ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 565

อวิ๋นมองดูนางด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "ในเมื่อในใจของเจ้ามีข้า เช่นนั้นก็พูดให้ชัดเจน ตกลงมันเรื่องอะไรกันแน่! ชาติกำเนิดของเจ้ากับพี่สาวเจ้า ล้วนเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาใช่ไหม?"

อามู่กล่าวด้วยรอยยิ้มแสนเศร้า: "เหอะๆ พี่อวิ๋น ท่านหมายถึงเรื่องที่เราเป็นสายเลือดของตระกูลโหลหรือ? ถูกต้อง ล้วนเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาทั้งนั้น พวกเราไม่ใช่คนตระกูลโหลเลย แต่ว่า มู่หลานเป็นพี่สาวของข้าจริงๆ พวกเราเป็นเด็กกำพร้า ในตอนที่ใกล้จะอดตายถูกพ่อบุญธรรมช่วยเอาไว้ แต่ว่าต่อมาข้าถึงได้รู้ว่า นั่นเป็นเพราะว่าเขากำลังตามหาหญิงธาตุหยินไปทั่วทุกมุมโลก และข้าก็เป็นหญิงธาตุหยินพอดี ดังนั้นถึงได้ถูกเขารับเลี้ยงเอาไว้"

"แล้วมู่หลานล่ะ? ทำให้นางมีหน้าตาเหมือนข้ามีความหมายอะไร?" โหลชีกล่าวถาม "แล้วทำให้นางหน้าตาเหมือนข้าได้อย่างไร?"

"พี่สาวก็อนาถเช่นกัน ดีร้ายข้ายังสามารถใช้ชีวิตด้วยหน้าตาของตัวเอง พี่สาวกลับต้องใช้ชีวิตด้วยใบหน้าของท่าน!" จู่ๆดาบสันโค้งที่อยู่ในมือของอามู่ชี้ไปทางโหลชี จ้องมองนางด้วยความโกรธแค้นแล้วกล่าวว่า: "เป็นเพราะเจ้า ทุกอย่างเป็นเพราะเจ้าทั้งนั้น! พวกเราล้วนต้องเสียสละเพื่อเจ้า! ยังมีเจ้าอีกคน!"

อามู่มองไปทางเฉินซ่าอีกครั้ง: "พวกเจ้านั่นแหละ คู่ภัยพิบัติ ตัวซวย!"

เอ้อร์หลิงอยู่ด้านข้างได้ยินแล้วโกรธมาก "เจ้าถือเป็นตัวอะไรกัน? ไม่ว่าเจ้าจะเจอกับเรื่องอะไร จักรพรรดิกับจักรพรรดินีล้วนไม่รู้เรื่องราวภายในของเหตุการณ์ทั้งนั้น ความผิดประเภทนี้ถือสิทธิอะไรมาผลักไปให้พวกเขาด้วย? พวกเจ้าเป็นเด็กกำพร้าไม่ใช่หรือ? เดิมทีใกล้จะอดตายแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าหากพูดเช่นนี้ แล้วทำไมพวกเจ้าไม่ขอบคุณจักรพรรดิกับจักรพรรดินีล่ะ เป็นเพราะพ่อบุญธรรมต้องการพวกเจ้า ดังนั้นถึงได้เลี้ยงพวกเจ้ามาจนโตขนาดนี้ได้ แทนที่จะอดตายตั้งแต่อายุน้อยๆแล้ว!"

โหลชีมองเอ้อร์หลิงครู่หนึ่ง จู่ๆก็หัวเราะพุดออกมา "เอ้อร์หลิง ไม่เลวนี่นา ดูเหมือนจะมีไหวพริบดีมาก"

"จักรพรรดินี!" เอ้อร์หลิงกระทืบเท้าด้วยความอาย นี่มันเวลาไหนแล้ว ยังมีแก่ใจมาหัวเราะเยาะนางอีก!

อามู่ดูขวัญหนีดีฝ่อเล็กน้อย ดูเหมือนกับว่าถูกข้อโต้แย้งที่ฉะฉานของเอ้อร์หลิงทำให้หลงทิศทาง ชั่วขณะหนึ่งรู้สึกงุนงงเล็กน้อย

"ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้นนะ......"

"ตอบคำถามเมื่อครู่ของข้า" เสียงของโหลชีก็เคร่งขรึมเย็นชาลงมากะทันหัน ราวกับว่าคนที่ล้อเล่นกับเอ้อร์หลิงเมื่อครู่นี้คนนั้นไม่ใช่นาง ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงทำให้ทุกคนตกตะลึงเล็กน้อย

"ข้า ในตอนที่ท่านเกิดพ่อบุญธรรมแอบขโมย....เลือดจากสายสะดือ ใช้เลือดจากสายสะดือเล็กน้อยนั่น เขาใช้เวลาหลายปีในการค้นคว้าศึกษาหาวิธีที่ทำให้พี่สาวข้ากลายเป็นเหมือนท่าน......"

"หลายปีก่อน เขาไปเห็นข้าจากที่ไหน?"

"ไม่ใช่เห็นท่าน" อามู่มองดูนาง จู่ๆในสายตาก็มีความหวาดกลัวเล็กน้อย "แต่ฝันถึงท่าน เขาใช้วิชามนต์ หนึ่งปีประมาณหนึ่งครั้ง แต่ทุกครั้งที่เห็น เขาก็จะอ่อนแอลงไปมาก จากนั้นก็ต้อง......ฆ่าคนจำนวนมาก"

สีหน้าของโหลชีมืดมนมากยิ่งขึ้น เมื่อนึกถึงว่าตนเองต้องถูกคนที่ชั่วร้ายขนาดนี้จ้องมองข้ามห้วงเวลาทุกปี จากนั้นก็ไปสร้างใบหน้าที่เหมือนกับนางอีกใบหน้าหนึ่งตามหน้าตาของนาง นางก็รู้สึกโกรธสุดขีด

เฉินซ่ารู้สึกถึงความโกรธสุดขีดนี้ของนาง จับมือของนางเอาไว้แน่น: "เราจะฆ่าเขาให้ได้ ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม"

ใช่แล้ว จะต้องฆ่าให้ได้อย่างแน่นอน

"จุดประสงค์ของเขาคืออะไร?"

"ฮ่าๆๆ มีหลายสิ่งหลายอย่าง เขาไม่มีจุดประสงค์เลยด้วยซ้ำ บางครั้งก็แค่มีแรงกระตุ้นขึ้นมาในทันใดอยากจะทำสิ่งนี้ขึ้นมาก็เท่านั้น! พวกเราล้วนเป็นของเล่นในมือของเขาทั้งนั้น เขาอยากจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้น! ที่พี่สาวข้าเปลี่ยนเป็นใบหน้าของเขา ก็เป็นเพราะว่าเขาอยากจะเห็นใบหน้าของเจ้าเตร็ดเตร่อยู่ตรงหน้าเขา อยากได้เจ้าตัวเป็นๆคนหนึ่ง จากนั้น ในตอนที่พบใครบางคนในอนาคต ก็ให้พี่สาวข้าปลอมตัวเป็นเจ้า แล้วฆ่าอย่างโหดร้ายต่อหน้าคนคนนั้น สิ่งที่ต้องการก็คือยั่วยุเขา!"

"เขา?"

"พ่อของเจ้า ซวนหยวนจ้าน ใช่แล้ว พ่อบุญธรรมข้าเกลียดพ่อของเจ้า และก็เกลียดฮ่องเต้ฮองเฮาของราชวงศ์เฉิน ซึ่งก็คือพ่อแม่ของจักรพรรดิ"

"ดังนั้น พ่อบุญธรรมของเจ้าคือใคร?"

"เขาคือ......" ลูกตาที่แดงก่ำของอามู่กลอกหมุน ดาบสั้นโค้งที่อยู่ในมือจู่ๆก็แทงไปทางเฉินซ่า

สายตาของเฉินซ่าหรี่ลงในทันใด เพราะกระบวนท่านี้ของอามู่แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนอย่างมาก นางปกปิดความสามารถดั้งเดิมของตนเองมาโดยตลอด!

เขากำลังจะหันข้างหลบออกไป แต่คิดไม่ถึงว่ากระบวนท่านั้นของอามู่เป็นเพียงท่าหลอกเท่านั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงของนางคือกรีดไปทางมือที่จับกันแน่นของเขากับโหลชี

เวลานี้ถ้าหากพวกเขาสองคนไม่อยากให้ข้อมือของใครถูกกรีดเป็นแผล เช่นนั้นก็มีแต่ต้องปล่อยมือเท่านั้น

กระบวนท่าของอามู่โหดเหี้ยมและรวดเร็ว และนางยังสู้อย่างไม่คิดชีวิตเลย ในดวงตาที่แดงก่ำเผยความสิ้นหวังออกมา "ภารกิจของข้ากำลังจะเสร็จสิ้นแล้ว ถึงอย่างไรหลังจากทำเรื่องพวกนี้แล้ว พี่อวิ๋นก็จะไม่ยกโทษให้ข้าอีกอย่างแน่นอน ข้าจะตายพร้อมกับพวกเจ้า!"

นางสามารถบ้าได้ เฉินซ่ากลับไม่สามารถบ้าตามนางได้ โดยเฉพาะในตอนที่ดาบสั้นโค้งที่อยู่ในมือนางเปล่งแสงสีแดงสดขึ้นมาในทันใด ดาบสันโค้งนั่นกรีดมาทางมือที่จับกันไว้ของพวกเขาตลอด พวกเขาเร่งถอยอย่างรวดเร็ว ความเร็วที่อามู่ไล่ตามเข้าไปกลับไม่ได้ช้าไปกว่าพวกเขาเลย

อวิ๋นและคนอื่นๆจะจู่โจมเข้ามา กลับถูกหุ่นเชิดนับสิบคนขวางเอาไว้พร้อมกัน "ขวางพวกเขาเอาไว้ ห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด!" ในดวงตาของอามู่มีแสงแห่งความบ้าคลั่งพุ่งออกมา กดดันเข้าไปทีละก้าว

สายตาของโหลชีมืดสลัว ดึงแส้ปลิดวิญญาณออกมา ฟาดไปทางนางอย่างแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ