"เหล่าไท่จวิน!"
เมื่อโหลฮ่วนเทียนเห็นสถานการณ์เช่นนี้ก็บันดาลโทสะขึ้นมา และจะพุ่งตัวออกไปทันที โหลชีดึงเขาเอาไว้ทันที
"ท่านพี่ มีการดักซุ่มโจมตี" บริเวณโดยรอบมีเสียงหายใจมากมายขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ามีคนมากมายดักซุ่มอยู่ เวลานี้บุ่มบ่ามเข้าใกล้ จะโดนกับดักแน่นอน
ดวงตาทั้งคู่ของโหลฮ่วนเทียนแดงก่ำ กัดฟันกล่าวว่า: "เสี่ยวชี ถึงแม้เหล่าไท่จวินจะปฏิบัติต่อข้ากับท่านแม่ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่ว่านางก็เป็นคนดีคนหนึ่งจริงๆ"
เมื่อก่อนเขาเคยรู้สึกไม่พอใจกับตระกูลโหลมากมาย แต่ว่าหลังจากที่โหลรั่วหว่านผู้หญิงคนนั้นมาถึงตระกูลโหล จากสิ่งต่างๆที่ทำออกมา เขาถึงได้พบว่าสิ่งที่เหล่าไท่จวินทำคือการแอบปกป้องเขามาโดยตลอด หากว่าเกลียดจริงๆ เป็นไปได้อย่างไรที่จะให้เขาเป็นนายน้อยของตระกูลโหล?
และเหตุผลที่ทำให้เหล่าไท่จวินถูกโหลรั่วหว่านควบคุม ก็เป็นเพราะเขาเป็นห่วงแม่เขาเกินไปจนไม่ระวังหลงกลเข้า ใช้เขามาข่มขู่เหล่าไท่จวิน นางถึงต้องยอมจำนน
ตอนนี้เห็นเหล่าไท่จวินได้รับการเหยียดหยามเช่นนี้ ไหนเลยที่เขาจะสามารถอดทนได้?
โหลชีกำลังจะพูดอะไร กลับได้ยินเสียงคำรามด้วยความโกรธ ซวนหยวนจื้อก็โพล่งออกมาโดยไม่ผ่านการทบทวนทันที บินโฉบไปทางเหล่าไท่จวินที่ถูกมัดอยู่ด้านบนเหนือซุ้มประตู
"ยิง!"
เสียงคำรามอ่อนโยนดังขึ้นในที่ลับ จากนั้นก็มีลูกธนูเต็มท้องฟ้ายิงมาทางซวนหยวนจื้อ
นั่นคือฝนลูกธนูที่มีขนาดใหญ่ ถึงแม้วรยุทธของซวนหยวนจื้อจะดีขนาดไหน ลำพังแค่คนเดียวไม่สามารถต้านเอาไว้ได้เด็ดขาด
เฉินซ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย ออกคำสั่งเสียงขรึม: "แม่ทัพฉิน!"
"ข้าน้อยรับคำสั่ง! กองราชาอสูรเทพ โล่แห่งทวยเทพ!"
กระบี่ติดตัวในมือของกองราชาอสูรเทพนับสิบคนหมุนวนลอยละล่องขึ้นมาทันที ราวกับโล่กำบังลอยพุ่งเข้าไป ขวางกั้นลูกธนูพวกนั้นเอาไว้ แล้วก็มีทหารกองราชาเทพอสูรอีกสิบกว่านายขึงลูกธนูไว้บนคันธนู ยิงไปยังตำแหน่งของกลุ่มคนที่ซ่อนอยู่ในที่ลับเหล่านั้น
มีเสียงกรีดร้องหลายเสียงดังขึ้นมา
กองราชาอสูรเทพเก่งกาจมากจริงๆ ถึงแม้กำลังภายในของพวกเขาจะไม่เพียงพอที่จะตัดสินได้ว่ามีการซุ่มโจมตีอยู่ตรงไหน แต่ก็สามารถตัดสินจากทิศทางที่ลูกธนูถูกยิงออกมาก่อนหน้านี้ได้
โหลเหล่าไท่จวินลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก มองดูชายชราที่กำลังบินโฉบมาทางตนเอง
หนวดเคราเช่นนี้ ใครก็อาจจะไม่สามารถจำเขาได้ มีเพียงนางเท่านั้น ที่จำเขาได้ในแวบแรกที่เห็น ปากของนางคร่ำครวญ น้ำตาหลั่งไหลลงมาอย่างบ้าคลั่ง ดิ้นรนอย่างแรง กลับทำให้เชือกป่านบนร่างกายรัดแน่นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ซวนหยวนจื้อรีบตัดเชือกขาดทันที กอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วบินโฉบกลับไปยังรถม้า และเฉินซ่าก็ออกคำสั่งให้โจมตีโดยตรง
กองราชาอสูรเทพเปิดทาง กองทหารโจมตีแนวป้องกันของตระกูลโหลแตกโดยตรง พุ่งเข้าไปในตระกูลโหล บนลานจัตุรัสมีศพนอนระเกะระกะกว่ายี่สิบศพ หนึ่งในนั้นยังมีศพของบรรดาหนุ่มสาวที่เดิมทีโหลชีและคนอื่นๆเห็นว่าติดตามอยู่ข้างกายของโหลรั่วหว่านก่อนหน้านี้อยู่ด้วยหลายศพ
โหลชีกับเฉินซ่ายืนเคียงข้างกันอยู่บนรถ มองเห็นไฟลุกไหม้ทางด้านเกาะใจกลางทะเลสาบ เปลวเพลิงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ควันโขมงขึ้นมา โหลฮ่วนเทียนโกรธจัด บินโฉบออกไป คนยังอยู่กลางอากาศ ฝ่ามือก็ตบออกไปยังสถานที่แห่งหนึ่งอย่างแรง
"โหลรั่วหว่าน เจ้ายังอยากจะหนีอยู่อีกหรือ?"
เงาร่างที่หันกลับมาจากหลังต้นไม้ต้นหนึ่งอย่างกะทันหันนั่น ไม่ใช่โหลรั่วหว่านหรอกหรือ?
เสียงปังดังขึ้นมา ฝ่ามือนั้นของโหลฮ่วนเทียนกำลังจะตบไปที่แผ่นหลังของนาง คนทั้งคนของนางก็กระโจนออกไปข้างหน้า โหลฮ่วนเทียนลอยตัวลงไปด้านข้างของนาง ยกเท้าถีบนางไปหนึ่งที กล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน: "เจ้านังผู้หญิงโหดเหี้ยมคนนี้ เจ้าไม่ได้แซ่โหลหรือ?"
โหลรั่วหว่านกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง พยายามลุกขึ้นมา มือหนึ่งค้ำยันนั่งอยู่บนพื้น เงยหน้าขึ้นมามองดูเขา: "ข้าคือคนตระกูลโหล แต่ว่า ท่านใช่หรือ? พี่ฮ่วนเทียน ท่านไม่ใช่คนตระกูลโหล แล้วถือสิทธิอะไรมาเป็นนายน้อยโหล? ยัยแก่คนนั้นนางฆ่าท่านย่าแท้ๆของข้า! เหล่าไท่จวินที่แท้จริงคือท่านย่าแท้ๆของข้า แต่ว่าถูกนางฆ่าไปแล้ว! ทั่วทั้งตระกูลโหล มีคนมากเท่าไหร่ที่รู้ว่านางคือตัวปลอม? พวกเขาต่างก็รู้ทั้งนั้น! แต่ว่าพวกเขาต่างก็ไม่พูด ล้วนไม่อยากแก้แค้นให้กับเหล่าไท่จวินเลย แต่กลับปล่อยให้ยัยแก่แพศยานั่นควบคุมตระกูลโหลเอาไว้ ดังนั้นพวกมันล้วนสมควรตายทั้งนั้น!"
"ข้าต้องควบคุมตระกูลโหลเอาไว้ในมือ ขอเพียงข้าได้เป็นเจ้าบ้านของตระกูลโหล ขอเพียงข้าคอยช่วยเหลือฝ่าบาท ถึงเวลาข้าก็จะได้ครอบครองท่าน"
โหลรั่วหว่านมองดูเขาอย่างเศร้าสร้อย "ความจริงทุกสิ่งทุกอย่างนี้ข้าสามารถไม่เอาอะไรทั้งสิ้น พี่ฮ่วนเทียน ข้าต้องการแค่ท่านเท่านั้น แต่ว่าเพราะอะไรท่านถึงไม่รักข้า? แม้แต่ให้ท่านยอมรับให้ข้าเป็นน้องสาวท่านก็ยังไม่ยินยอม! เพราะอะไร ข้าไม่ดีตรงไหน?" พูดมาถึงช่วงสุดท้ายนางก็คำรามขึ้นมา "โหลชีมีดีตรงไหนกัน? ยังมีจิ้งจอกแสงจันทร์ม่วงตัวนั้นอีก เดิมทีมันควรเป็นของข้า!"
โหลฮ่วนเทียนเบิกตากว้างมองไปที่นาง ใบหน้าไม่อยากจะเชื่อ "เดี๋ยวก่อนนะ นี่เจ้ากำลังเอาตัวเองเปรียบเทียบกับเสี่ยวชีของบ้านข้าอยู่หรือ?"
ในวินาทีที่โหลรั่วหว่านกำลังตะลึงงันอยู่ เขาก็กล่าวต่อไปอีกว่า: "บัดซบ! อย่างเจ้าก็คู่ควร! นางมีดีตรงไหนไม่จำเป็นที่เจ้าต้องรู้ เจ้ารู้แค่ว่า ในใจของข้านางคือสมบัติ ส่วนเจ้า......" เขาใช้ปลายเท้าเตะไปที่ต้นหญ้าที่อยู่ข้างเท้า กล่าวว่า: "แม้แต่หญ้าก็เทียบไม่ได้ด้วยซ้ำ"
"แม้แต่หญ้าก็เทียบไม่ได้......ข้า......"
คำพูดของนางยังไม่ทันได้พูดจบ เฉินซ่าก็หมดความอดทนแล้ว ชักกระบี่ดื่มเลือดออกมาจากฝัก "จะยึกยักไปถึงเมื่อไหร่กัน?"
เสียงพุดดังขึ้นมา กระบี่ทะลุผ่านร่างไปโดยตรง
โหลฮ่วนเทียนมองดูโหลรั่วหว่านที่เบิกตากว้างแล้วล้มลงไป หันกลับมาอย่างหมดคำพูด: "ข้าว่าน้องเขย ไม่ใช่ว่าต้องเก็บนางเอาไว้ซักถามให้ชัดเจนก่อนค่อยว่ากันหรอกหรือ?"
"คนที่บทบาทเล็กๆประเภทนี้ เจ้าคาดหวังให้นางพูดอะไร?" เฉินซ่าเหลือบมองเขาอย่างราบเรียบครู่หนึ่ง
พวกเขายังช่วยคนตระกูลโหลที่ยังไม่ได้ยอมจำนนต่อโหลรั่วหว่านอย่างแท้จริงออกมาอีกสิบกว่าคน คนที่ก่อกบฏ และเป็นอัตรายต่อตระกูลโหลอย่างแท้จริง โดยพื้นฐานแล้วล้วนเป็นลูกหลานเครือญาติของตระกูลทั้งนั้น ส่วนลูกหลานสายตรงของตระกูลโหลจำนวนหนึ่งที่ถูกโหลรั่วหรานวางยาพิษทำให้เสียความเป็นตนเองไป คนเหล่านั้น อิ้นเหยาเฟิงก็สามารถช่วยแก้ไขให้พวกเขาได้
กลับเป็นน้องสาวของโหลรั่วหว่าน ในตอนที่เห็นคุณชายตระกูลจินยังเคยใช้ฐานะของคู่หมั้นอยากจะขอร้องให้ไว้ชีวิต กลับถูกโหลวซิ่นสังหารไป
ห้องโถงด้านข้างแห่งหนึ่ง ซวนหยวนจื้อกอดโหลเหล่าไท่จวินเอาไว้ เศร้าเสียใจสุดขีด
"ฉุนหลิง ทำไมเจ้าถึง......"
ผิวหนังบนใบหน้าของโหลเหล่าไท่จวินกระดำกระด่าง ดูเหมือนกับเปลือกไม้พันปีที่ฉีกขาด ชั้นที่อยู่ข้างนอกซีดขาว ชั้นที่อยู่ข้างในเป็นสีเทาดำ ดูแล้วทำให้คนรู้สึกตกใจกลัวอย่างมาก
แต่ว่ารูปร่างของนางกลับยังคงอยู่ในสภาวะอ่อนเยาว์ อยู่ในรูปร่างที่ดีมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ