ใต้ร่มยาใจ นิยาย บท 59

พอโหลชีออกไป ฮั่วหยูฉุนรีบเดินเข้ามาหาทันที "แม่นางโหล นี่ เสร็จแล้วรึ? ถามอะไรออกมาได้หรือไม่?"

"รอก่อน"

โหลชีหัวเราะพลางส่ายหัว ไม่ถอนพิษ จะถามได้ยังไง? ต้องรอพิษถอนก่อนล่ะมั้ง แต่นางมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นต้องเห็นด้วยแน่

"ข้ากลับไปตำหนักสามก่อน ดูเขาให้ดี ถ้าเขาบอกจะหาข้า รีบส่งคนไปตำหนักสามเรียกข้าด้วยล่ะ" ครั้งนี้โหลชีตัดสินใจกลับตำหนักสามด้วยตัวเอง ในเมื่อรับปากจะช่วยแล้ว นางก็ต้องทำให้ดี เวลานางจัดการอะไรไม่ใช่มีแต่อาศัยจุดนี้เท่านั้น ถ้าเขาไม่อยากถอนพิษนั่น งั้นนางจะต้องดูสิว่ายังมีวิธีอะไรสามารถสืบหาฐานะของเขาออกมาได้บ้าง

ระหว่างทางกลับตำหนักสาม มีนางกำนัลไม่น้อยพอเห็นนางเข้า ต่างพากันย่อตัวคารวะ นางกำนัลใหญ่ของตำหนักสาม ฐานะสูงกว่านางกำนัลคนอื่นมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น ใครๆต่างรู้ดีว่าตอนนี้นางได้รับความสำคัญจากฝ่าบาท แต่สายตาที่พวกนางมองนางกลับดูแปลก บางคนมีสายตาดีใจที่คนอื่นเดือดร้อน บางคนกลับเป็นสายตาเห็นใจ

โหลชีครุ่นคิด พาเอ้อร์หลิงค่อยๆเดินเนิบช้าไปยังตำหนักสาม

ระหว่างที่เดินผ่านตำหนักสองใกล้ถึงตำหนักสาม พวกนางก็ได้เห็นเอ้อร์อินที่เดินถือถาดเข้ามา

พอเอ้อร์อินเห็นพวกนาง สายตาพลันเป็นประกาย ประหนึ่งเห็นโอกาสแล้ว นางบิดเอวเดินเข้ามา ถือถาดทำลอยหน้าลอยตาต่อหน้าพวกนาง

บนถาดนั้นเป็นกล่องไม้จันทน์แกะสลักดอกไม้กล่องหนึ่ง บนฝาประดับประดาไปด้วยอัญมณีหลากหลายสี ดูงดงามหรูหรายิ่งนัก แค่กล่องใบนี้ก็เดาได้แล้วว่า ของที่ใส่ด้านในจะต้องเป็นของที่ยิ่งหรูหราแพงลิ่ว ไม่งั้นจะคู่ควรกับกล่องแบบนี้ได้ยังไง

"แม่นางโหล นี่กลับมาจากคุกแล้วหรือนี่ ไปคลุกคลีกับผู้ชายมาเสียหลายวัน ไม่เป็นไรกระมัง?" เอ้อร์อินมองสำรวจโหลชี น้ำเสียงไม่ปิดบังแววหยามหยันและดีใจที่คนอื่นเดือดร้อน

คุกนั่นคือที่ใด เป็นที่ที่มีแต่ชายกักขฬะอยู่ทั้งนั้น ยังมีนักโทษมากมายที่เลวร้ายหนักนา ขนาดเรื่องที่ต้องการสตรี ยังเป็นสตรีหยาบกร้านเลย สตรีเหล่านั้นอยู่ในคุกนานแล้ว พูดจาแต่ละครั้งแต่ละคนเสียงดังแปดสาแหรก แถมยังกินเนื้อกินผักได้หมด ทำเอาคนต้องถอยหลังไม่กล้าเข้าใกล้

ส่วนโหลชี ต่อให้รังเกียจนางถึงขีดสุด เอ้อร์อินยังต้องยอมรับว่า นางนั้นงดงามดุจดอกไม้ โยนคนเยี่ยงนี้ไปที่คุก นั่นมิใช่โยนดอกไม้ดอกหนึ่งไปในกองอาจมรึ? นางต้องดูให้เห็นกับตาว่า ตอนนี้ดอกไม้ดอกนั้นยังจะงดงามอยู่ได้หรือไม่ จะยังเย่อหยิ่งได้หรือไม่! เพราะเฉินซ่าจะทำสิ่งใดไม่มีทางอธิบายกับนางกำนัลแน่ ดังนั้นพวกเอ้อร์อินจึงมิรู้ว่าโหลชีไปที่คุกเพราะเหตุใด หลังจากรู้ว่านางไปคุก ก็ลิงโลดทันที เพราะนางคิดว่าโหลชีถูกฝ่าบาทรังเกียจแล้ว จึงโดนไล่ไปคุก

ปกตินางกำนัลที่ไปคุก ล้วนทำความผิดหากโทษไม่ถึงตาย สำหรับสตรีแล้วคุกเป็นการลงโทษที่หนักหนานัก เป็นการเนรเทศ และนางกำนัลทุกคนที่ถูกส่งไปคุก สุดท้ายมิใช่ทนไม่ไหวจนต้องหลบหนีแต่โดนจับกลับมา ก็โดนทรมานจนกลายเป็นสตรีหยาบกร้านเหล่านั้น อยากจะแต่งงานออกเรือนไปดีๆนั้นเป็นไปไม่ได้เลย ทำได้เพียงออกเรือนไปกับทหารองครักษ์ในคุกนั่น เพราะพวกเขาไม่รังเกียจสตรีหยาบกร้าน

ถือเป็นเรื่องน่ากลัวยิ่งนักสำหรับนางกำนัลของตำหนักสอง

ดังนั้นพอเอ้อร์อินได้ยินว่าโหลชีไปคุก คืนนั้นยังหัวเราะร่วนอย่างบ้าคลั่งทั้ง ๆเจ็บภายในไปครึ่งชั่วก้านธูป โหลชีเสร็จแน่! นางจบสิ้นแล้ว! ดูจากเวลาสิบกว่าวันที่นางอยู่ในคุก นางยังคิดวาดหวังกลับมายังตำหนักสาม? ยังคิดจะเป็นนางกำนัลใหญ่ของตำหนักสาม? ฝันไปเถอะ!

เอ้อร์อินคาดเดาไว้ล่วงหน้าแล้ว โหลชีต้องโดนฝ่าบาทโยนออกมาแน่ ไปเลยไปเถิด แล้วไปอยู่ในคุกต่อเถิด! อย่างมากที่สุดที่ทำได้ คือประจบหัวหน้าผู้คุ้มฮั่ว เป็นฮูหยินของหัวหน้าผู้คุ้ม? ฮะฮะฮะ ฮูหยินของหัวหน้าผู้คุ้ม ก็ไม่ใช่เป้าหมายของนางนี่นา! หัวหน้าผู้คุ้มฮั่วอยู่ในคุกมานานปี ในสายตาพวกนางแทบจะกลายเป็นพวกจิตวิปริต มีใครที่ไหนบ้างวันๆเอาแต่หมกมุ่นกับเครื่องลงทัณฑ์ต่างๆบ้างล่ะ? มีใครบ้างวันๆเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับงูพิษเอยหนอนมดเอย เพื่อให้การลงทัณฑ์ในคุกพรั่งพร้อม?

น่ากลัวยิ่งนัก! เป็นฮูหยินของเขา ใครยินยอมกัน? โหลชีสิดี ดีเลย ฮะฮะ

"เอ้อร์อิน เจ้าบังอาจนัก ผู้ใดอนุญาตให้เจ้าพูดจาเยี่ยงนี้กับแม่นางโหลหา?" เอ้อร์หลิงถลึงตาใส่เอ้อร์อิน

เอ้อร์อินรู้สึกจากใจว่าทั้งสองคนไม่มีความหวังแล้ว ดังนั้นเลยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่นิด รู้สึกเพียงแค่ว่าตอนนี้จะลบหลู่ยังไงก็ลบหลู่อย่างนั้น นางจึงยิ้มหวานบอกเอ้อร์หลิงว่า "โย่ นี่ใครกันล่ะเนี่ย นี่ไม่ใช่เอ้อร์หลิงที่ตามแม่นางโหลไปคุกด้วยหรอเนี่ย ทำไม สนใจองครักษ์ในคุกคนใดเข้าเล่า? มีคนรักคอยปกป้องแล้ว? มิเช่นนั้นเหตุใดใบหน้าแน่งน้อยนี่จึงชุ่มชื้นเยี่ยงนี้! คงมิได้คอยอยู่เคียงข้างชายคนรักทุกค่ำคืน..."

ยังพูดมิทันจบ โหลชียกมือขึ้นสะบัด เพี๊ยะเพี๊ยะๆๆ ตบสี่ฉาดทำเอาแก้มซ้ายขวาของนางบวมปูด และถาดในมือนางมิได้ถือไว้มั่น จึงร่วงลงสู่พื้น มีเสียงแตกเพล้งเล็กๆดังออกมาจากในกล่องใบนั้น

เอ้อร์อินมึนงงจากการโดนระดมตบยืนอึ้งไม่ได้สติ รอจนแก้มแสบร้อนขึ้น และรสชาติหวานคาวไหลออกมาจากปาก จึงทำให้นางเข้าใจว่าเกิดอันใดขึ้น! นางโดนตบ นางโดนโหลชีตบเข้าให้สี่ฉาด!

เอ้อร์อินกระโดดผ่างขึ้นมาทันใด พุ่งเข้าหาโหลชีทันที "เจ้ากล้าตบข้า ข้าจะสู้ตายกับเจ้า! นังแพศยา เจ้ายังคิดว่าตนเองเป็นคนโปรดข้างกายฝ่าบาทอยู่รึ!"

คอหอยของนางถูกมือเรียวยาวขาวเนียนบีบไว้ น้ำเสียงเย็นเยียบของโหลชีลอยเข้าหูนาง "ด่าใครแพศยา?"

"เจ้ากล้าพูดว่าตนมิได้แพศยารึ! ข้าจะบอกเจ้าให้ เจ้าทำของขวัญที่ฝ่าบาทจะประทานให้พระสนมในภายหน้าแตก เจ้าอย่าหวังรอดเลย!" โหลชีที่เดิมคิดจะบีบมือลงไป พอได้ยินคำนี้ก็เลิกคิ้วถาม "หือ? พนะสนมในอนาคต? ข้ากลับไม่รู้นะ ข้าไปไม่กี่วัน ตำหนักสองนี่มีพระสนมแล้วรึ ใครล่ะ เรียกออกมาให้ข้ารู้จักหน่อยสิ!" พูดจบ นางสะบัดมือ ทำเอ้อร์อินกระเด็นหล่นลงกับพื้นราวผ้าขี้ริ้ว

เอ้อร์อินกุมคอหอยไอค่อกแค่กหลายครั้ง นางรู้สึกแสบร้อนที่คอหอย แอบตกใจกับความร้ายกาจของโหลชี แต่พอมองกล่องที่ตกบนพื้น ก็รู้สึกว่าตนมีที่พึ่ง และกล้าขึ้นมาอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ