"ยังไม่รีบตามหมอหลวงอีก!"
ตงสือยู่โกรธจัดกับเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เดิมเขาก็เวียนหัวกับเลือดอยู่แล้ว แต่หลังจากขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้แล้วก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะเปิดเผยความจริงเรื่องนี้มาตลอด จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อความเกรงขาม ตอนนี้กลับเริ่มทานทนไม่ไหวแล้ว
แต่เป่ยสาวเย่ากลับยังคงถลึงตากัดฟันกรอดใส่เขา ย้อนถามอย่างแค้นเคืองว่า "ท่านเคยบอกว่า องค์ชายคนโตไท่จื่อนั้นจะกำเนิดจากข้าเท่านั้น ตอนนี้ฮุ่ยเฟยกลับตั้งครรภ์ จะว่าอย่างไร?"
"ฮองเฮาจะต้องมาถกเถียงเรื่องพวกนี้กับข้าในเวลานี้จริงๆรึ?" ใบหน้าหล่อเหลาของตงสือยู่เต็มไปด้วยความอึมครึม
นอกจากเฉินซ่าแล้ว บัดนี้เขาเป็นกษัตริย์ที่หล่อเหลาเป็นอันดับสองในใต้หล้า แต่ด้วยฐานะกษัตริย์ ราชการที่ต้องจัดการทุกวัน คนที่ต้องป้องกัน พายุลมฝนที่ต้องรับมือนับว่ามีมากกว่ายามเป็นไท่จื่อมากนัก บวกกับสนมนางในนับพันทะเลาะเบาะแว้งไม่หยุด รูปร่างหน้าตาของเขาในเวลานี้ห่างไกลจากสุภาพบุรุษหน้าหยกที่อ่อนโยนเมื่อตอนนั้นนัก ถึงจะมีความน่าเกรงขามของกษัตริย์ แต่ก็เพิ่มความสุขุมมาอีกสามส่วน
"กษัตริย์ตงชิงนี่มันเรื่องอะไรกัน?"
รอจนเสียงเยว่ดังขึ้น เหล่าคนตงชิงจึงค่อยรู้ตัวว่า คนที่พวกเขารอได้มาถึงตรงหน้าแล้ว
ม้าศึกสง่างาม ทหารช่างดูน่าภูมิใจ
รถม้าหรูหรางดงาม ชายหญิงโดดเด่นคู่นั้นมองดูความโกลาหลทางนี้ด้วยท่าทางดุจผู้อยู่เหนือผู้อื่น
เฉินซ่ายังคงเป็นเฉินซ่าที่เคยเจอเมื่อคราแรก เพียงแต่มีความเคร่งขรึมมาหลายส่วน
โหลชียังคงเป็นโหลชีคนนั้น แต่กลับยิ่งงดงามเย้ายวนกว่าเมื่อก่อนหลายส่วน
หรือกระทั่ง เยว่ เฉิงสิบ พวกเขาก็มีความมั่นใจกว่าเมื่อก่อน สง่างามหล่อเหลาจนสตรีมองแวบเดียวก็หน้าแดงเรื่อ
คนกลุ่มนี้จะมาเย้ยหยันกดทับคนอื่นตั้งแต่เกิดเลยกระมัง?
"จักรพรรดิ จักรพรรดินี!"
"คารวะจักรพรรดิจักรพรรดินี ขอจักรพรรดิจักรพรรดินีทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี"
ไม่รอตงสือยู่ทำอะไร ราษฎรของเมืองนั่วราก็คุกเข่าลงไปตามๆกัน
ในรถม้าคันที่สอง ซวนหยวนฮ่วนเทียนที่นั่งเอนพิงกินองุ่นอย่างเกียจคร้านเหล่พ่อเขาหนึ่งที "ท่านไม่อยากไปเด่นสักหน่อยรึ? ฮ่องเต้จ้านแห่งแผ่นดินใหญ่หลงหยิน พูดออกไปทำพวกเขาตกตะลึงลุกไม่ขึ้นเสียสามวันเชียวนะ..." ซวนหยวนจ้านเหล่มองเขา หัวเราะด่าว่า "ข้าเป็นคนที่ชอบทำตัวเด่นรึ? ประมุขตึกบุษบาพันธ์?"
ซวนหยวนคงที่อยู่ข้างๆกลับเหลือบตามองบน ขี้เกียจสนใจพ่อลูกปัญญาอ่อนคู่นี้
ระหว่างทาง ซวนหยวนฮ่วนเทียนได้เล่าเรื่องที่เขาเปิดตึกบุษบาพันธ์ไว้ที่เมืองนั่วรานี่ จากนั้นการพบกันครั้งแรกกับเสี่ยวชีที่ตึกบุษบาพันธ์ รวมถึงขั้นตอนการนับญาติไปแปดร้อยรอบแล้ว ฟังจนขี้หูเขาเต้นระบำหมดแล้ว
แต่ว่าเขายกโทษให้สองคนนี้ที่มีส่วนร่วมในชีวิตเสี่ยวชีน้อยนัก ไม่เหมือนเขา....
การมาของคณะต้าเซิ่ง ประหนึ่งเป็นการเสริมความมั่นใจให้กับเมืองนั่วรา
พวกโหลชีกับเฉินซ่าพากันเข้าพักตึกบุษบาพันธ์
คณะตงชิงรู้เพียงแต่ว่าประมุขตึกบุษบาพันธ์มารอรับด้วยตัวเอง ตึกบุษบาพันธ์ก็ไม่เปิดรับแขกภายนอกชั่วคราว ไม่รู้เลยสักนิดว่า ประมุขตึกบุษบาพันธ์นี่ก็คือฮ่องเต้ของราชวงศ์ซวนหยวนแห่งแผ่นดินใหญ่หลงหยิน และยังเป็นฮ่องเต้ที่ชอบหนีงานด้วย
ซวนหยวนฉงโจวในเวลานี้กำลังนั่งในห้องทรงพระอักษรอย่างสง่าด้วยใบหน้าของเขา อ่านฎีกาไปพลางก็ก่นด่าอาลุงลูกพี่ลูกน้องไร้น้ำใจสามคนนี้ไปด้วย
เหล่าคนที่เข้าพักตึกบุษบาพันธ์ย่อมขอบคุณพลางปฏิเสธงานเลี้ยงต้อนรับของตงชิงกับเป่ยชาง อย่าว่าแต่พวกเขาไม่สนใจจะดูการร่ายรำและเสวนากับคนเหล่านั้น ต่อให้อยาก เฉินซ่าก็ไม่มีทางเห็นด้วยให้โหลชีไปนั่งดื่มเหล้าดูการร่ายรำอยู่ครึ่งค่อนวันแน่
ยามเย็นตงสือยู่ถึงจะพาเป่ยสาวเย่ามาที่ตึกบุษบาพันธ์
ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากพาเป่ยสาวเย่ามา แต่ที่นี่คือเป่ยชาง ยังไงซะเขาต้องไว้หน้าเป่ยสาวเย่า หากตอนบ่ายเกิดเรื่องอย่างนั้นที่นอกเมือง ตกดึกเขากลับไม่พานางมา ย่อมต้องมีข่าวลือว่า ฮองเฮาถูกเขาลงโทษแล้วแน่
ยังไงซะเป่ยสาวเย่าก็เป็นองค์หญิงเป่ยชาง
ตอนพวกเขามา เฉินซ่ากับโหลชีกำลังนั่งฟังรายงานผู้ส่งสารของเป่ยชาง ผู้ส่งสารที่นี่คือตู้เหวินฮุ่ย หัวหน้ากลุ่มที่ถูกเฉินซ่าส่งมาหาผู้ส่งสารสามร้อยคนตอนนั้น และเคยร่วมเป็นร่วมตายมากับพวกเขาในทะเลสาบลืมทุกข์ที่อยู่บนเขานอกเมือง
หลังจากได้รับข่าวว่าจักรพรรดิจักรพรรดินีจะมาเยือน ตู้เหวินฮุ่ยก็พาคนไปสืบก่อนแล้ว
"ข้าน้อยพาคนไปสิบสองคน กลับมาเจ็ดคน มีห้าคนโดนหมอกดำกลืนกินไปแล้ว" เฉินซ่ากับโหลชีก็ไม่ได้กันตงสือยู่กับเป่ยสาวเย่าออกไป แต่กลับให้พวกเขาเข้ามาร่วมฟังด้วย เป่ยสาวเย่าอุทานด้วยความตกใจว่า "สวรรค์ เป็นเรื่องจริงรึ? หมอกดำนั่นกินคนจริงรึ?" เฉินซ่าเหล่นางหนึ่งที พลางนั่งลงอีกข้าง ซวนหยวนฮ่วนเทียนที่ใส่หน้ากากปิดหน้าครึ่งหนึ่งแต่งตัวเป็นประมุขตึกบุษบาพันธ์กลับไม่เกรงใจ ย้อนว่า "ตกใจอะไรนักหนา? ทำคนอื่นตกใจเจ้าจะชดใช้ไหวรึ?"
องค์หญิงเป่ยชาง ฮองเฮาตงชิงอะไร เขาไม่เห็นอยู่ในสายตาหรอก
ถ้าเสี่ยวชีตกใจไปเรื่องใหญ่แน่
เป่ยสาวเย่าสีหน้าไม่ชอบใจทันที ในนี้ไม่ว่าใครตะคอกนาง นางก็ไม่กล้ายอกย้อนแน่ แต่ประมุขตึกบุษบาพันธ์คนหนึ่งใหญ่มาจากไหนกัน?
นางตบโต๊ะผ่าง กำลังจะชี้หน้าด่า ตงสือยู่ก็ตกใจจนเหงื่อซก รีบคว้ามือนางไว้พลางเรียกเตือน "ฮองเฮา!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ใต้ร่มยาใจ