ฤดูใบไม้ผลิปีที่สองของต้าเซิ่ง
ถึงแม้ว่าตรุษจีนกับเทศกาลโคมไฟได้ผ่านไปแล้ว แต่ว่าเมืองทั้งเมืองก็ยังเต็มไปด้วยโคมไฟลูกบอลหลากสีผูกริบบิ้น รื่นเริงและมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มยินดี
สวมใส่เสื้อผ้าใหม่กันแทบจะทุกคน ผู้ชายสวมใส่มงกุฎผมอย่างเคร่งครัด ผู้หญิงปักปิ่นระย้าที่โปรดปราณ แต่งองค์ทรงเครื่องกันอย่างสวยงาม
ท้องฟ้าเพิ่งจะสางขึ้นมา ทุกๆคนต่างก็เริ่มเตรียมตัวกันแล้ว มีเด็กบางคนถูกมารดาปลุกให้ตื่น ลืมตาที่ยังคงฝันอยู่ขึ้นมากึ่งหนึ่ง กล่าวถามอย่างไร้เดียงสา
"ท่านแม่ วันนี้คือวันอะไรหรือ?"
มารดาผู้อ่อนเยาว์ตอบอย่างมีความสุข: "บ่ายวันนี้ จักรพรรดิกับจักรพรรดินีของต้าเซิ่งเราก็จะกลับมาแล้ว!"
"บ่าย? เช่นนั้นตอนนี้ก็ยังเช้าอยู่เลย"
"ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องกันไง ยังต้องต้มเหล้าหมักหวานเอาไว้ให้บรรดาทหารของทัพใหญ่ ต้องให้พวกเขากินได้หวานมากเพียงพอ ต่อไปถึงจะได้อยู่ที่ต้าเซิ่งไปนานๆ อย่าได้ไปที่แผ่นดินใหญ่หลงหยิน"
เด็กน้อยเหมือนจะเข้าใจแต่จริงๆไม่เข้าใจ
ท้องฟ้าที่ยังไม่ทันได้สว่างจ้า จู่ๆก็มีเงาที่มีขนาดใหญ่บินผ่านท้องฟ้าไป ไม่ช้าก็บินไปถึงบนเขาจิ่วเซียว ลงสู่หลังเขาของตำหนักจิ่วเซียว
เงาร่างสองเงาลอยลงมาอย่างแผ่วเบา
เงาร่างที่อรชนอ้อนแอ้นตบไปที่อินทรียักษ์เบาๆ กล่าวเสียงเบาว่า: "เจ้าขาวลำบากเจ้าแล้ว ไปหลังเขาหารังพักผ่อนเองเถอะ"
"วู๊วู"
บนที่นั่งขนาดใหญ่ จิ้งจอกสีม่วงเงินตัวเล็กๆตัวหนึ่งโผล่ออกมา ร้องเสียงเบาออกมาคำหนึ่ง เหมือนกับกำลังบอกกับนางว่า มันจะดูแลเจ้าขาวอย่างดีเอง
เงาร่างที่อรชรอ้อนแอ้นประกฏว่าเป็นโหลชี นางเหลือบมองมันอย่างขบขันครู่หนึ่ง "เจ้าดูแลตัวเองให้ดี ที่นี่ไม่ได้มียาสมุนไพรที่ดีมากมายขนาดนั้นให้เจ้าแอบกินแล้ว"
อยู่ทางฝั่งซวนหยวนราชตระกูลเฉินวู๊วูกินของดีไปไม่น้อยเลย ตอนนี้ขนสีเงินม่วงแทบจะสามารถส่องประกายได้แล้ว ฟูมฟักได้อย่างเป็นประกายเงางาม
"ห้ามมารบกวนข้า มิเช่นนั้น......" เฉินซ่าก็เหลือบมองมันครู่หนึ่ง แต่สายตานี้กลับแฝงไปด้วยการข่มขู่ที่เข้มข้น
"วูวู!" น่ากลัวจัง
ไอสังหารของผู้ชายที่อัดอั้นมากว่าครึ่งปีช่างรุนแรงยิ่งนัก มันอยู่ให้ห่างหน่อยดีกว่า!
วู๊วูติดตามเจ้าขาวจากไปไกลในทันที
เฉินซ่าโอบเอวของโหลชีเอาไว้ กระโดดขึ้นมาสองสามที คนก็กลับไปถึงตำหนักสามที่จากไปปีกว่าแล้ว
ทุกอย่างในตำหนักสามยังคงเหมือนเดิม เพียงแต่พืชพรรณเขียวชอุ่มกว่าเมื่อก่อนเล็กน้อย
ตรงทางเดินยาวมีโคมวังหลวงใหม่เอี่ยมแขวนอยู่ทุกสองเมตร เนื่องจากเป็นการต้อนรับการกลับมาของจักรพรรดิและจักรพรรดินี ที่นี่ได้รับการจัดวางอย่างประณีต ทำความสะอาดอย่างดีแล้ว
ผลักประตูเข้าไปในตำหนักบรรทม ข้างในก็มีกลิ่นหอมจางๆของเตาถ่านเส้นเงิน อบอุ่นไปทั้งห้อง
บนเตียงใหญ่ถูกปูด้วยที่นอนอันใหม่ บนโต๊ะที่อยู่ด้านข้างมีถาดไม้จันทร์วางอยู่ ข้างบนมีเสื้อผ้าชั้นกลางสีแดงพับวางอยู่อย่างเรียบร้อย หนึ่งในชุดผู้หญิงชุดนั้น ข้างบนยังมีตู้โต้วสีแดงสดวางทับอยู่ด้านบนตัวหนึ่ง
โหลชีใช้นิ้วมือเกี่ยวสายรัดเลิกมันขึ้นมา ก็เห็นเป็ดแมนดารินไขว้คอคู่หนึ่งถูกปักเอาไว้บนตู้โต้วด้วยด้ายสีทอง
โหลชีรู้สึกขบขันขึ้นมาในทันที เหลือบมองไปที่เฉินซ่า "ท่านให้องครักษ์เยว่พาเอ้อร์หลิงกลับมาก่อน ก็เพื่อเรื่องนี้หรือ?"
จักรพรรดิบางคนเริ่มถอดเสื้อผ้าแล้ว จากนั้นก็มาถอดเสื้อผ้าของนาง
"ไม่ใช่ นี่ท่านกำลังจะทำอะไร?" โหลชีกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ ข้างในเปลือยเปล่า คลุมเสื้อคลุมเอาไว้แค่ตัวเดียว?
"คู่บ่าวสาวเข้าหอ หน้าที่สามีภรรยา เจ้าชอบคำเรียกแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น"
โหลชีรู้สึกแค่ว่าทั่วทั้งร่างกายไม่มีส่วนไหนที่ไม่อึดอัดเลย "ถ้าหากถูกคนเห็นเข้าล่ะ? ทำไมยังจะต้องออกมาด้วย"
"จักรพรรดินี ท่านคงลืมแล้วแน่เลย ตำหนักสามไม่มีใครกล้าเข้ามาโดยพลการ เราไปที่บ่อน้ำพุร้อนตำหนักมารุตกัน" ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมต้องไปในครั้งนี้ เป็นเพราะเขาไม่อยากให้สาวใช้ที่เตรียมเสื้อผ้าเดาออกว่าพวกเขาจะไปที่บ่อน้ำพุร้อน
ทางที่ดีที่สุดคือไม่มีคนมารบกวน
ฟ้ารู้ว่าครึ่งปีกว่าที่ผ่านมานี้ นอกจากการออกรบจากเหนือยันใต้ของพวกเขาในตอนแรก และอยู่ในสนามรบไม่สะดวกแล้ว เวลาต่อจากนั้นก็มีคนมากมายแย่งชิงผู้หญิงกับเขาอีก!
ซวนหยวนคง โหลฮ่วนเทียน หยุนโยว แม้กระทั่งยังมีเสด็จพ่อเสด็จแม่ ไท่ซ่างหวง! ที่ไร้เหตุผลที่สุดก็คือพ่อตาของเขาซวนหยวนจ้าน!
ใครเคยเห็นมาก่อนว่าดึกดื่นเที่ยงคืนคนเป็นพ่อจะวิ่งมาที่ข้างเตียงของลูกสาว บอกจะมาดูว่านางถีบผ้าห่มหรือเปล่า มาห่มผ้าห่มให้นาง?
ใครเคยได้ยินมาก่อนว่าลูกสาวอายุยี่สิบเอ็ดแล้ว ยังเอาแต่คะยั้นคะยอนางว่าจะนั่งบนหลังเล่นขี่ม้าหรือไม่อยู่อีก?
ใครเคยได้ยินมาก่อนว่าจะพาลูกสาวออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อซื้อขนมตลอดเวลา?
พวกนี้ ซวนหยวนจ้าน ไท่ซ่างหวงองค์ใหม่ของราชวงศ์ซวนหยวนล้วนทำ! ได้! แล้ว!
คนอื่นเขายังพูดได้อย่างหนักแน่นมีเหตุผลรองรับ สิบกว่าปีที่ผ่านมาล้วนไม่สามารถอยู่ข้างกายของลูกสาว อย่างไรก็ต้องให้เขาได้มีโอกาสชดเชย!
เฉินซ่านึกเสียใจภายหลังมากกว่าหนึ่งครั้ง ที่ตอนนั้นช่วยพ่อตาคนนี้ "บังคับ" ให้โหลฮ่วนเทียนสืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ น่าจะปล่อยให้เขาเป็นฮ่องเต้ต่อไป เขาถึงจะไม่มีเวลามายุ่งกับชีชีของเขามากมายขนาดนั้น
ดังนั้น จึงไม่สนใจคำเหนี่ยวรั้งและคัดค้านของทุกคน เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะพาโหลชีออกจากแผ่นดินใหญ่หลงหยิน กลับไปยังแผ่นดินใหญ่ซื่อฟาง กลับต้าเซิ่ง อยู่ที่นี่อย่างน้อยก็สงบเงียบ!
เดิมทีควรจะถึงตอนบ่าย ชาวบ้านจะมาต้อนรับตามตรอกซอย แต่ว่าฟ้ายังไม่ทันจะสาง เขาก็พาโหลชีนั่งเจ้าขาวกลับมายังตำหนักจิ่วเซียวแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ