เสื้อกล้ามรัดรูป กางเกงขายาวลายพราง ผมทรงสกินเฮด แล้วก็ยังมีคนที่ใส่ตุ้มหู รอยสักขนาดใหญ่ที่อยู่บนแขน ชุดแต่งกายเช่นนี้การแต่งตัวเช่นนี้สำหรับคนโบราณแล้วย่อมมีความขัดแย้งที่รุนแรงทางสายอยู่แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่รุนแรงเท่าความรู้สึกตกตะลึงที่ชายที่เป็นผู้นำคนนั้นนำมาให้พวกเขา
ผู้ชายคนนั้นสูงพอๆกับเฉินซ่า แต่เมื่อเทียบกับเฉินซ่าแล้วดูกำยำยิ่งกว่า สีผิวของเขาอยู่ระหว่างกลางชนผิวเหลืองกับผิวดำ ซึ่งเป็นสีของข้าวสาลีชนิดหนึ่ง หน้าอกของเขามีรอยสักหัวอินทรีสีแดงเพลิง บนคอใส่สร้อยคอทองคำที่หนามากเอาไว้เส้นหนึ่ง จี้คือหัวกระสุนหนึ่งเม็ด
ซิกแพคแข็งแรงอย่างมาก สวมใส่กางเกงขายาว แต่ว่าวิธีการใส่ต่ำสถุนมาก เพราะใส่ต่ำกว่าเอวสุดๆ เขาไม่ได้คาดเข็มขัด ขอบบนสุดของกางเกงยังคลายกระดุมโลหะออกหนึ่งเม็ด เผยให้เห็นขนสีดำที่อยู่ใต้สะดือ ตรงเข้าไปในขอบกางเกง
กางเกงนั่นดูเหมือนใกล้จะหลุดลงมาแล้ว มองเห็นแม้กระทั่งขาหนีบ
นี่คือสิ่งที่เฉินซ่าไม่สามารถทนรับได้
ยิ่งไปกว่านั้น ทั่วทั้งตัวของผู้ชายคนนี้แผ่ซ่านกลิ่นหลังจากผ่านการร่วมรักมาหมาดๆอย่างชัดเจน
ไหนเลยที่เฉินซ่าจะยินยอมให้โหลชีเห็นผู้ชายเช่นนี้?
สีหน้าของเขาเคร่งขรึมลง กล่าวกับโหลชีว่า: "หลับตาซะ"
โหลชีตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หลับตาลงตามคำสั่งอย่างจนใจเล็กน้อย
ภาพนี้ทำให้เท็ดดี้และคนอื่นๆตะลึงงัน จากนั้น เท็ดดี้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
"ฮ่าๆๆๆ! นึกไม่ถึงจริงๆว่า ราชินีผู้โด่งดังจะพาผู้ชายที่ใส่ชุดโบราณสองคนมาเล่นที่นี่ แถมแม่งยังฟังคำพูดของผู้ชายคนนั้นอีก! โอ้พระเจ้า นี่ฉันต้องตาบอดไปแล้วแน่ๆใช่ไหม? หรือว่าเมื่อกี้เย็ดไอ้หนุ่มผิวขาวคนนั้นโหดเกินไปก็เลยรู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย? นี่ยังใช่ราชินีของเราเหรอ? นี่พวกแกกำลังเล่นคอสเพลย์ละครย้อนยุคของจีนอยู่เหรอ? นี่คือรสนิยม? กูก็เข้าร่วมดีไหม?"
"พี่เท็ดดี้ หนึ่งปีก่อนก็มีข่าวลือว่าราชินีได้รับบาดเจ็บที่เบอร์มิวดา ฝีมือไม่ดีเท่าเมื่อก่อน หนึ่งปีที่หายสาบสูญไปนี้คือแอบซ่อนตัวพักฟื้นจากอาการบาดเจ็บอยู่ที่ไหนสักแห่งและถือโอกาสซ่อนตัวจากศัตรูไปด้วย ตอนนี้ดูแล้ว เธอยังถูกผู้ชายเลี้ยงอีกด้วย"
"มีเหตุผล ข่าวลือข้อนี้ตอนนี้ดูแล้วน่าจะน่าเชื่อถือมากนะ ดูสิ ราชินีที่ฟังคำพูดของผู้ชายขนาดนี้เห็นได้ครั้งเดียวในรอบร้อยปีเลยนะ"
หลายคนของอีกฝ่ายหัวเราะคิกคักกันขึ้นมา ท่าทางโอหังอย่างมาก กระทั่งยังมีคนมองดูเฉินซ่าด้วยความไม่หวังดี กล่าวกับเท็ดดี้ว่า: "พี่เท็ดดี้ ดูไอ้หนุ่มคนนั้นสิหล่อเหลากว่าไอ้หนุ่มผิวขาวเมื่อกี้นี้มากเลย เดาว่ารสชาติน่าจะไม่เลว ทำไมลูกพี่ไม่ลองดูล่ะ? เย็ดผู้ชายของราชินี นี่พูดออกไปมันน่าเกรงขามนะ"
"ฮ่าๆๆ คำพูดนี้มีเหตุผลมากกว่า ฉันชอบ"
โหลชีที่หลับตาอยู่ก็หัวเราะขึ้นมาเช่นกัน: "ฉันก็ว่า ทำไมเท็ดดี้ที่หางจุกตูดไม่กล้าเจอฉันทำไมครั้งนี้ถึงกล้าโอหังต่อหน้าฉันได้ ที่แท้ก็เชื่อข่าวลือนี่เอง นอกจากนี้ ยังกล้าพูดจาแทะโลมผู้ชายของฉันอีก ฉันว่าแกคงมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วสินะ"
"ฮ่าๆๆ ทำไม ยังคิดที่จะล้างแค้นให้ชู้รักคนนั้นของแกอยู่อีกเหรอ? ถึงแม้ตอนนั้นฉันจะนอนกับชู้รักคนนั้นของแก แต่คนที่ฆ่าเขาก็ไม่ใช่ฉันนี่นา......"
เมื่อครู่นี้เฉินซ่ากำลังจะลงมือ แต่กลับถูกโหลชีดึงมือเอาไว้ ได้ยินปากโสโครกของเขาพูดถึงหมิงเลี่ย ความดำมืดที่อยู่ในใจของโหลชีก็เริ่มปะทุขึ้นมาอีกครั้ง นางก็อยากลองฟังดู เท็ดดี้ยังกล้าพูดอะไรออกมาอีก
ขณะที่นางฟังเสียงหัวเราะที่โอหังของเท็ดดี้ ก็ส่งกระแสจิตให้เฉินซ่าไปด้วย "ความสัมพันธ์ของหมิงเลี่ยกับข้าบริสุทธิ์ชัดเจน ดังนั้นท่านอย่าไปฟังคำพูดไร้สาระยุ่งเหยิงพวกนั้น"
เฉิงซ่านิ่งเงียบไปครู่หนึ่งนานพักใหญ่ถึงได้อืมออกมาคำหนึ่ง
อันที่จริงสำหรับโหลชีแล้วสามารถดูแลอารมณ์ความรู้สึกของเขาตลอดเวลาก็หาได้ยากมากแล้ว หากไม่ใช่หมอนี่เป็นคนขี้หึงตัวพ่อ ไหนเลยที่จะฟังคนอื่นพูดอะไรหน่อยก็ต้องอธิบายแล้ว?
เท็ดดี้กล่าวว่า: "แต่ว่า ชู้รักคนนั้นของแกรสชาติไม่เลวจริงๆ นอนกับเขาไปครั้งหนึ่งทำให้ฉันลืมไม่ลงจนถึงตอนนี้เลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผู้ชายที่อยู่ข้างกายของราชินีรสชาติค่อนข้างจะดีกว่าหรือเปล่า?" พูดไป สายตาที่ไม่หวังดีของเขาเหลือบมองผ่านใบหน้าของเฉินซ่าอีก ไม่ได้คิดเลยว่า หากไม่ใช่ว่าตอนนี้โหลชีดึงเฉินซ่าเอาไว้ เขาคงตายไปเป็นร้อยครั้งแล้ว
"ตอนนั้นไม่ใช่แกที่ร่วมมือกับคนอื่นวางแผนฆ่าเอาไว้อยากจะล่อให้ฉันติดกับหรอกเหรอ?" ความจริงเกี่ยวกับเรื่องในตอนนั้นโหลชีก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก ภารกิจในครั้งนั้นเดิมทีนางต้องเป็นคนไป แต่ว่าสุดท้ายหมิงเลี่ยกลับจะไปแทนนางให้ได้ สุดท้ายก็ตายไปในภารกิจครั้งนั้น ถึงแม้นางจะเร่งไปถึง แต่กลับช่วยเขาเอาไว้ไม่ทัน
นั่นคือความเจ็บปวดในใจของโหลชี
ได้ยินคำพูดของนาง เท็ดดี้หัวเราะเหอะๆแล้วกล่าวว่า: "ถูกต้อง ตอนนั้นเดิมทีมีคนจะซื้อชีวิตของแก แต่ว่าเดิมทีชู้รักของแกคนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องตายนี่นา ใครจะรู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาบอกว่าเขาไม่อยากมีชีวิตแล้ว? แม่ง เห็นได้ชัดว่าเขาส่งตัวเองไปให้ถูกยิงตายเองแท้ๆ ทำไมแกจะต้องมากัดฉันไม่ปล่อยเหมือนกับคนบ้ามานานหลายปีขนาดนี้ด้วย?"
โหลชีตะโกนเสียงดัง: "เป็นไปไม่ได้! หมิงเลี่ยจะแสวงหาความตายด้วยตัวเองได้อย่างไร?"
"กูกินอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำจนต้องเอาเรื่องนี้มาหลอกมึงหรือ?" เท็ดดี้ยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเช่นกัน เขาถ่มน้ำลายลงไปอย่างแรงแล้วกล่าวว่า: "ตอนนั้นเขายืนกรานว่าเขาอยู่มามากพอแล้ว เพราะเขาผิดต่อมึง และก็ผิดต่อเธอด้วย คั่นอยู่ตรงกลางระหว่างพวกเธอสองคนเขาเจ็บปวดแทบตาย เขาไม่อาจทำร้ายมึงได้ และก็ไม่สามารถทรยศเธอด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงทำได้แค่เลือกให้ตัวเองไปตายเท่านั้น! แม่งเอ๊ย เห็นได้ชัดเลยว่าให้กูมาเป็นแพะรับบาป!"
ฟังถึงตรงนี้ ในใจของโหลชีย่อมตกตะลึงอย่างมากอยู่แล้ว "แกพูดอะไร? คำพูดพวกนี้หมิงเลี่ยเป็นคนพูดเหรอ? เธอ? คือผู้หญิง ไม่ใช่ผู้ชาย?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ