ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 584

เฉินซ่าซัดฝ่ามือโดนชายผู้นั้น ชายผู้นั้นตัวชนเข้ากับกำแพง เพราะแรงมหาศาลนัก กำแพงยังรับไม่ไหว เสียงโครมดังขึ้น เกิดฝุ่นผงคละคลุ้งไปทั่ว

ถึงชายผู้นั้นจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่กลับเคลื่อนตัวได้ไวนัก พริบตาเดียวก็ยืนหยัดฝ่ามือจะลุกขึ้นยืน แต่ไม่คิดว่าเฉินซ่าจะเร็วยิ่งกว่าเขา เขาพึ่งจะยืนขึ้น ลมแรงเข้าปะทะใบหน้า คอหอยของเขาก็ถูกมือเย็นเยียบข้างหนึ่งคว้าหมับเข้าให้

ดวงตาชายผู้นั้นโกรธขึ้ง เดิมคิดว่าเฉินซ่าน่าจะสืบสวนเขา แต่ไม่คิดว่ายามเขามองดูสายตาดำมืดไร้ขอบเขตนั่น กลับเห็นเพียงความอาฆาตอยากฆ่าคุกรุ่น

เสียงแคร่กดังขึ้น นิ้วมือเฉินซ่าออกแรงเพียงนิด ยอดฝีมือเช่นนี้ก็โดนบีบคอหอยแตก หมดลมหายใจไปเลย

หานเสี่ยวซื่อได้ยินว่าเสียงด้านหลังหายไป รอบข้างมีแต่เสียงลมและนกร้อง ในใจยิ่งลนลาน "พวกเจ้าไม่กลัวตายรึ? นั่นเป็นคนที่ฝ่าบาท..."

พูดยังไม่ทันจบ เสียงดีดนิ้วเบาๆขัดจังหวะนาง จากนั้นนางก็ได้ยินเสียงโหลชีพูดเสียงเรียบว่า "ตอนนี้เจ้าคงเหนื่อยแล้วกระมัง จริงสิ เจ้าได้มายังที่ที่เจ้าอยากไปที่สุดแล้ว ที่นั่นมีคนที่เจ้าอยากเจอที่สุด..."

หานเสี่ยวซื่อพลันรู้สึกเหม่อลอย

ความคิดนางลอยไปไกลแล้ว ได้ยินเสียงนั้น ภาพเบื้องหน้านางรางเลือนจนเหมือนเห็นพระราชวังหรูหรานั่น ในตำหนักบนบัลลังก์มังกรมีคนนั่งอยู่ เหลือบตามองมาทางนาง ยิ้มน้อยให้นาง แววตามีแต่แววชื่นชม

"ฝ่าบาท" หานเสี่ยวซื่อทนไม่ไหวเรียกออกมาอย่างมึนงง "เสี่ยวซื่อทำงานสำเร็จแล้ว ส่งกัดเซาะวิญญาณ์มาให้ท่านแล้ว ยังมีโหลชี เสี่ยวซื่อพาโหลชีมาให้ท่านแล้ว ท่านมิใช่อยากได้โหลชีมาตลอดมิใช่รึ?"

เฉินซ่าจะเดินมาทางนี้ โหลชีส่ายหน้าให้เขาเบาๆ และถามหานเสี่ยวซื่อเสียงเบาอีกว่า "เสี่ยวซื่อทำดีมากจริงๆ มีรางวัล เจ้ารู้ไหมว่าข้าต้องการกัดเซาะวิญญาณ์กับโหลชีไปทำอะไร?"

"รู้ ฝ่าบาทมิใช่คิดจะใช้กัดเซาะวิญญาณ์กับซวนหยวนจ้านรึ? ยังมีโหลชี โหลชีเป็นของที่ฝ่าบาทเตรียมไว้เพื่อนางมิใช่รึ? ตอนนั้นฝ่าบาทรู้สึกว่าเสี่ยวซื่อยังเยาว์นัก เลยเห็นเสี่ยวซื่อเป็นคนที่พูดคุยด้วยได้ เสี่ยวซื่อจดจำไว้ในใจตลอดมา ไม่มีทางบอกความลับของฝ่าบาทออกไปแน่"

"เสี่ยวซื่อว่าง่ายจริงๆ" โหลชีพูดเสียงเบามาก แต่ในแววตากลับมีประกายโกรธขึ้ง

"ฝ่าบาท ท่านเคยบอกมิใช่รึว่า ถ้านางกลับมา ท่านอาจจะเป็นราชาไม่ได้? เหตุใดท่านต้องทำเรื่องมากมายเพื่อให้นางกลับมาด้วยเล่า?"

"นางคือใคร?"

"นางคือใคร?" สีหน้าหานเสี่ยวซื่อดูเหม่อลอย เหมือนคิดอยู่นาน ก่อนจะพึมพำออกมาว่า "นางเป็นนางมาร เป็นนางมารน่ะ"

ทันใดนั้น ธนูลับดอกหนึ่งพุ่งมา เสียบเข้าที่แผ่นหลังของหานเสี่ยวซื่อเต็มๆ และทะลุหน้าอกออกไปอย่างไม่รั้งรอ มันทำให้โหลชีที่ยืนอยู่ข้างหน้าหานเสี่ยวซื่อต้องเบี่ยงตัวหลบ

เฉินซ่าโกรธจัด ตวัดมือซัดอาวุธลับยิงไป เสียงปุ๊ดังขึ้นไม่ไกลนัก มีคนหล่นจากหลังคา จากนั้นก็มีกองราชาอสูรเทพพุ่งเข้าไปตรวจสอบ

หานเสี่ยวซื่อโดนธนูดอกนี้ยิงทะลุอกจนตื่นจากการสะกดจิต นางก้มมองรูเลือดที่หน้าอกตนอย่างตะลึง เหมือนไม่เชื่อว่าตนจะตายไปอย่างนี้ นางกระอักเลือด โดนจี้จุด มือยังถือถ้วยชาที่มีกัดเซาะวิญญาณ์แปะไว้ที่หน้าอก แต่นางรู้ดีว่า กัดเซาะวิญญาณ์ต้องขึ้นผิวหนังนางแล้วแน่

ยังไงก็ต้องตาย แต่หานเสี่ยวซื่อไม่ยอมแพ้ นางร้องขึ้นมา "ข้ายังต้องเป็นองค์หญิง! ข้าเป็นองค์หญิง!"

"หานเสี่ยวซื่อ ฝ่าบาทคือใคร?" โหลชีขมวดคิ้วถาม "หรือว่า เจ้าอยากเป็นคนแซ่อะไร?"

เดิมทีนางคิดว่าหานเสี่ยวซื่อจะไม่ตอบ แต่เสียงซีฉางอี้พลันดังเข้ามา "เสี่ยวซื่อ หากในใจเจ้ามีข้าจริง ก็พูดให้ชัดเจน!"

ซีฉางอี้พูดพลางจะวิ่งมาทางนี้ โหลวซิ่นมองโหลชี เห็นนางพยักหน้าเล็กน้อย ถึงปล่อยมือ ซีฉางอี้วิ่งเข้ามาหาหานเสี่ยวซื่อ ยื่นมือจะจับไหล่นาง

หานเสี่ยวซื่อร้องเสียงดัง "อย่าแตะต้องข้า!"

นางมองซีฉางอี้ด้วยสายตาเศร้าสร้อย "ฉางอี้ เจ้าอยากรู้อะไร ข้าจะบอกเจ้าทั้งหมด ขอเพียงเจ้าให้อภัยข้า"

"ตอบคำถามโหลชีเมื่อครู่" ซีฉางอี้หลุบตาลง ไม่ได้มองร่างกายนาง ถึงพวกเขาจะเคยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันขนาดนั้น แต่เวลานี้เขาไม่อยากมองนาง

หานเสี่ยวซื่อกลับไม่ได้คิดอะไรมาก นางรู้สึกว่าชีวิตตนใกล้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว พูดอย่างน่าสงสารว่า "ข้า อยากแซ่กู่ ข้าจะแซ่กู่ ข้าจะเป็นองค์หญิง..."

กู่?

สายตาของโหลชีและเฉินซ่าสบกันกลางอากาศ

ในใจนางพลันมีความคิดประหลาดผุดขึ้น "ฝ่าบาทเป็นชายหรือหญิง?"

หานเสี่ยวซื่อชะงักไป เหมือนไม่อาจตอบคำถามนี้ได้ จากนั้นหัวนางฟุบลงไป

"เหอะเหอะ..." ซีฉางอี้พลันมือปิดดวงตาหัวเราะเสียงต่ำออกมา "ตายแล้ว ในที่สุดก็ตายแล้ว หานเสี่ยวซื่อ ในที่สุดเจ้าก็ตายแล้ว"

สตรีผู้นี้ ยามวัยรุ่นนำพาความอบอุ่นและความรักมาให้เขามากมายแค่ไหน ต่อมาช่วงนี้ก็ให้ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานกับเขาลึกซึ้งเท่านั้น

นางบอกนางรักเขา แต่เพื่อฝ่าบาทของนาง นางกลับไม่เลือกวิธีการ ปีนขึ้นเตียงบุรุษมากมายขนาดนั้น ยังจะส่งเขาให้สตรีอื่นอีก

ซีฉางอี้หัวเราะจนน้ำตาไหล

"องค์ชายเก้า?" เสียงโหลชีลอยเข้าหูเขา ซีฉางอี้ผ่อนลมหายใจยาว ก้มหน้าลง ไม่อยากให้โหลชีเห็นดวงตาแดงก่ำของเขาคู่นั้น

"ข้าไม่ใช่องค์ชายเก้าอะไรนานแล้ว นับแต่วันที่ข้ายืนกรานพานางจากมา ข้าก็โดนราชวงศ์ลบชื่อแล้ว" ซีฉางอี้พูดอย่างเศร้าสร้อย

ตอนแรกเขาไม่เข้าใจว่าทำไม เขายอมละทิ้งการแย่งชิงบัลลังก์ ตามหลักแล้วเขาจะอยากอยู่กับสตรีนางใด ราชวงศ์ไม่น่าจะสนใจ แต่ต่อมาถึงรู้ว่า ที่แท้ ขึ้นจนถึงเสด็จพ่อ เสด็จพี่สามซีฉางหลี หรือกระทั่งอดีตองครักษ์ของเขา หรือกระทั่งข้ารับใช้ที่เฝ้าหอเก็บสมบัติยังเคยมีสัมพันธ์กับสตรีผู้นี้

สตรีเช่นนี้ จะแต่งงานด้วยได้อย่างไร?

เป็นเพียงของเล่นเท่านั้นเอง และยังเป็นของเล่นที่ไม่ว่าบุรุษฐานะอะไรก็สามารถเล่นด้วยได้ทั้งนั้น

เสด็จพี่สามเคยเตือนเขา เขากลับไม่เชื่อ

"เจ้ารู้มากแค่ไหน?" โหลชีไม่เห็นใจซีฉางอี้อะไรแล้ว ถึงจะบอกว่า ความรักทำให้คนตาบอด แต่บอดถึงขั้นนี้ ก็พูดได้เพียงว่า ความทุกข์ทรมานของใครคนนั้นก็ต้องรับไป

ซีฉางอี้พูดอย่างขมขื่น "ข้ารู้เพียงเล็กน้อย ฝ่าบาทคือประมุขตำหนักแห่งตำหนักมาร"

โหลชีอึ้งเล็กน้อย จากนั้นเลิกคิ้วขึ้น

....

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ