องลงไป ลมที่อยู่ด้านล่างก็พัดขึ้นมาตลอด หากคนจะลงไปก็จะถูกผงหญ้าปีศาจที่พัดขึ้นมา ติดเต็มหน้าเต็มหัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่

"สิ่งที่ยากที่สุดของเจ้าคืออะไร" เฉินซ่ากลับสงบนิ่งมาก แต่เขาเห็นชัดเจนว่าการแสดงออกทางสีหน้าของทหารที่อยู่ค่อนข้างใกล้เริ่มแข็งทื่อแล้ว

โหลชีกวาดตามองทั่วทั้งวังใต้ดินอย่างรวดเร็ว และวิเคราะห์ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากไปด้วย ขณะเดียวกันก็เรียบเรียงความคิดของตนเองเช่นกัน: "ไม่ใช่เพียงหญ้าปีศาจเท่านั้น เดิมทีขั้นบันไดทั้งสี่ทิศของวังใต้ดินก็คือค่ายกลอันหนึ่ง ค่ายกลอันนี้รวบรวมปราณหยิน ดึงดูดปราณชั่วร้าย พวกเขาอยู่ข้างในนานขนาดนั้น เดิมทีก็ได้รับผลกระทบอยู่แล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำลายก็คือปิดปากหลุมที่อยู่ข้างล่างทันที แล้วก็ ทำลายค่ายกล ดึงดูดชี่ทิพย์เข้ามา ลบล้างปราณหยิน"

ทหารที่กำลังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ของชีวิตมากมายขนาดนี้ เดิมทีก็มีพลังหยางมากเพียงพออยู่แล้ว ดังนั้นค่ายกลนี้ต้องวางได้อย่างโหดร้ายและเผด็จการมาก ต้องดึงดูดพลังแห่งความตายเข้ามามากเป็นพิเศษถึงจะสามารถบุกรุกและโจมตีพลังหยางของพวกเขาได้ แต่ว่าเขาเวิ่นเทียนเอาพลังแห่งความตายมากมายขนาดนั้นมาจากไหนกัน?

คน ต้องฆ่าคน พวกเขาต้องฆ่าคนจำนวนมากแน่นอน

แต่ว่าเขาเวิ่นเทียนมีชื่อเสียงทางด้านผู้บำเพ็ญเพียรมาโดยตลอด จะมีคนมากมายจากไหนมาให้ฆ่า? นอกเสียจากว่า พวกเขาจะส่งลูกศิษย์ออกไปบ่อยๆ จากนั้นก็เลือกลงมือกับพวกนักเลงอันธพาล คนเร่ร่อน ขอทานหรือไม่ก็ผู้ลี้ภัยโดยเฉพาะ คนเหล่านี้หากจู่ๆหายตัวไป ก็จะไม่มีคนตามหา

นางอดกล่าวถามขึ้นมาไม่ได้: "หลายปีก่อนเขาเวิ่นเทียนเคยทำเรื่องใหญ่อะไรไหม?"

เฉินซ่าไม่ได้ตอบคำถาม กลับเป็นอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างกล่าวตอบขึ้นมาทันที: "ห้าปีก่อนมีครั้งหนึ่ง เขาเวิ่นเทียนประกาศว่าต้องการจะทำทานต่อผู้ลี้ภัยในใต้หล้า สี่แคว้นมีผู้ลี้ภัยนับไม่ถ้วนที่บ้านเกิดมีภัยพิบัติต่างก็มารวมกันมาทางนี้ หลังจากนั้นเขาเวิ่นเทียนยังป่าวประกาศต่อคนใต้หล้า ผู้ลี้ภัยพวกนั้นได้รับข้าวสารจากที่นี่ทุกคน พากันกลับบ้านเกิดของแต่ละคนไปแล้ว"

นั่นก็ถูกแล้ว คนพวกนั้นต้องอยู่ตายที่นี่แน่นอน

ต้องฆ่าคนหลายหมื่นคนในเวลาเดียวกัน เขาเวิ่นเทียนไม่ใช่เขาเซียน แต่เป็นนรก

ในเวลานี้โหลชีก็รู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อยเช่นกัน แต่นางกำลังคิดถึงเรื่องค่ายกลอยู่ เลยไม่ได้คิดอะไรมาก ความรู้สึกผิดปกติเล็กน้อยนั่นก็แวบผ่านไป

แต่เฉินซ่าก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเช่นกัน ราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"ชี่ทิพย์มาจากไหน?" เฉินซ่ากล่าวถามขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วก็กล่าวอีกว่า: "ข้าไปอุดปากหลุมที่อยู่ด้านล่าง"

"ฝ่าบาท พระสนม พวกข้าน้อยก็เข้าไปช่วยด้วย!" อวิ๋นและคนอื่นๆก็จะพุ่งเข้ามาเช่นกัน

โหลชีกลับขวางพวกเขาเอาไว้ทันที: "พวกเจ้าเข้ามาไม่ได้ พวกเจ้าเจอกับของพวกนี้แล้วไม่สามารถต้านเอาไว้ได้เลย ข้ามอบหมายภารกิจให้กับพวกเจ้า ไปหาของบางอย่าง ยิ่งเยอะก็ยิ่งดี" นางท่องวัสดุออกมาเป็นพรวน ทุกคนก็รีบแยกย้ายกันไปหาทันที

ใบหน้าของฉินซูเป่าและคนอื่นๆเต็มไปด้วยความโกรธเคืองและกังวล "ไท่จื่อเฟย แล้วพวกข้าล่ะ?"

โหลชีมองพวกเขาครู่หนึ่ง: "ข้าวาดตำแหน่งให้กับพวกเจ้า พวกเจ้าแค่ต้องนั่งขัดสมาธิในตำแหน่งของตนเองก็พอ แต่ว่า ไม่ว่าอีกเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้าก็ห้ามลุกขึ้นเด็ดขาด ห้ามออกจากตำแหน่งนั้น ทำได้ไหม?"

"ทำได้!"

คนสิบเจ็ดคนตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงทันที

โหลชีก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก เปลี่ยนแส้ปลิดวิญญาณให้กลายเป็นแส้แข็ง แล้วก็วาดตารางขนาดหนึ่งลูกบาศก์เมตรออกมาสิบแปดอันรอบๆวังใต้ดินทันที การจัดเรียงของตารางเหล่านี้ดูแล้วไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆเลย แต่น่าจะพอประมาณโอบล้อมวังใต้ดินเอาไว้

"เข้าไป"

ฉินซูเป่าก็เข้าไปในตารางอันหนึ่งเช่นกัน นั่งขัดสมาธิลงไป มองสำรวจไปรอบๆก็เห็นว่ายังมีที่ว่างอยู่หนึ่งอัน กล่าวถามขึ้นมาทันที: "ไท่จื่อเฟย ยังขาดอีกคนหนึ่ง"

โหลชีมองดูวู๊วูที่อยู่ด้านข้างครู่หนึ่ง ถึงแม้จะรู้สึกอาวรณ์เล็กน้อย แต่ว่าตอนนี้ก็มีแค่มันเท่านั้นแล้ว

"วู๊วู"

วู๊วูเงยหน้ามองมาทางนาง ดวงตากลมโตสดใสเลื่อนไปมา "วู๊" มันกระโดดเข้ามา ถูอยู่ที่น่องของโหลชี จากนั้นก็หันหลังกระโดดเข้าไปในตารางอันนั้น ขณะเดียวกันก็ลดตัวนอนหมอบลงไป แล้วก็มองมาที่โหลชี ท่าทางนั่นดูเหมือนกำลังบอกว่า วางใจเถอะ ข้าจะไม่จากไปไหน!

"เด็กดี" โหลชีปลอบโยนมันคำหนึ่ง หันกลับมาก็เห็นเฉินซ่าหาก้อนหินขนาดใหญ่มาได้ก้อนหนึ่ง ยกขึ้นมาด้วยมือเดียว แล้วโยนลงไปทางหลุมดำที่อยู่ด้านล่าง

แต่ทันทีที่โยนก้อนหินนั่นลงไป ก้อนหินหนักขนาดนั้นแล้วแท้ๆ กลับยังถูกลมเบื้องล่างที่รุนแรงไร้ที่เปรียบพัดปลิวออกไปหลายมุม หลังจากที่กระแทกลงไปแล้วก็ปิดปากหลุมเอาไว้ได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ